บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

“นังดาว กลับมานี่นะ”

“ลูกดาว ไม่ต้องขอโทษพ่อหรอกลูก อยู่บ้านเราต่อไปเถอะ” นิกรเองก็พูดรั้งให้จันทร์เจ้าอยู่ที่บ้านต่อเช่นกัน แต่เวลานี้หญิงสาวไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ความน้อยอกน้อยใจที่มีต่อแม่ทำให้จันทร์เจ้ายอมออกไปจากบ้าน ทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดจะทำแบบนี้มาก่อน

“ปล่อยมันไป นังลูกไม่รักดี อย่าซมซานกลับมาบ้านก็แล้วกัน”

“พี่รำไพ นั่นลูกนะพี่ จะไล่ไปแบบนี้เหรอ” นี่เกินจากสิ่งที่นิกรคิดไว้ เขาไม่อยากให้จันทร์เจ้าไปไกลตา เพราะแค่เธอออกไปทำงานที่โรงพยาบาลก็มากพอแล้ว แต่รำไพไม่ฟังอะไรทั้งนั้น

“ขึ้นไปพักผ่อนเถอะนิกร ฉันเหนื่อย เธอเองก็จะได้พักด้วย หมอเย็บแผลตั้งหลายเข็ม ไม่เจ็บหรือ” ขณะพูดรำไพก็ยกมือจับศีรษะที่มีผ้าพันแผลติดอยู่ของนิกรอย่างเบามือ

“เจ็บพี่เจ็บ” นิกรจึงเออออตามไปก่อน รำไพพยุงสามีเด็กเข้าไปในห้องที่อยู่ชั้นบน จันทร์เจ้าเก็บของเท่าที่จำเป็นใส่กระเป๋าแล้วออกไปโดยกำชับให้เพ็ญนภาซึ่งนอนห้องเดียวกันดูแลตัวเองให้ดีๆ อย่าไว้ใจใครมาก แล้วเธอจะแวะมาหาบ่อยๆ หรือมีอะไรก็โทรหาเธอได้ตลอดเวลา หญิงสาวไม่ได้อธิบายอะไรกับน้องมากนักว่าทำไมเธอต้องไปดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้และเพ็ญนภาเองก็ไม่ได้ถามอะไร เพราะรู้ๆ กันอยู่

อาการบาดเจ็บของนิกรที่ถูกจันทร์เจ้าตีหัวไม่ได้หนักหนาอะไรมาก แต่ความขี้เกียจทำให้นิกรทำเป็นนอนซมอยู่ติดบ้านหลายวัน นั่งกิน นอนกินให้รำไพดูแล ความที่เป็นห่วงสามีเด็ก รำไพถึงกับยอมปิดร้านเลยทีเดียว แต่พอเบื่อก็ขโมยเงินของรำไพไปถลุงในบ่อนอีกจนได้ เสียงอึกทึกครึกโครมของผู้คนจำนวนหนึ่งที่จับกลุ่มเล่นการพนันอย่างไม่คิดจะเกรงกลัวกฎหมายภายในตึกแถวห้องแคบๆ สี่ชั้นซึ่งมีคนคอยสอดส่องมองต้นทางให้เป็นอย่างดี หลายคนยิ้มกว้างกับคำว่ามือขึ้นได้เงินเป็นกอบเป็นกำ ผิดกับอีกคนที่มีแต่ความเครียด เพราะเงินได้ร่อยหรอจนหมดกระเป๋าไปแล้ว

“ผมขอเครดิตเพิ่มสักหมื่นได้ไหมพี่กำแหง” น้ำเสียงของนิกรอ้อนวอนดูน่าสงสาร เพราะเขานั้นถือว่ามี เครดิตดีในบ่อนแห่งนี้ ขอกี่ครั้งก็ได้ทุกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว

“ไม่ได้ ยอดเก่าเอ็งก็ยังค้างคิดจะติดยอดใหม่อีกแล้วเหรอ” กำแหงเจ้าของบ่อนค้านทันที บ่อนแห่งนี้ก็แค่บ่อนเครือข่าย เพราะคนอย่างกำแหงนั้นทำงานผิดกฎหมายอยู่หลายชิ้น ทั้งเปิดบ่อน ส่งยา ขายของเถื่อนและค้ามนุษย์

“โธ่...พี่ ผมก็กำลังหาเงินมาใช้ให้อยู่ แต่ถ้าไม่มีมาต่อทุน ผมจะเอาเงินที่ไหนมาคืนพี่”

“พูดหมาๆ นะเอ็ง ยอดเก่าเป็นแสนๆ คืนมาก่อนสิ”

“โธ่...พี่กำแหง” นิกรเข่าแทบทรุดเมื่อกำแหงเอ่ยถึงหนี้เก่าที่ยังหาเงินมาจ่ายคืนไม่ได้สักบาท มีแต่จะก่อเพิ่มเท่านั้น

“ไม่ต้องมาธ่งมาโธ่ กูไม่ใช่พ่อมึง ถ้าไม่มีเงินก็ไสหัวไป ส่วนยอดเก่ากูให้เวลามึงสามวันไปหาเงินมาคืนกูให้ได้ ไม่งั้นมึงตายแน่ไอ้นิกร” พูดจบกำแหงก็เดินไป นิกรนั้นเข้าไปคว้าต้นแขนไว้ แต่ก็มีคนเข้ามาขวางจนเข้าไม่ถึงตัวกำแหงเลย

“พี่...พี่กำแหง”

“โยนมันออกไปจากบ่อนกู ถ้าไม่มีเงินมาคืนก็อย่าให้มันเข้ามาที่นี่อีก” กำแหงเอ่ยสั่งกับลูกน้องซึ่งเสียงก็ดังพอที่จะทำให้นิกรได้ยินเช่นกัน พูดยังไม่ทันขาดคำ ชายฉกรรจ์ก็เข้ามาคว้าตัวนิกรพร้อมกับลากตัวออกไปข้างนอกตามคำสั่งของเจ้านาย

“โธ่...พี่ ให้เวลาฉันมากกว่านั้นหน่อย สามวันหาเงินสามแสนฉันไม่มีปัญญาจริงๆ” นิกรเหลียวหลังกลับไปขอร้อง

“ไม่มีปัญญาก็เรื่องของมึง ไม่เกี่ยวกับกู” กำแหงยิ้มเหี้ยมอย่างไม่ปรานีใคร ก่อนจะตะคอกสั่งลูกน้องอีก “เฮ้ย! พวกมึงรีบๆ ลากตัวมันออกไป”

“พี่กำแหงให้เวลาฉันหน่อยนะพี่” ขณะถูกลากตัวออกไปจากบ่อนนิกรก็ยังอ้อนวอน แต่กำแหงนั้นไม่ฟังอะไร ชายฉกรรจ์สี่คนลากนิกรออกไปโยนไว้หน้าตึกแถว แต่เมื่อนิกรคิดจะกลับเข้าไปข้างในก็ปล่อยหมัดใส่บริเวณท้องเต็มๆ แรงจนนิกรจุกตัวงอเป็นกุ้ง ก่อนจะปิดประตูใส่หน้าดังปัง

“โธ่...โว้ย จะไปหาเงินที่ไหนมาคืนมันวะกู” แม้จะจุกแต่นิกรก็ยังมีแรงที่จะสบถออกมาอย่างหัวเสีย เพราะยังไม่อยากตาย ความที่มาบ่อนนี้ประจำทำให้รู้นิสัยใจคอของกำแหงดีว่าเป็นคนพูดจริงทำจริง ขืนในสามวันนี้ยังหาเงินมาคืนไม่ได้มีหวังได้ตายเป็นผีเฝ้าป่าเป็นแน่ นิกรกระฟัดกระเฟียดกลับออกไปจากบ่อน เมื่อถึงบ้านก็เอาแต่ดื่มเหล้าจนเมามาย รำไพเองก็เข้าหน้าสามีเด็กไม่ติดไปด้วย วันนี้ทำอะไรก็ผิดไปเสียหมด ทั้งๆ ที่เธอก็เหนื่อยกับการทำงาน แต่ก็ยังต้องมารับอารมณ์โมโหร้ายของนิกรอีก แต่ถึงอย่างนั้นรำไพก็ยอม

ส่วนจันทร์เจ้านั้นเมื่อออกจากบ้านก็มาอาศัยอยู่ที่หอพักของโรงพยาบาล เธอปิดเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ยอมให้ใครรู้แม้กระทั่งจอมขวัญ เพราะถ้าเพื่อนรักรู้ต้องไม่ยอมให้เธออยู่ในหอพักอีกแน่ๆ เธออยากอยู่ที่นี่ก่อนสักระยะ แต่ตลอดหลายวันที่ออกจากบ้านมา หญิงสาวเป็นห่วงน้องสาวมาก เพราะกลัวว่าเพ็ญนภานั้นอาจตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกับเธอก็เป็นได้ จันทร์เจ้าหยิบโทรศัพท์โทรบอกน้องสาวเพื่อบอกให้เตรียมตัวไว้ เพราะจะไปรับออกมาอยู่ข้างนอกด้วยกัน

“ต่าย พี่เองนะ”

“มีอะไรคะ พอดีต่ายอ่านหนังสืออยู่” เพ็ญนภาพยายามบอกปัด เพราะเธอไม่อยากคุยกับจันทร์เจ้านั่นเอง คนเป็นพี่ได้แต่แอบถอนหายใจออกมาเบาๆ

“พี่บ้านเป็นไงบ้าง อานิกรทำอะไรต่ายหรือเปล่า”

“เปล่านี่คะ” น้ำเสียงเย็นชาของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องเอ่ยตอบอย่างไม่ไยดี ชีวิตเธอยังคงเป็นปกติดีและดีมากเสียด้วยตั้งแต่ที่จันทร์เจ้าไม่อยู่

“ดีแล้วล่ะ พี่จะได้สบายใจขึ้นมาหน่อย”

“ที่บ้านไม่มีใครพูดถึงพี่สักคน แม่ก็ไม่พูด” เด็กสาวเอ่ยประโยคที่หวังทำให้คนฟังเจ็บช้ำ แต่จันทร์เจ้ากลับเฉย เพราะรู้ว่าต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว

“พี่รู้”

“จะโทรมาถามแค่นี้ใช่ไหม” เมื่อทำให้พี่สาวโกรธไม่ได้เพ็ญนภาก็คิดจะวางสายอีกครั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel