บทที่ 5 เรื่องราวในอดีต
“ยัยเอยกลับมาแล้วหรอ”
“สวัสดีค่ะคุณแม่ ทำอะไรอยู่หรอคะ”
“อ่านหนังสืออะไรไปเรื่อยน่ะ ลูกไปเที่ยวมาสนุกไหม”
“สนุกมากเลยค่ะคุณแม่ คุณดิษฐ์เขาดูแลเอยอย่างดีเลยค่ะ”
“แม่ไม่ค่อยชอบนายดิษฐ์อะไรนี่เลยนะลูก แม่ว่าผู้ชายคนนี้ไม่น่าไว้ใจ”
“คุณแม่สัญญากับเอยแล้วนี่คะว่าจะตามใจเอยเวลาเอยจะชอบจะคบกับใคร”
“แม่ก็แค่เป็นห่วงแค่นั้นเอง”
“เอยทราบค่ะว่าคุณแม่รักเอย เอยก็รักคุณแม่นะคะ”
“แม่รักลูกมากนะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่ทำก็เพื่อลูกทั้งนั้นลูกรู้ใช่ไหม”
“วันนี้แปลกมากเลยค่ะที่แม่ใหญ่ออกมาทานของว่างข้างนอก”
“นางนั่นมันมีคนโปรดคอยดูแลไม่ห่างน่ะสิ”
“ใครกันคะคนดูแลก็พี่หลินไม่ใช่หรอคะ”
“ไม่ใช่หรอก ตาเอกพาแฟนมาอยู่ด้วยแล้ว”
“จริงหรือเปล่าคะคุณแม่ พี่เอกไปมีแฟนตั้งแต่ตอนไหนนะเอยไม่รู้เลย”
“จริงสิ”
“เอยไม่เจอเขาเลยค่ะสวยไหมคะ”
“ก็พอไปวัดไปวาได้แต่ลูกสาวแม่น่ารักกว่าเยอะ” เยาวเรศมั่นใจว่าความน่ารักและความสาวของลูกสาวชนะขาดลอยเมื่อเทียบกับมนพัทธ์
“คิกๆคุณแม่ก็พูดไปค่ะ” เอยหัวเราะชอบใจออกมาเบาๆ
“ไปพักเถอะเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ แม่ว่าแม่ก็จะพักสักงีบ”
“ค่ะคุณแม่” เยาวเรศไม่ได้จะไปพักอย่างที่บอกกับลูกสาวแต่หล่อนต้องไปตอบคำถามคนที่ซ่อนตัวอยู่หลังประตูบ้านใหญ่หลังบ้าน
“ลูกเป็นไงบ้างไปเที่ยวมาสนุกไหม” มนตรีอยากจะรู้ความเป็นไปของลูกสาว เขาเฝ้ามองลูกน้อยมาตลอด การที่ลูกอยู่ภายใต้การดูแลของอติรุจก็มีข้อดีเพราะลูกสาวของเขาจะได้สุขสบายไม่ต้องมาลำบากมีฐานะเป็นแค่ลูกของคนขับรถ
“อย่างยัยเอยมีหรอที่จะไม่สนุก”
“ลูกสนุกก็ดีแล้วแต่มีผู้ชายคนหนึ่งทำไมถึงได้ดูสนิทสนมเกินควร”
“จะเป็นใครไปได้นอกจากแฟนของยัยเอย”
“แฟน?”
“ใช่ เลิกทำโอเวอร์สักทียัยเอยโตขนาดนี้จะมีแฟนก็ไม่แปลกหรอกนะ” เยาวเรศบอกออกไปด้วยความรู้ลึกเอือมระอา
“แต่ผู้ชายคนนั้นไว้ใจได้หรือเปล่าเยาว์” มนตรียังคงเป็นห่วงกลัวว่าลูกสาวจะถูกคนไม่ดีหลอกลวง
“ไว้ใจได้ไม่ได้ฉันก็ห้ามยัยเอยไม่ได้หรอก พี่มนตรีก็รู้ว่ายัยเอยถูกตามใจมาตั้งแต่เด็กๆ คุณอติรุจเขารักยัยเอยมาก”
“หึรักมากงั้นหรอ ไอ้อติรุจมันโง่ทุกวันนี้ยังคิดว่าหนูเอยเป็นลูกมันอยู่เลย”
“อย่าเสียงดังสิเดี๋ยวใครก็มาได้ยินหรอก”
“อย่าลืมนะว่าที่เยาว์ได้ดีทุกวันนี้มันก็เพราะพี่” มนตรีบอกออกไปเสียงดัง ที่เยาวเรศมีทุกวันนี้ก็เพราะว่าเขาแนะนำหล่อนให้รู้จักกับอติรุจในฐานะน้องสาว
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน
มนตรีคบหากับเยาวเรศซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ทั้งสองถูกผู้ใหญ่จับได้ถึงความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมจึงให้ทั้งคู่ผูกข้อไม้ข้อมือเป็นผัวเมียให้เป็นเรื่องเป็นราว มนตรีเข้ามาทำงานเป็นคนขับรถได้สองปีก็พาเยาวเรศมาอยู่ด้วยกัน จากนั้นไม่นานเยาวเรศก็มีโอกาสได้พบกับอติรุจ หล่อนชอบผู้ชายที่คนเป็นสามีแนะนำให้รู้จักในฐานะนายจ้าง เขาดูสูงส่งและน่าครอบครอง ไม่ต่างจากอีกฝ่ายเพราะอติรุจก็ชอบเยาวเรศตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกันนั่นเพราะเธอเป็นคนช่างพูดและช่างออดอ้อนจนผู้ชายหลายคนต่างก็หลงตามๆกัน แม้มนตรีจะต้องปวดใจแต่เพราะปัญหาหนี้สินจึงยอมให้แฟนสาวมาสนิทสนมกับผู้เป็นนายจนถึงขั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งโดยที่ฝนแก้วภรรยาของอติรุจไม่ทราบเรื่องราวเลย อติรุจจะให้เงินกับเยาวเรศเสมอถ้าเธอร้องขอ หนี้สินหมดไปแต่ปัญหาใหญ่ก็เข้ามาแทน นั่นก็คือเยาวเรศกำลังตั้งครรภ์ เยาวเรศมองเห็นช่องทางที่จะสลัดมนตรีทิ้ง
“พี่มนตรีจ๊ะ คือว่า...เยาว์” หญิงสาวแสร้งเป็นลังเลที่จะบอกความจริง
“เยาว์ทำไมบอกพี่สิ”
“เยาว์กำลังท้องค่ะ”
“นี่เยาว์ท้องลูกของเราหรอ”
“ใช่จ้ะพี่”
“พี่ดีใจจังเลยเยาว์” ที่เขามั่นใจว่าเป็นลูกของเขาเพราะเยาวเรศบอกเสมอว่าเวลามีความสัมพันธ์กับอติรุจหล่อนป้องกันเสมอ
“แต่เยาว์เสียใจ”
“เสียใจอะไรกันเยาว์ไม่ดีใจที่มีลูกกับพี่หรอ”
“เยาว์จะดีใจได้ยังไงในเมื่อเรากำลังจะทำให้ลูกลำบาก พี่รู้ไหมว่าการจะมีลูกสักคนมันต้องใช้เงินเยอะขนาดไหน” คำตอบของหญิงสาวคือเรื่องจริงเพราะชีวิตคนๆหนึ่งกว่าจะเติบโตมาได้ต้องใช้เงินมากมายแต่ว่าตอนนี้เขานั้นไม่มี
“เยาว์ต้องบอกกับคุณอติรุจ”
“อะไรนะคะ” เธอแสร้งถามเสียงดัง
“เยาว์ต้องบอกว่าท้องกับคุณอติรุจลูกของเราจะได้สุขสบาย” เยาวเรศยิ้มออกมาเต็มใบหน้าแผนการสลัดมนตรีทิ้งใกล้จะสำเร็จแล้วสินะ
“พี่พูดจริงใช่ไหมจ้ะ เยาว์บอกอย่างนั้นได้ใช่ไหม”
“ได้สิบอกได้เลยพี่ไม่อยากให้ลูกของเราต้องมาลำบาก คุณอติรุจเลี้ยงลูกของเราได้แน่นอน เผลอๆรักมากว่าลูกของคุณฝนแก้วซะอีก”
“ได้เลยจ้ะ เยาว์จะรีบบอกคุณอติรุจเขาจะต้องดีใจมากแน่ๆ” หญิงสาวดีอกดีใจคิดวาดฝันจะได้ไปเป็นคุณนายนั่งกินนอนกินในบ้านของอติรุจ
