บท
ตั้งค่า

6. เพื่อนเก่า

ใบหม่อน เริ่มมีสติรีบผลุนผลันลุกไปเข้าห้องน้ำทันทีด้วยใจที่เต้นระทึก เธอมีทั้งความกล้าและความกลัวเมื่อวรเมธเล้าโลมอย่างคนมีประสบการณ์ และกำลังจะถอดชุดของเธอออก แต่เสียงมือถือที่ดังขึ้นนั้นทำให้ทุกอย่างหยุดชะงักไปได้

วรเมธ เห็นใบหม่อนเข้าไปในห้องน้ำแล้ว เขาจึงเดินไปกดรับสายที่ด้านนอกตรงระเบียงห้องด้วยความร้อนใจ

“กุ๊ก..คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” เขาส่งเสียงถามคนที่โทรมาอย่างร้อนรน

“เมธ..นี่แม่เอง ตอนนี้ยัยกุ๊กอยู่ที่โรงพยาบาลรีบมาด่วนเลย” เสียงคนที่โทรมาก็คือมารดาของกานดา ทำให้วรเมธตกใจมาก เขารีบถามกลับไปทันที อารมณ์ตัณหาหน้ามืดเมื่อสักครู่หายไปจนหมดสิ้น

“เกิดอะไรขึ้นครับคุณแม่”

“ก็ยัยกุ๊กน่ะสิ หกล้มตกบันไดไม่รู้ว่าลูกในท้องจะเป็นยังไง แม่อยากให้เมธ รีบมาโรงพยาบาล”

“อะไรนะครับ..แล้วตอนนี้กุ๊กกับลูกเป็นไงบ้างครับ”

วรเมธ ตกใจรีบถามด้วยความเป็นห่วง

“กุ๊กอยู่ในห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเป็นไงบ้าง เมธรีบมาก็แล้วกัน”

วรเมธ หน้าซีดปากสั่นด้วยความเป็นห่วงภรรยา เขาถามชื่อโรงพยาบาล แล้วก็รีบเดินไปหาใบหม่อนบอกว่าจะต้องรีบกลับกรุงเทพฯด่วน ใบหม่อนเห็นท่าทางรีบร้อนของเขาก็ตกใจตามไปด้วย

“แม่ผมป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ผมต้องรีบไป”

เขาบอกหน้าเศร้า ใบหม่อนพลอยไม่สบายใจไปด้วย

“ใบหม่อนไปด้วยค่ะ”

ใบหม่อน ก็อยากจะไปเยี่ยมมารดาของเขาเหมือนกัน แม้ว่าวรเมธจะไม่เคยพาไปพบกับพ่อแม่ของเขามาก่อนแต่เขาก็ได้เล่าให้ฟังเสมอว่ามารดาเขาป่วย

“อย่าเลย..คือ..ผมไม่สะดวกน่ะ มันดูฉุกละหุกไปหน่อย ตอนนี้ใบหม่อนอยู่ที่นี่ไปก่อนนะ พรุ่งนี้ขึ้นรถตู้โดยสารกลับกรุงเทพฯก็ได้ แล้วค่อยเจอกันนะ”

เขาบอกใบหม่อนด้วยสีหน้ามีกังวล

“ใบหม่อนกลับกรุงเทพฯพร้อมคุณคืนนี้เลยก็ได้ค่ะ”

“อย่าเลย..ใบหม่อนอุตส่าห์มาแล้ว อยู่ถึงพรุ่งนี้ค่อยกลับก็ได้ ผมให้ค่ารถค่าอาหารไว้ใช้จ่าย แล้วผมจะโทรหานะ”

วรเมธไม่ยอมให้ใบหม่อนได้ปฏิเสธ เขาเปิดกระเป๋าสตางค์หยิบธนบัตรวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง สั่งให้เธอล็อคห้อง แล้วเขาก็รีบขอตัวออกไปทันที

ใบหม่อนได้แต่เป็นห่วงและภาวนาให้มารดาของเขาอย่าได้เป็นอะไรมาก เธอเชื่อสนิทว่าคนที่อยู่โรงพยาบาลนั้นคือมารดาของเขาจริง ๆ

...

“ใบหม่อน!.”

เสียงร้องเรียกชื่อใบหม่อนที่ดังมาจากด้านหลัง ทำให้ผู้ที่ถูกเรียกต้องเอี้ยวตัวไปมองด้วยความตกใจ ในขณะที่เธอกำลังเดินชมชายหาดยามเช้าอย่างเพลิดเพลิน

“คุณเรียกฉันหรือคะ”

ใบหม่อน ถามหญิงสาวที่อยู่ในชุดบิกินี่ที่ท่อนบนเห็นหน้าอกอวบสล้างที่ดันออกนอกเสื้อชั้นในอย่างเต็มตา ส่วนท่อนล่างก็เป็นกางเกงว่ายน้ำที่ไม่ต่างจากกางเกงชั้นในเพียงแต่เนื้อผ้าเป็นแบบผ้ายืดสีสดใสสะดุดตา เผยให้เห็นสะโพกผายที่อวดโชว์ขาอ่อน ใบหม่อนแน่ใจว่าไม่เคยรู้จักใครที่มีบุคลิกหน้าตาแบบนี้มาก่อน

“นี่เธอจำฉันไม่ได้จริง ๆ เหรอใบหม่อน ดูดี ๆ สิจ๊ะ”

ผู้หญิงในชุดบิกีนี่จ้องหน้าใบหม่อนยิ้ม ๆ ใบหม่อนพยามยามสำรวจใบหน้าของผู้หญิงตรงหน้า ที่จมูกโด่งแบบคนที่ไปเสริมดั้งมา

“อุ๊ย..เขียด..ใช่เขียดหรือเปล่า”

ใบหม่อน โพล่งชื่อของเพื่อนที่เป็นคนหมู่บ้านเดียวกันออกมาด้วยความตื่นเต้น แม้เพื่อนคนนี้จะไปทำหน้าทำจมูกจนสวยขึ้นผิดหูผิดตา แต่ก็ยังมีเค้าเดิมให้จำได้บ้าง โดยเฉพาะดวงตากับริมฝีปากที่มีไฝอยู่มุมปากล่างซ้าย

“ว้าย..อย่าเรียกเสียงดังสิ ใบหม่อน”

สาวชุดบิกินี่หันซ้ายแลขวาด้วยเกรงว่าจะมีใครได้ยินชื่อดั้งเดิมของตัวเอง

“ก็ฉันดีใจที่ได้รู้ว่าเป็นเธอน่ะสิ ยัยเขียด”

ใบหม่อน ยังตื่นเต้นไม่หายที่ได้พบกับเพื่อนสมัยเรียนวัยเด็กที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันในชนบท แต่หลังจากที่ทั้งคู่เรียนจบมัธยมปลายแล้วต่างก็แยกย้ายกันไปเรียนต่อ ใบหม่อน เข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่จังหวัดบ้านเกิด ส่วนเพื่อนคนนี้ได้ข่าวว่าเรียนต่อที่กรุงเทพฯ จึงไม่ค่อยได้พบเจอกันอีก ไม่คิดว่าจู่ ๆ จะได้มาพบกันที่พัทยานี้ได้

“ฉันเปลี่ยนชื่อเป็นมีมี่แล้วจ๊ะ เรียกฉันว่ามีมี่ดีกว่า”

“แหม..เปลี่ยนชื่อเป็นฝรั่งเลยนะ แล้วชื่อจริงยังเป็นนางสาวเขียดจะนา อยู่หรือเปล่าล่ะ”

ใบหม่อนอยากรู้ เพราะชื่อเขียดจะนา เคยทำให้เพื่อนของเธอมักจะถูกล้อจากเพื่อนในห้องเรียนอยู่เสมอ

“ฉันเปลี่ยนตั้งแต่เข้ามาอยู่กรุงเทพฯใหม่ ๆ แล้วย่ะ ใครจะกล้ามีชื่อตลกเชย ๆ แบบนั้นอยู่อีกล่ะ” เจ้าหล่อนมองค้อน

“แต่ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ก็เป็นสิริมงคลอยู่แล้วนะ” ใบหม่อนว่า

“ยี้..ไม่เอาหรอก ชื่อเขียดจะนา...ฟังยังไงก็เช้ยเชย”

เธอทำหน้าเบ้ขึ้นมาทันทีจนใบหม่อนต้องหัวเราะคิกคัก

“แล้วเธอเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นอะไรล่ะ” ใบหม่อนอยากรู้

“ธัญญ่า ต้องออกเสียงคำหลังเป็นย่านะ ไม่ใช่ยา” เจ้าของชื่อรีบบอกเอาไว้ก่อน

“อ๋อ..ทานหญ้า..”

ใบหม่อน แกล้งลากเสียงยาวหยอกล้อเพื่อนเก่า

“ไม่ใช่ทานหญ้า..ออกเสียงว่าทันย่า แหม..เธอล่ะชอบบูลลี่ล้อเลียนฉันเหมือนสมัยเรียนเลยนะ”

ธัญญา หรือเขียดจะนาในอดีตต่อว่าเพื่อนแบบไม่จริงจังนัก เธอดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่า

“ทันย่าก็ทันย่า..แล้วนี่เธอมาทำอะไรที่พัทยาเหรอ” ใบหม่อนรีบถาม

“มาเที่ยวกับ...กิ๊ก” ธัญญา บอกด้วยสีหน้าภูมิใจ

“กิ๊ก หมายถึงแฟนน่ะเหรอ” ใบหม่อนรีบถาม

“กิ๊กที่ไม่ใช่แฟนย่ะ แหม..อย่าเชยไปหน่อยเลยใบหม่อน เดี๋ยวนี้ใคร ๆ เขาก็มีกิ๊กกันทั้งนั้นแหละ หรือว่าเธอไม่มีล่ะ”

“ไม่มีจ๊ะ..” ใบหม่อนรีบบอกอย่างไม่อาย

“ต๊าย..เชย”

ธัญญา มองเพื่อนเก่าด้วยสายตาสงสารที่เห็นใบหม่อนใส่เสื้อยืดแขนสั้นกับกางเกงขาสั้นเหมือนเด็กสาวกะโปโล

“ก็ฉันไม่ได้หุ่นเซ็กซี่อย่างเธอนี่จ๊ะเขียด”

“ว้าย..อย่าเรียกเขียดสิ บอกแล้วไงให้เรียกชื่อเล่นว่ามีมี่” ธัญญาร้องเตือน

“โทษทีจ้า..คุณมีมี่..แล้วนี่กิ๊กเธออยู่ไหนล่ะ”

ใบหม่อนพยายามมองหาผู้ชายที่คาดว่าจะเป็นกิ๊กของธัญญา

“กลับไปแล้วล่ะ เมียเรียกกลับตั้งแต่เมื่อคื่น โธ่เอ๊ย..อุตส่าห์หลบเมีย พาฉันมาค้างไกลถึงพัทยา นึกว่ายัยเมียแก่จะไม่ตาม แต่ที่ไหนได้โทรมากลางดึก อีตาเจ้านายฉันก็รีบตาลีตาเหลือกผละจากอกอวบ ๆ ของฉันไปจนได้ ” ธัญญา เล่าให้ฟังอย่างไม่ปิดบัง

ใบหม่อน ตาค้างที่ได้รับฟังเรื่องราวของเพื่อน แต่มันก็ช่างคล้ายกับกรณีของใบหม่อนอยู่เหมือนกันที่เมื่อคืนนี้ทางบ้านของ

วรเมธ โทรมาตาม เพียงแต่ต่างกันตรงที่คนโทรมาไม่ใช่เมียของวรเมธเท่านั้นเอง แต่คาดว่าคงเป็นพี่สาวของเขาที่โทรมาแจ้งข่าวว่าแม่เขาป่วย ใบหม่อนนึกในใจ

“เธอเป็น...เมียน้อย อุ๊ย..กิ๊กของเจ้านายเหรอ” ใบหม่อน ถามอย่างไม่อ้อมค้อม

“จะเรียกเมียน้อย เมียเก็บ หรือกิ๊กก็ได้ทั้งนั้นแหล่ะ ว่าแต่เธอเถอะ มาทำอะไรแถวนี้จ๊ะหรือว่า..” ธัญญา มองเพื่อนยิ้ม ๆ

“ฉันไม่ได้เป็นเมียน้อยหรือกิ๊กใครเหมือนเธอหรอกนะมีมี่” ใบหม่อน รีบบอกเสียงกลั้วหัวเราะ

“แล้วเธอมากับใครล่ะ หรือว่าทำงานอยู่แถวนี้” ธัญญาอยากรู้

“ฉันมาเที่ยวกับ...เอ่อ..แฟนน่ะ แต่พอดีพี่สาวเขาโทรมาบอกว่าแม่ป่วยหนัก เขาก็เลยกลับกรุงเทพฯไปเมื่อคืน”

“ต๊าย..ช่างเหมือนกรณีเดียวกับฉันเป๊ะเลย แต่เธอแน่ใจเหรอว่าไม่ใช่เมียเขาโทรมาตามน่ะ” ธัญญา กล่าวหยอกล้อ

“ไม่หรอก แม่เขาป่วยจริง ๆ” ใบหม่อนเชื่อตามที่วรเมธบอก

“อ้าว..แล้วทำไมเธอไม่ไปกับแฟนด้วยล่ะ”

ธัญญา ชักจะสงสัย ใบหม่อนจึงต้องบอกไปตามความจริงว่าเธอนั้นเพิ่งคบหากับวรเมธได้เพียงเดือนกว่าเท่านั้น ยังไม่ได้พาไปแนะนำให้พ่อแม่ของแต่ละฝ่ายได้รู้จัก ธัญญา จึงซักถามเพื่อนด้วยความสนใจ ใบหม่อนก็เล่าให้ฟังอย่างไม่ปิดบังตั้งแต่วันที่วรเมธขับรถเฉี่ยวเธอ แล้วเขาก็มาจีบและขอเป็นแฟน

“ว้าว..เห็นท่าทางเรียบร้อยติ๋ม ๆ แบบนี้อุตส่าห์มีผู้ชายรวย ๆ มาจีบด้วยนะเนี่ย อย่าให้หลุดมือเชียวนะยัยใบหม่อน”

“ฉันไม่แน่ใจหรอก เพิ่งจะรู้จักเขาไม่นาน อีกอย่างฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจตัวเองเท่าไหร่ด้วย” ใบหม่อนสารภาพ

“ฉันจะสอนวิธีจับผู้ชายรวย ๆ ให้เอง ตอนนี้เราไปหาที่นั่งคุยกันดีกว่า”

ธัญญา จูงมือใบหม่อนไปหาที่นั่งเพื่อพูดคุยกัน ทั้งคู่มีพื้นฐานชีวิตในวัยเด็กที่เหมือนกันจึงทำให้พูดคุยกันได้อย่างสนิทสนม เพราะช่วงที่เรียนอยู่ด้วยกันที่ต่างจังหวัดนั้น ทั้งคู่ก็เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนเพียงแต่มาห่างเหินกันไป เมื่อต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไปเรียนระดับมหาวิทยาลัย

ธัญญา เล่าให้ฟังว่าเธอเรียนไปด้วย แล้วก็ทำงานไปด้วยจนเรียนจบปริญญาตรี ปัจจุบันธัญญา เป็นเลขาอยู่บริษัทเอกชนในกรุงเทพฯ เจ้านายของเธอชื่อประพจน์ คนที่แอบหนีเมียพาเธอมาค้างที่พัทยานั่นเอง

“คุณประพจน์อายุรุ่นพ่อฉันแล้วล่ะ แต่ถึงจะแก่ก็ยังชอบมีสาว ๆ ฉันก็เลยเป็นกิ๊กกับเจ้านายฉันไงล่ะ” ธัญญา บอกอย่างไม่ปิดบัง

“เธอใจกล้าจังเลย เป็นฉันคงไม่กล้าหรอก”

“ก็เธอมันหัวโบราณมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่ยะ ฉันจำได้ว่าตอนที่เรียนมอหกเพื่อน ๆ ในห้องชวนเธอไปนอนกับพวกเสี่ยเพื่อหาเงินใช้ เธอก็ยังไม่เอาเลย กลัวแต่จะโดนแม่ว่า แล้วเป็นไงล่ะทุกวันนี้เธอมีอะไรดีบ้าง แต่ตอนนี้ฉันมีทั้งห้องชุดราคาเป็นล้าน มีรถเก๋งขับ มีเงินใช้ แถมยังส่งให้แม่ปลูกบ้านใหม่ที่บ้านนอกได้ด้วย”

ธัญญา บอกด้วยสีหน้าภาคภูมิใจในสิ่งที่เธอทำไป

“ฉันยอมรับนะว่าฉันไม่มีอะไรเท่าเธอหรอก ตอนนี้ฉันก็เช่าห้องที่คอนโดอยู่ แต่ฉันก็เพิ่งจะทำงานได้ไม่กี่เดือนเอง ถ้าจะมีรถก็คงต้องรออีกสักสี่ห้าปีก่อน”

“โถ..รอสี่ห้าปีเชียว ฉันว่าเธอจับอีตาเมธอะไรนั่นให้เร็วที่สุดจะดีกว่า แค่เธอเอ่ยปากขอคอนโดสักห้อง หรือรถเก๋งขับสักคัน เขาคงไม่ใจดำหรอก”

“ฉันไม่กล้าขอเขาหรอก”

“ต๊าย..นี่เธออย่าบอกนะว่าจะเสียตัวฟรี ๆ ไม่เอาอะไรเลย”

“ฉันไม่ได้เสียตัวนะ ฉันกับเขายังไม่ได้มีอะไรกัน”

ใบหม่อน รีบบอกเสียงร้อนรนไม่อยากให้เพื่อนเข้าใจผิด

“อะไรนะ! ไหนเธอบอกว่าคบเขามาได้เดือนกว่าแล้วไม่ใช่เหรอ” ธัญญาถามด้วยความแปลกใจ

“ก็ใช่..แต่เราก็ไม่ได้มีอะไรกัน”

ใบหม่อนจำต้องเล่าความลับที่เป็นความจริงให้ฟังอย่างหมดเปลือกว่าวรเมธ เคยพาใบหม่อนเข้าโรงแรมมาแล้ว และใบหม่อนร้องไห้จนเขาพากลับ จากนั้นเขาก็พยายามที่จะขอมีอะไรกับใบหม่อนอยู่เสมอ แต่ใบหม่อนก็บ่ายเบี่ยงมาได้ตลอด

“เมื่อคืนนี้ ฉันก็เกือบจะมีอะไรกับเขาด้วยล่ะ แต่พอดีว่ามีโทรศัพท์มาตามเขาไปดูแม่ที่ป่วยเข้าโรงบาลก่อน”

ธัญญา อ้าปากค้างไม่อยากจะเชื่อว่าใบหม่อนจะรักษาพรหมจรรย์เอาไว้จนถึงเดี๋ยวนี้ ช่างต่างจากธัญญา ราวฟ้ากับเหวที่เสียสาวตั้งแต่มัธยมต้น จนถึงเดี๋ยวนี้ธัญญา ก็ยังมีผู้ชายไม่ขาดเรียกว่าประสบการณ์ด้านผู้ชายโชกโชน

“ถ้าเธอยังเล่นบทนางเอกที่แสนดี รักนวลสงวนตัวอยู่อย่างนี้ อีกไม่นานหรอก อีตาเมธต้องเบื่อเธอ ขอเลิกกับเธออย่างแน่นอน”

คำพูดของธัญญา ทำให้ใบหม่อนถึงกับหน้าซีดใจคอไม่ค่อยดี เธอไม่ปรารถนาที่จะให้วรเมธจากเธอไป แต่ก็ยังไม่อยากจะเสียตัวเร็วเกินไป แล้วใบหม่อนจะทำอย่างไรดีหนอ

“แล้วฉันต้องทำอย่างไงดีล่ะมีมี่”

ใบหม่อน รีบถามผู้เชี่ยวชาญด้านผู้ชายอย่างธัญญา

“เธอก็ต้องยอมเสียตัวน่ะสิ”

“แล้วถ้าฉันมีอะไรกับเขาแล้ว เธอคิดว่าเขาจะรักฉันไหม”

“โธ่เอ๊ย..ใบหม่อนเธอนี่มันอินโนเซ้นท์จริง ๆ น่ะแหละ สมัยเรียนเป็นยังไงตอนนี้เธอก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เธอแคร์เรื่องพวกนี้ทำไมกัน ถ้าเขาจะรักเธอหรือไม่รักมันไม่เกี่ยวกับว่าเธอมีอะไรกับเขาหรือเปล่าหรอกนะ ถ้าเขารักเธอยังไงก็ต้องรักอยู่ดี เพียงแต่เธอต้องรู้จักหาวิธีให้เขาอยู่กับเธอนาน ๆ แต่ถ้าเป็นฉันนะ ผู้ชายรวย ๆ แบบนี้ ฉันจะขอโน่นขอนี่เอาไว้ก่อน ถ้าเมื่อไหร่ที่เลิกกันไปก็ยังได้ข้าวของบ้าง ไม่เสียตัวฟรี ๆ”

ธัญญา แสดงความเห็นให้เพื่อนคล้อยตาม

“เธอคิดแบบนี้จริง ๆ เหรอ”

“ใช่..ก็เพราะฉันคิดแบบนี้ไงล่ะ ฉันถึงได้มีรถ มีที่อยู่อาศัย มีเงินใช้จ่ายไม่ขาดมือ” ธัญญา ตอบอย่างภาคภูมิใจ

“แล้วเธอมีแฟนหรือเปล่า ฉันหมายถึงแฟนจริง ๆ ที่ไม่ใช่กิ๊กน่ะ” ใบหม่อนอยากรู้

“ไม่มี..สมัยนี้จะหาผู้ชายดี ๆ มาเป็นแฟนหรือพ่อของลูกมันยาก แต่จะหากิ๊กดี ๆ มันง่ายกว่า ฉันก็เลยมีกิ๊ก ระดับหล่อรวยเอาไว้เป็นเพื่อนกินเพื่อนเที่ยว แล้วก็..เพื่อนนอน”

ธัญญา บอกพร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ใบหม่อนเป็นฝ่ายอ้าปากค้างบ้าง ไม่คิดว่าเพื่อนที่เคยสนิทเมื่อครั้งวัยเด็กจะมีแนวความคิดที่เธอตามไม่ทันได้ถึงขนาดนี้ ถ้าพ่อแม่ของธัญญา รู้ว่าลูกสาวใช้ชีวิตอย่างสาวที่มีอิสระเสรีฟรีเซ็กส์แบบนี้ ไม่รู้ว่าจะคิดอย่างไร แต่ถ้าเป็นพ่อแม่ของใบหม่อนคงได้หัวใจวายอย่างแน่นอน

“เอาเถอะเธอมันพวกสวยเลือกได้ ไม่เหมือนฉันหรอกไม่มีตัวเลือก ฉันเพิ่งจะมีคุณเมธนี่แหละมาจีบเป็นเรื่องเป็นราว แต่พอได้ยินเธอบอกแล้วก็ไม่ค่อยสบายใจเหมือนกัน ฉันกลัวคุณเมธจะเบื่อที่ฉันหวงตัวกับเขาไปหน่อย” ใบหม่อนสารภาพ

“ฉันว่าคุณเมธก็คงจะรักจริงหวังแต่งแน่เลย ถึงไม่ยอมทำอะไรเธอ ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นพาเข้าโรงแรมป่านนี้เรียบร้อยไปแล้ว”

“ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ ฉันร้องไห้เขาก็ปลอบใจ แล้วก็พากลับคอนโด ฉันถึงได้คบกับเขาไงล่ะ” ใบหม่อนตอบภูมิใจ

“แต่ถ้าเธอเล่นตัวแบบนี้ต่อไป สักวันเขาก็ต้องขอเลิก ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบผู้หญิงที่ดีเกินไปแบบนี้หรอก”

คำพูดของธัญญา ทำไมจึงเหมือนกับที่ลัดดาเคยบอกเอาไว้ด้วยนะ หรือว่าใบหม่อนจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง หัดที่จะทำอะไรให้มันเหมือนคนอื่นบ้าง ใบหม่อนจะลองเก็บไปคิดดูอีกที

จากนั้นสองสาวก็แลกเปลี่ยนเบอร์มือถือกันเอาไว้ แล้วก็พูดคุยถามไถ่กันไปมาก่อนที่ธัญญา จะชวนใบหม่อนกลับด้วยกัน และพาใบหม่อนไปรู้จักคอนโดที่พักของธัญญาที่กรุงเทพฯด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel