4. เพลย์บอย

วันนี้กลุ่มหนุ่มเจ้าสำราญนัดพบปะสังสรรค์กันที่คอนโดของฐากูร ย่านใจกลางเมือง เจ้าของห้องชุดหรูหราราคาแพงเปิดห้องต้อนรับกลุ่มเพื่อนเก่าที่ห่างกันไปนานหลังจากที่เขาไปใช้ชีวิตเรียนและทำงานอยู่ที่อเมริกาห้าปี

เมื่อฐากูร ส่งข่าวว่าได้เดินทางมารับตำแหน่งผู้ช่วยฝ่ายบริหารบริษัทของครอบครัวที่เมืองไทย บรรดาเพื่อนเก่าที่เคยเป็นหนุ่มเจ้าสำราญเคยเที่ยวหัวราน้ำ ร่ำสุรานารีด้วยกันมาตลอด ต่างก็นัดหมายมาหาเจ้าของห้องกันอย่างดีใจ เพื่อนในกลุ่มทุกคนยังคงความโสดกันอย่างเหนียวแน่นในวัยยี่สิบเก้า ย่างเข้าสามสิบ มียกเว้น วรเมธ อยู่เพียงคนเดียวที่แหกคอก ดอดไปแต่งงานเมื่อปีที่แล้ว

ฐากูร สั่งแม่บ้านจัดเตรียมอาหารเครื่องดื่มไว้อย่างเต็มที่ เพื่อนทุกคนมาพร้อมเพรียงกันในเวลาสองทุ่ม จะขาดไปก็เพียงวรเมธ

“ตั้งแต่แต่งงานไปเจ้าเมธ ก็แยกจากกลุ่มไปเลยหรือ”

ฐากูร เอ่ยถามพวกเพื่อน ๆ อีกสามคนอันประกอบด้วย ทินกร คเณศ และ ปวัฒน์ ซึ่งยังโสดแต่ไม่สดกันทั้งก๊วน แถมมีรสนิยมชอบสาวสวยรวยเสน่ห์ใจถึงเหมือนกันอีกต่างหาก แต่หนุ่มเหล่านี้ก็ยังไม่มีสาวคนไหนเป็นตัวเป็นตนจริงจังสักที

“มันก็แยกจากกลุ่มช่วงที่แต่งงานใหม่ ๆ น่ะแหละ พอเมียมันท้องมันก็กลับมาเข้าชมรมกับพวกฉันเหมือนเดิม แต่ช่วงเดือนกว่ามานี่มันชอบปลีกวิเวกบ่อย ๆ ว่ะ สงสัยจะไปติดเด็กสาวแหง ๆ” ทินกร เป็นคนพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี

“เฮ้ย!..เมียเจ้าเมธท้องแล้วหรือ ไม่เห็นเมธบอกเลย”

ฐากูร ทำหน้าตื่นเต้น เขารู้ว่าเมื่อเกือบปีที่ผ่านมา วรเมธแต่งงานกับสาวสวยลูกเศรษฐีร้านทองชื่อกานดา ซึ่งฐากูรก็ได้เดินทางกลับเมืองไทยมางานแต่งงานของวรเมธ แต่เขาไม่ได้ข่าวว่าภรรยาของวรเมธท้อง

“มันไม่กล้าบอกน่ะสิ ขนาดพวกฉันมันยังปิดเลย นี่ถ้าไม่เผอิญไปหามันที่บ้าน แล้วเห็นคุณกุ๊กท้องโย้ก็คงจะไม่รู้หรอก”

ปวัฒน์ เป็นคนบอกด้วยสีหน้าเบิกบานอารมณ์ดี

“ทำไมวะ มันจะปิดพวกเราไปเพื่ออะไร” ฐากูรไม่เข้าใจ

“มันคงกลัวโดนล้อว่าจะเป็นพ่อลูกอ่อน กลัวพวกเราจะไม่ให้มันมาเข้าชมรมหนุ่มโสดด้วยละมั้ง” ทินกรพูดติดตลก

“แต่ฉันว่ามันคงกะจะเซอร์ไพรส์พวกเรามากกว่า มันอาจจะจัดฉลองตอนลูกมันคลอดก็ได้” คเณศ แสดงความเห็น

“แล้วตกลงคุณกุ๊ก ท้องกี่เดือนแล้ววะ” ฐากูรอยากรู้

“ใกล้จะคลอดแล้ว ก็เพราะเมียมันท้องโย้ใกล้คลอดไงล่ะมันถึงได้แว้บไปมีกิ๊กนอกบ้าน” ปวัฒน์ เป็นคนบอก

“แต่ฉันว่าเมธคงจะอยู่ดูแลเมียละมั้ง ดีแล้วล่ะมีลูกมีเมียก็ต้องรู้จักดูแลครอบครัว จะมาเย้ว ๆ เหมือนพวกหนุ่มโสดอย่างพวกเราได้ไงวะ ปล่อยมันไปคนหนึ่งละกัน”

ฐากูรบอกอย่างเข้าใจเพื่อนที่ไม่โสดอย่างวรเมธ

“ใครว่ามันอยู่ดูแลเมียมันวะ เมื่อกี้คุณกุ๊กเมียมันเพิ่งจะโทรหาฉันอยู่เลย” ปวัฒน์ หันไปบอกฐากูร

“โทรว่าไงวะ” คเณศ เป็นคนถาม เพื่อน ๆ พลอยหูผึ่งอยากรู้ไปด้วย

“คุณกุ๊กบอกว่าติดต่อเจ้าเมธไม่ได้น่ะสิ ไม่รู้มันจงใจปิดมือถือหรือว่าแบตหมด สงสัยว่าจะอยู่กับผู้หญิงว่ะ ฉันก็เลยต้องโกหกไปว่าเจ้าเมธมันกำลังขับรถมาสมทบกับพวกเราเพื่อฉลองการกลับเมืองไทยของนายตั้มที่คอนโด” ปวัฒน์บอกเพื่อน ๆ

“นี่แกอ้างฉันหรือวะเจ้าวัฒน์ ถ้าเกิดคุณกุ๊กโทรถามฉัน แล้วจะให้ตอบว่าไงล่ะ” ฐากูร ชักจะไม่สบายใจ

“ก็บอกว่าเจ้าเมธมันรถติด ยังมาไม่ถึงหรือไม่ก็บอกว่าไม่รู้สิวะ จะยากอะไร” ทินกรแนะนำ

“ฉันว่าพฤติกรรมเจ้าเมธมันน่าสงสัยว่ะ มันต้องไปติดผู้หญิงแน่นอน” ปวัฒน์ กล่าวอย่างมั่นใจ

“ถ้ามันยังไม่เลิกเจ้าชู้ แล้วมันจะแต่งงานไปทำหอกอะไรวะ” ฐากูรส่ายหัวยิ้ม ๆ

“ก็ตอนนั้นมันกำลังหลงผิดไงล่ะ จำไว้เลยพวกแกถ้าไม่แน่ใจอย่าได้รีบแต่งงานเหมือนเจ้าเมธมัน” ทินกรเตือนเพื่อน ๆ

“แล้วแกล่ะกร..ฉันเห็นควงยัยมีมี่อะไรนั่นไปไหนมาไหนบ่อย ๆ ไม่คิดจะแต่งงานหรือไงวะ” ปวัฒน์ หันมาแซวทินกร

“มีมี่เป็นแค่คู่ขา ไม่ใช่คู่รักโว้ย” ทินกรรีบบอกให้เพื่อน ๆ ได้รับรู้

“สวยหรือเปล่าวะ” ฐากูรเลียบเคียงถาม

“แล้วแกเคยเห็นฉันควงผู้หญิงไม่สวยเซ็กซี่หรือเปล่าล่ะ สเป๊กของฉันต้องขาวสวย อึ่มเร้าใจโว้ย”

ทินกรคุยอวด ทำให้เพื่อน ๆ หัวเราะด้วยความชอบใจ ซึ่ง สเป็กผู้หญิงของทินกรก็เป็นสเป็กของเพื่อนทุกคนด้วยเหมือนกัน

“ยัยมีมี่เซ็กซี่น่าดูเชียวล่ะ แถมพวกเพื่อน ๆ เจ้าหล่อนแต่ละคนก็..ใจถึงทั้งนั้น” คเณศ ทำตาเยิ้มขึ้นมา

“พวกแกคงสังสรรค์กันบ่อยล่ะสิ”

ฐากูรชักอิจฉาที่เพื่อน ๆ เกาะกลุ่มกันช่วงที่เขาอยู่อเมริกา

“ทุกสุดสัปดาห์ ต่อไปนายก็จะได้ไปกับพวกฉันเหมือนกันที่นี้พวกเราก็จะได้กลับมาร่วมชมรมหนุ่มโสดกันต่อ”

ทินกรพูดด้วยความเบิกบานใจที่จะได้ครบเซ็ตเหมือนในอดีต

“แล้วแกล่ะตั้ม คิดจะมาปักหลักทำงานที่เมืองไทยแล้วใช่ไหมถึงได้ลาออกจากงานที่อเมริกา” ปวัฒน์ หันมาถามฐากูร

“ใช่..เบื่อชีวิตเมืองนอกเต็มทีแล้ว อีกอย่างแม่ก็ขอร้องให้กลับมาด้วย ท่านอยากให้ฉันบวชให้ด้วยว่ะ”

ฐากูรบอกอย่างเซ็ง ๆ เพื่อนในกลุ่มรู้ว่าคุณผกาแก้วมารดาของฐากูรนั้นเป็นคนธรรมะธัมโม เข้าวัดฟังธรรมอยู่เสมอจึงอยากให้ลูกชายได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมบ้าง แต่นางช่างไม่รู้เลยว่าลูกชายคนเดียวนี้ไม่ได้ถูกโรคกับเรื่องพระเรื่องเจ้าเอาเสียเลย เขาเป็นพวกห่างวัด แม้จะได้ทำบุญให้ทานแต่ก็ไม่คิดจะบวช ชีวิตเขานอกเหนือจากทำงานก็คือไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน

ฐากูร เป็นหนุ่มหล่อมาดดีมีรสนิยม เขาตัวสูงสง่าแบบชายตะวันตก ความเจ้าชู้ของเขาที่ชอบมีสาวสวยข้างกายไม่น้อยหน้าพวกเพื่อน ๆ แม้จะไปอยู่ที่อเมริกา เขาก็ไม่เคยร้างราที่จะมีคู่ควง เพียงแต่อยู่ที่โน่นเขามักจะคบหากับสาวชาติตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีสาวเอเชียอย่างญี่ปุ่น เกาหลีอยู่บ้าง นาน ๆ ครั้งก็จะมีสาวไทยใจถึงให้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งเช่นกัน

ครอบครัวของฐากูรทำธุรกิจหลายอย่าง ส่วนใหญ่จะเป็นด้านอสังหาริมทรัพย์ บิดาของเขาเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ที่มีบริษัทในเครืออยู่หลายบริษัทภายในตึกเดียวกันที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุง และเขาก็กำลังจะเข้าไปรับตำแหน่งผู้ช่วยฝ่ายบริหารที่สำนักงานใหญ่ในต้นเดือนหน้านี้ เขาจึงเดินทางกลับมาเตรียมตัวก่อนล่วงหน้าหนึ่งเดือน

ฐากูรเลือกพักที่คอนโดหรูของเขา แทนที่จะไปพักอยู่คฤหาสน์หลังใหญ่ ซึ่งมีบิดามารดากับพี่สาว และพี่เขยของเขาอยู่รวมกัน สาเหตุที่เขาไม่อยากพักที่บ้านก็เพราะไม่อยากให้มารดาไม่สบายใจ เพราะคุณผกาแก้ว คงจะรับไม่ได้หากเห็นเขาออกเที่ยวเตร่สำมะเลเทเมา หรือมีผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า เขาจึงคิดว่าแยกมาอยู่คอนโดตามลำพังดีกว่า แล้วค่อยแวะไปเยี่ยมมารดาสัปดาห์ละครั้ง

ฐากูร รับเชื้อความเจ้าชู้จากนิพัทธ์ผู้เป็นบิดา เพราะบิดาของเขานอกจากจะมีมารดาเป็นภรรยาแล้วก็ยังแอบไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยอยู่ข้างนอกอีก มารดาของฐากูรอายุมากกว่าบิดาห้าปี ซึ่งอาจจะด้วยสาเหตุนี้ก็ได้ที่ทำให้บิดาต้องไปเสาะแสวงหาผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า บางคนอายุน้อยกว่าเขาที่เป็นลูกชายด้วยซ้ำ และเรื่องความเจ้าชู้ของสามีนี้เองที่ทำให้คุณผกาแก้ว ต้องหันหน้าเข้าหาธรรมะเพื่อทำใจ จนตอนหลังมารดาก็เริ่มไปปฏิบัติธรรมตามที่ต่าง ๆ จนกลายเป็นคนติดวัดมากกว่าบ้านไปเสียแล้ว

มารดาของเขาเคยบอกว่าถ้ามีหลานก็อาจจะหยุดเลี้ยงหลานอยู่บ้าน ไม่ไปปฏิบัติธรรมก็ได้ ฐากูรก็ได้แต่ลุ้นให้ฐาปนีย์ พี่สาวของเขาที่แต่งงานไป มีลูกเล็ก ๆ ให้มารดาของเขาได้ชื่นชมหลานเสียที แต่พี่สาวของฐากูร ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีลูกสักทีทั้งที่แต่งงานมาเกือบสามปี

“แล้วแกจะเริ่มงานที่บริษัทเมื่อไหร่วะตั้ม” ปวัฒน์ถามฐากูรต่อ

“เดือนหน้า..เพราะฉะนั้นช่วงสิบกว่าวันนี้ฉันมีเวลาที่จะเที่ยวหัวราน้ำกับพวกแกแน่นอน แต่ถ้าทำงานแล้ว อาจจะต้องเพลา ๆ ลงบ้าง กลัวเสียงานว่ะ”

ฐากูร บอกเพื่อนเอาไว้ก่อน เพราะถึงเขาจะชอบเที่ยว แต่เรื่องงานก็จะต้องไม่ให้มีปัญหา ความรับผิดชอบในการทำงานของเขาพิสูจน์มาแล้วช่วงที่เขาทำงานอยู่ที่อเมริกา

“พวกฉันก็ไม่ได้เที่ยวหัวราน้ำเหมือนแต่ก่อนหรอก เพราะตอนนี้ไม่ใช่หนุ่มน้อยแล้วอายุอานามพวกเราก็ย่างสามสิบกันแล้วต้องรับผิดชอบงานเหมือนกัน จะนัดสังสรรค์กันเฉพาะเย็นวันศุกร์หรือวันเสาร์เท่านั้น” คเณศ บอกให้ฐากูรเข้าใจ

“วันศุกร์หน้า ฉันจะนัดมี่มี่ให้ชวนเพื่อน ๆ ไปเที่ยวกันดีไหม แกอยู่อเมริกามานานคงจะคั่วแต่สาวฝรั่ง แล้วฉันจะให้มีมี่จับคู่สาวไทยที่สวยเซ็กซี่มีประสบการณ์งานบนเตียงให้แกสักคน” ทินกรนำเสนอฐากูร

“ดีเหมือนกัน แต่แน่ใจนะว่าเพื่อนของมีมี่จะสวยเซ็กซี่มีประสบการณ์อย่างที่แกว่า..ฉันไม่ชอบสาวอินโนเซ้นท์นะโว้ย แล้วก็ไม่นิยมพวกเวอร์จิ้นด้วย ขี้เกียจสอนว่ะ ชอบพวกมีประสบการณ์และรักสนุกเท่านั้น” ฐากูร บอกรสนิยมของตัวเอง

“ทุกคนก็ชอบแบบเดียวกับแกน่ะแหละ ต่างก็ชอบผู้หญิงที่รักสนุกไม่ผูกมัดทั้งนั้น แกไม่ต้องห่วงหรอก” ทินกรยืนยัน

ฐากูรยิ้มพอใจ แค่นึกก็รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาแล้ว

“แล้วทำไมไม่เชิญสาว ๆ มาคืนนี้เลยล่ะ” ฐากูรถาม

“มีมี่ไม่ว่างโว้ย..วันนี้สามีแก่ของมี่มี่พาไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์แถวเกาะภูเก็ตโน่น”

ทินกร บอกตามตรง เขาไม่เคยมีความลับเรื่องผู้หญิงกับกลุ่มเพื่อน ๆ อยู่แล้ว

“เฮ้ย!..นี่แกเป็นชู้กับเมียชาวบ้านหรือวะเจ้ากร”

ฐากูรตกใจ ถึงเขาจะเจ้าชู้เพียงใดแต่จะไม่ยุ่งกับภรรยาใครแน่นอน เขาจะเลือกเฉพาะผู้หญิงโสดที่รักสนุกด้วยกันเท่านั้น

“ชู้เช้อที่ไหนวะ..แกอย่าทำเป็นอินโนเซ้นท์หน่อยเลยว่ะ สมัยนี้พวกสาว ๆ นิยมมีกิ๊กพอ ๆ กับผู้ชายอย่างเราทั้งนั้นแหละเพื่อน” ทินกรบอกเสียงขบขัน

“หมายความว่าไงวะ” ฐากูรถาม

“ยัยมีมี่ก็แค่เมียเก็บของผู้ชายแก่ ๆ คนหนึ่ง นาน ๆ ทีตาแก่นั่นก็จะแวะเวียนไปหามีมี่ให้สุขสำราญก็เท่านั้น ส่วนยัยมีมี่ก็มีกิ๊กไว้แก้เซ็งระหว่างที่ผัวแก่ไม่มาหาไงล่ะ แล้วฉันก็เชื่อว่า ยัยมีมี่คงไม่ได้มีฉันเป็นกิ๊กแค่คนเดียวด้วย” ทินกรว่า

“แต่มันเหมือนตีท้ายครัวเมียชาวบ้านอยู่ดีว่ะถึงจะเป็นเมียน้อยก็เถอะ” ฐากูรว่า

“ผู้หญิงเขาไม่ได้คิดว่าจะผูกมัดอะไรด้วย แกไม่ต้องไปสนใจหรอกวะตั้ม”

คเณศ แสดงความเห็น ฐากูรจึงพยักหน้าถือว่าเตือนแล้วไม่เชื่อจึงหันไปยกแก้วเหล้าดื่มแทน