บท
ตั้งค่า

3. อยากเป็นแฟน

ภายในรถของลัดดาหอมกรุ่นไปด้วยน้ำหอมเช่นเดียวกับที่ลัดดาใช้กับร่างกาย เพียงแต่คนละกลิ่น ใบหม่อนว่ามันฉุนไปหน่อย แต่ก็ไม่กล้าบอกให้ลัดดาลดปริมาณการฉีดน้ำหอมให้น้อยกว่านี้ จำต้องทนนั่งไปแค่สองป้ายรถเมล์คงพอไหว หากไปไกลกว่านั้นอาจจะมีวิงเวียนศีรษะจากน้ำหอมนี้ก็ได้

“วันหลังหลินจะเอากระเป๋าที่ไม่ได้ใช้แล้วมาให้ใบหม่อนสักใบนะจ๊ะ จะได้มีกระเป๋าดี ๆ ใส่มาอวดเพื่อนที่ทำงานบ้าง”

ลัดดากล่าวแสดงความมีน้ำใจในขณะที่สองสาวนั่งอยู่ด้วยกันในรถ วันนี้ก็เหมือนกับทุกวันที่รถมักจะติดตรงบริเวณทางออกข้างบริษัท โดยเฉพาะเป็นเย็นวันศุกร์ก็จะยิ่งติดมากเป็นพิเศษจนใบหม่อนอยากจะลงเดินไปด้วยซ้ำถ้าไม่เกรงใจเจ้าของรถที่ชวนคุยโน่นคุยนี่อยู่ตลอดเวลา

“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะใบหม่อนชอบใช้กระเป๋าใบนี้มากกว่า”

“แหม..ใบหม่อนนี่ไม่ตามกระแสเลยนะ คนอื่น ๆ เขามีกระเป๋าแบรนด์เนมกันทั้งนั้น ใบหม่อนไม่คิดจะมีไว้สักใบหรือไงกัน หลินอยากจะให้ใบหม่อนจริง ๆ นะมันเป็นใบที่หลินเบื่อไม่ได้ใช้แล้ว แต่ก็ยังใหม่กิ๊กอยู่เลยนะ”

“ถ้ากระเป๋าใบนั้นมาอยู่กับใบหม่อน ใคร ๆ ก็คงจะคิดว่าเป็นของปลอมอยู่ดีค่ะ” ใบหม่อนตอบติดตลก

“หลินจะช่วยยืนยันให้เองว่าเป็นของจริง หลินจะบอกทุกคนว่าหลินเป็นคนเอากระเป๋าใบนั้นให้ใบหม่อน”

ใบหม่อนไม่ตอบ ได้แต่หัวเราะขบขัน

“ถ้าใบหม่อนปรับปรุงการแต่งตัวหันมาใส่เสื้อผ้าแบบที่หลินใส่ ใบหม่อนจะดูสวยเซ็กซี่มากเชียวล่ะ หลินจะช่วยเป็นสไตล์ลิสต์ให้ดีไหม”

“ไม่ไหวมังคะ ขืนให้ใบหม่อนแต่งตัวเซ็กซี่คงถูกพวกพี่ ๆ ที่แผนกคอมเม้นท์น่าดู”

ใบหม่อน หัวเราะขบขันนึกไปถึงบรรดาสาวใหญ่ที่อยู่แผนกธุรการ พลอยทำให้ลัดดาหัวเราะไปด้วย

“จริงด้วย พวกป้า ๆ คงจะหายาดมมาดมกันไม่ทัน ถ้าเห็น ใบหม่อนเปลี่ยนสไตล์มาแต่งตัวแบบหลิน เผลอ ๆ ใบหม่อน อาจจะถูกไล่ให้ย้ายแผนกก็ได้”

“ใบหม่อนก็ว่าอย่างนั้นแหละค่ะ คงถูกย้ายแผนกด่วน” ใบหม่อน พูดกลั้วหัวเราะ

“ อุ๊ย..แต่ความจริงใบหม่อน น่าจะขอย้ายแผนกนะ เอาไหมหลินจะเสนอหัวหน้าให้ แต่ละแผนกก็อยากจะได้คนเก่งคอมมาช่วยทั้งนั้น อีกอย่างตอนนี้หลินกำลังจะสมัครขอไปเป็นเลขาคุณฐากูรแล้ว แผนกของหลินก็จะมีตำแหน่งว่างอยู่สนใจไหมจ๊ะ” ลัดดาหันมาถาม

“ไม่ดีกว่าค่ะ ใบหม่อนเพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่กี่เดือนเท่านั้นเอง อยากจะเรียนรู้งานที่แผนกธุรการไปก่อนค่ะ”

“งานธุรการน่าเบื่อจะตาย วัน ๆ ต้องคอยทำตามคำสั่งแผนกอื่น ๆ ใบหม่อนไม่เบื่อหรือไง”

“ไม่หรอกค่ะ ใบหม่อนชอบงานที่ทำอยู่ค่ะ”

“เฮ้อ..หลินล่ะเสียดายแทนจังเลย กลัวใบหม่อนจะเป็นเหมือนพวกป้า ๆ ในแผนกนั่น”

“ทำไมหรือคะ”

“อ้าว..ใบหม่อนไม่เห็นหรือว่าทั้งอาจารย์ป้า เอ๊ย..พี่นาถ พี่ดา พี่อร แล้วก็พี่ปัด มีใครหาสามีได้บ้างล่ะ เหี่ยวแห้งกันทั้งแผนก เป็นสาวแก่ขึ้นคานกันหมด จนใคร ๆ เขาเรียกแผนกของใบหม่อนว่าแผนกวัตถุโบราณกันทั้งนั้น ใบหม่อนไม่กลัวอาถรรพ์นี้เหรอ”

“ไม่หรอกค่ะ ใบหม่อนคิดว่าเรื่องนี้เป็นสิทธิส่วนบุคคลค่ะ บางทีพวกพี่ ๆ เขาอาจจะมีเหตุผลที่อยากจะอยู่เป็นโสดก็ได้นะคะ”

ใบหม่อนแสดงความเห็น

“เหตุผลก็เพราะไม่มีผู้ชายเอาน่ะสิ เฉิ่ม ๆ เฉย ๆ เป็นสาวย้อนยุคมัวแต่รักนวลสงวนตัวแบบนั้น ผู้ชายที่ไหนเขาจะสนใจ สมัยนี้น่ะผู้ชายเขาชอบผู้หญิงปราดเปรียวเจ้าเสน่ห์ทั้งนั้นแหละ ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบผู้หญิงที่หวงเนื้อหวงตัวแบบนั้นหรอก มันน่าเบื่อไม่เร้าใจ”

ลัดดา บอกด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ

ใบหม่อนชักจะไม่แน่ใจเสียแล้ว จริงหรือที่ลัดดาบอกว่าผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงที่หวงเนื้อหวงตัว แล้ววรเมธล่ะ จะคิดว่าใบหม่อนเป็นผู้หญิงที่น่าเบื่อแบบนั้นหรือเปล่านะ

“จอดลงตรงป้ายรถเมล์ข้างหน้าด้วยนะคะคุณหลิน”

ใบหม่อน เห็นรถของวรเมธจอดเปิดไฟกระพริบอยู่เลยป้ายรถเมล์ข้างหน้าก็รีบบอกเจ้าของรถให้จอดทันที ทำให้ลัดดา จอดรถตรงป้ายรถเมล์ตามคำขอ

“ว้าว..รถคันนั้นเท่เป็นบ้าเลย เดี๋ยวหลินจะขับโฉบไปดูหน้าคนขับหน่อยว่าหน้าตาเป็นไง”

ลัดดา หันไปมองรถสปอร์ตสีแดงเพลิงที่จอดไฟกระพริบอยู่ข้างหน้าเลยป้ายรถเมล์นั้นด้วยสายตาชื่นชม ก่อนจะหันมายิ้มให้กับใบหม่อนที่กำลังจะลงจากรถ

“ขอบคุณมากนะคะคุณหลิน”

ใบหม่อน ยกมือไหว้ลัดดาที่มีอายุมากกว่าก่อนจะปิดประตูรถ ในขณะเดียวกัน ลัดดาก็ขับรถช้า ๆ อยากจะดูหน้าเจ้าของรถสปอร์ตคันงาม แต่เมื่อเห็นว่าติดฟิล์มมืดมองไม่ชัดจึงขับเลยไปทันที

ใบหม่อน ยืนรอจนเห็นว่าลัดดาขับรถห่างออกไปแล้ว จึงเดินไปยังรถคันที่เปิดไฟกระพริบอยู่นั้นทันที ถ้าลัดดารู้ว่าเจ้าของรถที่เธออยากจะดูหน้านั้น ก็คือ วรเมธ จะเกิดอะไรขึ้นกันหนอ แต่เวลานี้ใบหม่อน ยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยเรื่องนี้กับใคร เพราะเธอเพิ่งจะรู้จักกับวรเมธได้ไม่ถึงสองเดือน

“สวัสดีค่ะ..รอใบหม่อนนานหรือยังคะคุณเมธ”

ใบหม่อน เข้ามานั่งในรถสปอร์ตแล้วก็ยกมือไหว้เจ้าของรถเหมือนทุกครั้งที่เจอกัน ก่อนจะถามด้วยความเกรงใจ

“ไม่ถึงห้านาทีครับ.. แต่ผมว่าใบหม่อนไม่ต้องไหว้ผมก็ได้นะเพราะมันเหมือน..ผมเป็นผู้ปกครองยังไงก็ไม่รู้สิ”

วรเมธ บอกด้วยสีหน้าขบขัน ก่อนจะขับรถเคลื่อนออกไป

“ก็คุณเมธอายุมากกว่าใบหม่อนนี่คะ ใบหม่อนก็ไหว้ในฐานะที่คุณเมธอายุมากกว่า” ใบหม่อนให้เหตุผล

“ผมอายุย่างสามสิบ ส่วนใบหม่อนยี่สิบสาม ก็ต่างกันแค่เจ็ดปีเท่านั้นเอง แล้วอีกอย่างคนเป็นแฟนกันไม่มีใครเขามาไหว้กันแบบนี้ทุกครั้งหรอกครับ”

วรเมธ บอกพร้อมส่งสายตาเจ้าชู้ให้ใบหม่อนหน้าแดงด้วยความเขินที่เขาพูดเต็มปากเต็มคำว่าเป็นแฟนกัน ซึ่งคำนี้ ใบหม่อนยังไม่แน่ใจนัก เพราะคนที่เป็นแฟนกันก็น่าจะได้รู้จักกับพ่อแม่ของกันและกันเสียก่อน แต่นี่ใบหม่อนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบ้านช่องของเขาอยู่ที่ไหน มีประวัติความเป็นมาอย่างไรบ้าง ใบหม่อนรู้เพียงว่าวรเมธ เป็นผู้จัดการบริษัทส่งออกแห่งหนึ่ง

“ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณเมธไม่อยากให้ใบหม่อนไหว้อีก ต่อไปใบหม่อนไม่ไหว้ก็ได้ค่ะ” ใบหม่อนบอกอย่างว่าง่าย

“คราวก่อนก็พูดแบบนี้แหละ แต่ก็เห็นไหว้ผมทุกที” เขาบอกแล้วก็หัวเราะแบบเอ็นดู

ใบหม่อน รู้จักกับวรเมธเมื่อเดือนกว่าที่ผ่านมานี้เอง วรเมธขับรถเฉี่ยวใบหม่อน ตอนที่กำลังจะเดินออกจากคอนโดไปขึ้นรถเมล์ที่ป้ายรถประจำทางหน้าปากซอย ใบหม่อนล้มลงข้างทางมีแผลถลอกที่ขาซ้าย วรเมธ พาใบหม่อนไปหาหมอที่คลินิก จากนั้นเขาก็ขอเบอร์มือถือเธอไว้เพื่อจะได้โทรไปถามไถ่อาการ ทำให้ใบหม่อนประทับใจที่เขามีน้ำใจห่วงใยเธอ

วรเมธ ขยันโทรหาทุกวัน และด้วยความที่ใบหม่อนไม่ได้มีเพื่อนหรือคนรู้จักในกรุงเทพฯ เมื่อมีคนที่แสดงความห่วงใยโทรมาพูดคุยทุกวันเธอจึงรู้สึกอบอุ่นใจ ครั้นวรเมธขอเป็นแฟนด้วยในเวลาเพียงสองสัปดาห์ใบหม่อนก็ไม่ได้ตอบปฏิเสธแต่อย่างใด เธอกลับตื่นเต้นด้วยซ้ำที่เด็กสาวบ้านนอกที่เพิ่งเข้ามาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯอย่างเธอ ได้มีวาสนารู้จักกับผู้ชายที่ดูดีมีฐานะร่ำรวยอย่างวรเมธ

จากนั้นเขาก็นัดพบใบหม่อนหลังเลิกงานเสมอ พาไปรับประทานอาหารในสถานที่หรูหราต่าง ๆ ในราคาที่ใบหม่อนไม่มีปัญญาจะจ่ายได้

ใบหม่อน ยังไม่กล้าบอกชื่อสถานที่ทำงานให้วรเมธทราบ เธอบอกเขาเพียงว่าทำงานด้านคอมพิวเตอร์อยู่บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งวรเมธ ก็ไม่ได้สนใจไถ่ถามเรื่องนี้เสียด้วย เพราะเขาไม่ได้คิดที่จะจริงจังกับเด็กสาวอย่างใบหม่อนนั่นเอง

วรเมธ หวังเพียงจะได้ตัวของใบหม่อนมาเชยชมให้สมใจ แต่ก็ไม่คิดว่าเด็กสาวอย่างใบหม่อนจะเป็นพวกหวงเนื้อหวงตัวขนาดนี้ เขาเคยพาใบหม่อนเข้าโรงแรม แต่เธอร้องไห้จนน่าสงสารทำเอาหมดอารมณ์ต้องพากลับ และสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก ใบหม่อนจึงยอมไว้วางใจเขา

วรเมธ ต้องเปลี่ยนแผนใหม่ขอขึ้นไปส่งที่ห้องพัก แล้วก็อ้อยอิ่งอยู่กับเธอนาน ๆ หวังจะหว่านล้อมให้ใบหม่อนยินยอมพร้อมใจเป็นของเขาอย่างเต็มใจ แต่ใบหม่อนก็บ่ายเบี่ยงไปได้ทุกที เธอยอมให้เขากอดแล้วก็หอมแก้ม แต่ไม่ยอมให้ทำอะไรมากกว่านั้น

วรเมธ ไม่เคยใช้เวลาพาผู้หญิงขึ้นเตียงนานเกินสามวันมาก่อน แต่กับผู้หญิงคนนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบจะสองเดือนแล้ว เขายังไม่ได้ตัวใบหม่อนเลย ถ้าพวกเพื่อนในกลุ่มหนุ่มเจ้าสำราญของเขารู้เข้า คงโดนล้อหาว่าเขาหมดน้ำยาแล้วก็ได้

“คืนนี้เราไปค้างพัทยากันดีไหมใบหม่อน ผมมีบ้านพักริมทะเลอยู่ที่นั่น พรุ่งนี้เราอยู่ด้วยกันทั้งวันเลย แล้วก็ค่อยกลับกรุงเทพฯวันอาทิตย์ช่วงเช้า”

วรเมธ กล่าวชวนใบหม่อนขึ้นมา

ใบหม่อน ดีใจที่จะได้ไปเที่ยวทะเล เพราะยังไม่เคยไปเที่ยวจังหวัดที่มีทะเลสักครั้ง เธอจึงรับปากอย่างตื่นเต้น แต่พอนึกได้ว่า วรเมธ เคยบอกว่าวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เขาจะต้องไปดูแลแม่ที่ป่วยซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ใบหม่อนรู้สึกชื่นชมที่เขาช่างเป็นลูกกตัญญูรู้จักดูแลผู้มีพระคุณ เธอจึงเอ่ยถามเขาขึ้นมา

“แล้วคุณไม่ดูแลคุณแม่แล้วหรือคะ”

คำถามของใบหม่อนทำให้วรเมธนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะหาคำตอบได้

“พอดีพี่สาวผมมาจากต่างประเทศ ผมก็เลยมีเวลาพาใบหม่อนไปเที่ยวไกล ๆ ได้ไงล่ะ” เขาหันมาทำตาเจ้าชู้ใส่

“เอ้อ..แล้ว..เราต้องนอนห้องเดียวกันหรือเปล่าคะ”

ใบหม่อน ตัดสินใจถามเอาไว้ก่อน ถึงแม้เวลานี้จะเริ่มไว้ใจ วรเมธ ว่าเขาคงจะไม่คิดล่วงเกินเธอหากเธอไม่ยินยอม แต่ก็ต้องถามให้แน่ใจก่อน ใบหม่อนยังไม่อยากเสียสาวก่อนที่จะได้เรียนรู้นิสัยใจคอของเขาให้มากกว่านี้ ถึงแม้จะชอบวรเมธมาก แต่ก็มีสติพอที่จะคิดถึงคำสอนของแม่ที่พร่ำสอนกรอกหูมาตั้งแต่เด็ก แล้วไหนจะมีคำเตือนจากบรรดาป้า ๆ ในแผนกธุรการที่ย้ำสอนอยู่ทุกวันนั่นอีก

ถ้าจะต้องมีอะไรกับวรเมธจริง ๆ ก็ขอให้ใบหม่อนได้มั่นใจมากกว่านี้ก่อน อย่างน้อยก็ต้องคบหากันสักครึ่งปีก็ยังดี

“ทำไมหรือ ใบหม่อนไม่ไว้ใจผมหรือไง”

วรเมธ หัวเราะแบบขบขันแกมเอ็นดูกับคำถามนั้น

“ก็...คุณเคย...พาใบหม่อนเข้า..โรงแรม”

ใบหม่อนไม่อยากจะรื้อฟื้นเรื่องที่มันผ่านมานั้นอีก แต่ก็ต้องบอกให้เขาได้รับรู้ว่าเธอไม่สบายใจหากจะต้องนอนค้างอ้างแรมกับเขาในห้องเดียวกัน

“โธ่..ใบหม่อน คนเป็นแฟนกันไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลยที่จะเข้าโรงแรมกัน และถ้าเราไปเที่ยวก็ต้องพักห้องเดียวกันสิครับ”

“แต่..”

“เอาน่า รับรองว่าผมจะไม่ทำอะไรใบหม่อนแน่นอน เหมือนวันที่ผมพาใบหม่อนเข้าโรงแรมคราวที่แล้วไงล่ะ ใบหม่อนร้องไห้ไม่ยอมมีอะไรด้วย ผมก็ตามใจไม่ได้ทำอะไรใบหม่อนเลย”

เขาพูดให้ใบหม่อนสบายใจยอมที่จะไปเที่ยวและค้างกับเขาที่พัทยา แต่เขามีแผนในใจเอาไว้แล้วว่า เขาจะต้องโน้มน้าวให้ใบหม่อนยินยอมพร้อมใจเป็นของเขาอย่างเต็มใจให้ได้

ใบหม่อนพยักหน้าด้วยความสบายใจ เธอหวังว่าวรเมธจะรักษาสัญญา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel