บท
ตั้งค่า

10. ไม่อยากรักดี

“จำเอาไว้นะ ห้ามเผลอเรียกฉันว่าเขียดเด็ดขาด เดี๋ยวเขาจะหาว่าฉันเป็นพวกบ้านนอก” ธัญญา หันมากำชับเพื่อน

“ก็บ้านนอกจริง ๆ ไม่ใช่เหรอ”

ใบหม่อนแซวเสียงกระซิบกระซาบ

“ถึงจะจริงก็ต้องอย่าให้ใครเขาจับได้ว่าเรามาจากบ้านนอกสิ ทำตัวให้มันไฮโซเข้าไว้ ทุกอย่างมันอยู่ที่ความมั่นใจ ถ้าเธออยากจะมีผู้ชายดี ๆ รวย ๆ มาสนใจก็ต้องหัดทำตัวให้เหมือนฉัน”

ธัญญา เริ่มสอนเทคนิคการจับผู้ชายรวยให้เพื่อน

“ผู้ชายดี ๆ ต้องมาหาเอาตามผับแบบนี้ด้วยหรือ” ใบหม่อนอดพูดติดตลกไม่ได้

“เออน่า..อย่างน้อยก็มีแต่พวกระดับไฮโซรวย ๆ ก็แล้วกัน แต่ถ้าจับผู้ชายได้แล้วก็อย่าให้เขาเป็นฝ่ายทิ้งเราก่อนก็แล้วกัน โดยเฉพาะการที่ผู้ชายบอกว่าดีเกินไปน่ะ มันน่าอายนะจ๊ะ”

ธัญญา ตั้งใจจะพูดกระเซ้าใบหม่อน แต่คำพูดนั้นก็ทำให้ใบหม่อนสะเทือนใจจนได้ อุตส่าห์แกล้งลืมไปแล้วเชียวว่า วรเมธ ขอเลิกกับเธอด้วยเหตุผลว่าดีเกินไป

“อุ๊ย..ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะว่าเธอนะใบหม่อน ฉันก็แค่พูดล้อเล่นขำ ๆ น่ะ”

พอเห็นหน้าเพื่อนเศร้าสลดขึ้นมาธัญญาก็รีบเข้ามากอดขอโทษเพื่อนทันที

“ไม่เป็นไร คืนนี้ฉันก็จะลองเป็นคนที่ดีให้มันน้อยลงแล้วล่ะ” ใบหม่อนบอกคล้ายคนประชดชีวิต

“ดีแล้วล่ะ หัดทำตัวให้มันนอกกรอบเสียบ้างอย่าไปติดอยู่กับความคิดล้าสมัยอยู่เลย ฉันจะพาเธอไปเปิดโลกทัศน์ให้รู้จักกับสังคมใหม่ ๆ ของฉัน เธอพร้อมหรือยัง”

ธัญญา หันมาจ้องหน้าใบหม่อนยิ้ม ๆ ใบหม่อนพยักหน้าแบบกล้า ๆ กลัว ๆ

“คุณกรบอกว่าคืนนี้จะมีเพื่อนเขามาสมทบด้วยคนหนึ่งชื่อตั้ม

เธอจะต้องจับคู่กับคุณตั้มนี่แหละ เพราะคุณเคกับคุณวัฒน์เพื่อนคุณกรตอนนี้ก็จับคู่ยัยหนิงกับยัยเชอรี่เพื่อนฉันเรียบร้อยแล้ว”

ธัญญา บอกให้ใบหม่อนได้รับรู้ล่วงหน้า

“อะไรนะ..จะต้องมีการจับคู่ด้วยเหรอ ไหนเธอบอกว่าแค่มาเที่ยวเฉย ๆ ไม่ใช่หรือ” ใบหม่อนเริ่มปอด ๆ ขึ้นมา

“แหม..เธออย่าไร้เดียงสาหน่อยเลย มาเที่ยวแบบนี้ใคร ๆ เขาก็ต้องมาหาคู่กันทั้งนั้นแหละ ถ้าเธอไม่มีคู่สิจะดูแปลกประหลาดที่สุด เธออยากจะเป็นตัวประหลาดหรือไงล่ะ”

“แล้วฉันต้องทำอย่างไงบ้าง”

ใบหม่อนถามอย่างกังวลใจ กลัวตัวเองจะปรับตัวให้เข้ากับสังคมของเพื่อนไม่ได้

“ก็ไม่ต้องทำอะไร แค่ทำตัวให้มั่นใจ ออ..เวลาเขาดื่มเหล้ากันก็อย่านั่งซื่อบื้อ หรือหันไปดื่มน้ำเปล่าล่ะ อายเขาตายเลย”

ใบหม่อน พยักหน้าอย่างหวั่น ๆ ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะทำตัวอย่างที่เพื่อนแนะนำได้หรือไม่

...

ใบหม่อน ยกมือไหว้บรรดาเพื่อน ๆ ของทินกรด้วยท่าทางเก้อเขิน เมื่อถูกสายตาของหนุ่ม ๆ จ้องมองด้วยแววตาเป็นประกายเจ้าชู้ ใบหม่อนไม่เคยมาอยู่ท่ามกลางสายตาที่น่าหวั่นไหวเช่นนี้มาก่อน โดยเฉพาะสายตาของผู้ชายที่ชื่อตั้มที่เธอถูกจับคู่ให้นั่งกับเขานั้นทำให้ใบหม่อนมือไม้สั่นไปหมด พอหันไปมองเพื่อนของมี่มี่สองคนที่อยู่ในอ้อมกอดของคเณศกับปวัฒน์ ก็ยิ่งทำให้ใบหม่อนหน้าแดงซ่านใจเต้นตึกตักพาลจะเป็นลมขึ้นมาจนต้องรีบหันหน้าไปมองทางอื่น

แต่ดูเหมือนว่าผับแห่งนี้จะเต็มไปด้วยคนมีคู่คลอเคลียกันไปหมด คนที่ไม่มีคู่ก็คงจะดูประหลาดอย่างที่ธัญญาบอกเอาไว้จริง ๆ นี่หรือคือสังคมคนกลางคืนของธัญญา ช่างน่ากลัวเหลือเกินสำหรับใบหม่อน ที่เพิ่งจะมาเรียนรู้เป็นครั้งแรกในชีวิต

ธัญญา ส่งสายตาเจ้าชู้ให้กับฐากูร เธอรู้สึกปิ๊งเขาตั้งแต่แรกเห็น ถ้าได้รู้จักฐากูรก่อนทินกรก็คงจะดีไม่น้อย แต่เมื่อธัญญาเป็นคู่ขาของทินกรอยู่ก่อนแล้ว เธอจึงตัดใจหันไปเชียร์ใบหม่อนแทน

“ใบหม่อนจ๊ะ..ไปนั่งกับคุณตั้มสิ”

ธัญญา หันไปยิ้มหวานบอกเพื่อนพร้อมขยิบตาเป็นสัญญานให้อีกฝ่ายได้เริ่มเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับสังคมกลางคืนของเธอ

“ต้องนั่งเป็นคู่ ๆ ด้วยเหรอ”

ใบหม่อน เกาะแขนเพื่อนแจราวกับลูกแหง่ กระซิบกระซาบถามอย่างคนไม่มั่นใจ

“ใช่..ก็ทุกคนเขานั่งกันเป็นคู่ ๆ ไม่เห็นหรือ เธออย่าทำตัวหน่อมแน้มเชียวนะ ดูฉันเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน”

ธัญญา กระซิบบอกเพื่อน แล้วก็หันไปส่งเสียงทักทายหยอกเย้าทุกคนพร้อมกับเดินโผเข้าไปซบอกทินกรอย่างคนคุ้นเคย ทินกรอ้าแขนรับธัญญาที่ถลาเข้าไปซบอก แล้วทั้งคู่ก็จูบปากกันดูดดื่มเป็นการทักทายก่อนจะหันไปชนแก้วกันดื่มเหล้าอย่างมีความสุข โดยมีสายตาตกตะลึงของใบหม่อนมองตาค้างอย่างตื่นเต้นระคนประหม่า

งานนี้ใบหม่อนเห็นทีจะต้องเรียนรู้สิ่งรอบข้างด้วยตัวเองเสียแล้ว แต่ก็ขอเอากระเป๋าวางบนตักเพื่อปิดบังสายตาของฐากูรที่แอบชำเลืองมองขาอ่อนเธออยู่ ใบหม่อนใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ทุกครั้งที่ชายหนุ่มหน้าตาดีตัวหอมฟุ้งไปด้วยน้ำหอมหันมาสบตา

ฐากูร ส่งประกายตาเจ้าชู้แสดงความสนใจใบหม่อนอย่างเปิดเผยตั้งแต่ที่ได้รับการแนะนำให้รู้จักกันแล้ว เขามองทรวดทรงในชุดเกาะอกกระโปรงสั้นของใบหม่อนราวกับจะใช้สายตาโลมไล้ไปทั่วร่าง จนคนที่ถูกมองหน้าแดงประหม่าไปหมด

“ดื่มอะไรดีครับ..คุณใบหม่อน”

ฐากูร ยื่นหน้ามากระซิบถามใกล้หูจนใบหม่อนตัวแข็งทื่อหน้าร้อนผ่าว

“เอ้อ..อะไรก็ได้ค่ะ”

ใบหม่อน อึกอักหันไปหาธัญญา หวังจะขอคำปรึกษา แต่ดูเหมือนว่าธัญญาไม่ได้สนใจเพื่อนอีกต่อไปแล้ว รายนั้นเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของทินกรราวกับโหยหาผู้ชายมาเนิ่นนาน

เวลานี้ใบหม่อนจึงเหมือนตัวคนเดียว ไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวอะไรเช่นนี้มาก่อนเลย ไม่คิดว่าจะถูกปล่อยให้อยู่กับชายแปลกหน้าตามลำพัง แม้ว่าจะอยู่โต๊ะใกล้กันแต่ทุกคู่ต่างก็มีโลกส่วนตัวของตัวเองกันทั้งนั้น ไม่มีใครสนใจใครทั้งสิ้น

ไฟสลัวภายในผับช่วยสร้างบรรยากาศให้ทุกคู่ได้แสดงความต้องการต่อกันอย่างเป็นใจ ยิ่งมีเสียงเพลงจากนักร้องบนเวทีขับกล่อมด้วยแล้วก็เหมือนกับช่วยเพิ่มความโรแมนติกเข้าไปกันใหญ่

“งั้น..เป็นวิสกี้เหมือนผมนะครับ”

ฐากูร บอกพร้อมกับหันไปสั่งบริกรเพื่อให้นำวิสกี้มาเพิ่มโดยไม่สนใจคำตอบว่าใบหม่อนจะต้องการเหมือนเขาหรือไม่

“คุณใบหม่อนเป็นเพื่อนกับคุณมีมี่หรือครับ”

ฐากูร พยายามชวนคุย เขารู้สึกว่าใบหม่อนเหมือนจะเกร็ง ๆ ไม่ผ่อนคลาย แล้วก็ไม่เข้ามาใกล้ออดอ้อนเขาเหมือนกับสาว ๆ สามคนที่ทำกับเพื่อนเขาเลย ทำให้ฐากูรชักจะแปลกใจ แต่พอคิดได้ว่าเขากับใบหม่อนเพิ่งจะรู้จักกันเป็นครั้งแรกไม่เหมือนกับสามคู่นั้น มันจึงทำให้เขาต้องเป็นฝ่ายขยับเข้าไปหาเธอเสียเอง

“ค่ะ..” ใบหม่อน พยายามที่จะไม่พูดมาก ด้วยการส่งสายตาไปสนใจนักร้องสาวหุ่นเซ็กซี่ที่อยู่บนเวทีแทน

“มาที่นี่ครั้งแรกหรือเปล่าครับ”

“ค่ะ ..เอ๊ย..เคยมาแล้ว สะ..สองครั้งค่ะ”

ใบหม่อน ตอบอย่างไม่มั่นใจ เธอจำต้องให้ข้อมูลเขาไปตามที่ธัญญาสอนเอาไว้

“แต่คุณดูตื่นเต้นนะครับ เหมือนไม่เคยมาที่แบบนี้มาก่อน”

คำพูดของฐากูรทำให้ใบหม่อนสะดุ้งรีบขยับตัวตรงทำท่ามั่นใจขึ้นมาทันที

“ฉันเคยเที่ยวที่แบบนี้บ่อย ๆ แต่เป็นที่อื่นค่ะ”

ใบหม่อน พูดให้เขาเห็นว่าเธอไม่ใช่พวกอ่อนหัดไร้ประสบการณ์

“ที่ไหนครับที่คุณชอบไป” ฐากูรชวนคุย

“ที่...เอ้อ..แถวสุขุมวิทค่ะ”

ใบหม่อนไม่เคยรู้จักชื่อผับชื่อบาร์ก็ต้องพูดกว้าง ๆ เอาไว้ก่อน โชคดีที่เขาไม่ซักถามต่อ

“วันหลังชวนผมด้วยสิครับ ผมอยากจะไปเที่ยวกับคุณบ้าง”

เขาหันมาทำตาเจ้าชู้ มือของเขาเริ่มเกาะไปที่ขอบเก้าอี้ของใบหม่อนก่อนจะแกล้งโอบไหล่เธอเบา ๆ ดูก่อน ใบหม่อนซึ่งระวังตัวอยู่แล้วจึงแกล้งก้มตัวลงไปผูกสายรองเท้า แล้วก็เงยหน้าขยับตัวให้ห่างจากเขาไปเล็กน้อย

ฐากูร พยายามที่จะไม่คิดว่าเธอจะหนีการใกล้ชิดของเขา จึงคิดว่าเป็นความบังเอิญที่เธออยากจะก้มลงไปสำรวจรองเท้าของเธอพอดี

“รองเท้าคุณใบหม่อนเก๋ดีนะครับ”

ฐากูรแกล้งชมแม้กระทั่งรองเท้าที่แทบจะมองไม่เห็นเป็นการเริ่มสัมพันธ์ตามถนัด

“ไม่ใช่ของฉัน..อุ๊ย..เอ้อ..ค่ะเก๋ดีค่ะ”

ใบหม่อน นึกขึ้นได้รีบพูดแก้แทบไม่ทัน ดีแต่ว่าเสียงเพลงกลบเสียงพูดของใบหม่อนไปได้จึงทำให้เขาฟังไม่ถนัดนัก ถ้าเขารู้ว่าทั้งชุดที่ใส่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ไม่ใช่ของใบหม่อนสักอย่าง เขาจะคิดว่าใบหม่อนกระจอกเกินไปที่มาเที่ยวที่นี่หรือเปล่า แต่พอนึกถึงคำพูดของธัญญาให้เธอทำตัวให้มั่นใจเข้าไว้ จึงรีบนั่งตัวตรงหน้าเชิดส่งยิ้มให้เขา

“วิสกี้มาแล้วครับ”

เสียงบริกรเดินเข้ามาพร้อมถาดเครื่องดื่ม

ใบหม่อน มองแก้ววิสกี้ด้วยความหวาดหวั่น เกิดมาก็ไม่เคยดื่มวิสกี้หรือเหล้าเบียร์มาก่อน ไม่รู้ว่ารสชาติมันจะเป็นอย่างไร แต่ในเมื่อตัดสินใจที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงตัวเอง ฝึกทำในสิ่งที่ไม่เคยทำแล้วใบหม่อนจึงสูดลมหายใจลึก ๆ ที่จะลิ้มลองสิ่งเหล่านี้ แม้จะรู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่ตัดสินใจครั้งนี้ก็ตาม

“ดื่มครับ..”

ฐากูร ยกแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นเชิญชวน ใบหม่อนเหลือบไปเห็นผู้หญิงโต๊ะถัดไปที่นั่งจิบวิสกี้อยู่พอดี จึงเลียนแบบด้วยการนั่งไขว่ห้างทำท่ากรีดกรายยกแก้ววิสกี้ขึ้นจรดริมฝีปากช้า ๆ ก่อนจะจิบด้วยท่าทางที่คิดว่าจะเซ็กซี่เหมือนผู้หญิงคนนั้น ฐากูร หรี่ตามองใบหม่อนดื่มวิสกี้ด้วยแววตาพึงพอใจ เขาคิดว่าเธอเซ็กซี่ถูกใจไม่น้อยทีเดียว

ใบหม่อน รู้สึกร้อนวูบวาบทั้งตัวจากวิสกี้ที่กลืนลงไปในกระเพาะมันเหมือนเลือดสูบฉีดไปทั่วร่าง เธอทำหน้าเหยเกเหมือนคนที่ถูกบังคับให้กินยาขม อดนึกในใจไม่ได้ว่า นี่หรือคือสิ่งที่คนชอบดื่มกันนักหนา ไม่เห็นจะอร่อยตรงไหนเลย แต่พอเห็นสายตาของฐากูรจ้องมองดูอยู่เหมือนจับผิด ใบหม่อน ก็รีบปั้นหน้ายิ้มระรื่น พอเขายกแก้วเชิญชวนให้ดื่มอีกครั้ง จึงจำต้องยกมันขึ้นมาดื่มอย่างพะอืดพะอม

“ท่าทางคุณใบหม่อนเหมือนไม่ชอบวิสกี้” เขาแอบสังเกตเห็นจนได้

“ค่ะ..ฉันชอบเบียร์มากกว่า”

ใบหม่อน แสร้งโกหกทั้งที่ไม่เคยแตะเบียร์มาก่อนเช่นกัน

“งั้นก็เปลี่ยนได้นี่ครับ ที่นี่มีเบียร์ของต่างประเทศให้เลือกหลายยี่ห้อ คุณใบหม่อนเลือกสักอย่างสิครับ”

ฐากูร แนะนำก่อนจะช่วยเรียกบริกรให้เข้ามารับเมนูเครื่องดื่ม ใบหม่อนแทบอยากจะร้องไห้เมื่อฐากูรสั่งเบียร์ยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งนำเข้าจากเยอรมันมาให้เธอ

“คราวนี้คุณใบหม่อนก็จะได้ดื่มอย่างมีความสุขแล้วนะครับ” ฐากูรบอกด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ

มีความสุขตายล่ะ ใบหม่อนนึกในใจ นี่มันนรกชัด ๆ เมื่อสักครู่นี้ก็ฝืนใจดื่มแทบตาย ไม่รู้ว่าเบียร์นอกที่สั่งไปจะทำให้เป็นอย่างไร ต้องรอลุ้น

“คุณใบหม่อนเป็นอะไรไปครับ ท่าท่างเหมือนกังวลใจอะไร” ฐากูรอดถามไม่ได้ที่เห็นท่าทางของเธอดูแปลก ๆ

“มะ..ไม่มีอะไรค่ะ”

ใบหม่อนแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อน ก่อนจะยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ให้กับฐากูรจนเขาเลิกใส่ใจหันมาชวนใบหม่อนพูดคุย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องรสนิยมความชอบในสิ่งต่าง ๆ ของแต่ละคน เป็นการสร้างความคุ้นเคยให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ใบหม่อนพยายามที่จะไม่ปล่อยไก่ด้วยการพูดมากแต่เป็นฝ่ายฟังเขามากกว่า แต่เขาก็ไม่ได้เปิดเผยเรื่องส่วนตัวให้รับรู้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถานะครอบครัว หน้าที่การงาน ใบหม่อนก็ไม่บอกเขาเช่นกันว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ทำงานอะไร

เมื่อเบียร์ถูกนำมาเสิร์ฟ ใบหม่อนก็เริ่มเครียดขึ้นมาทันที ครั้นจะปล่อยให้มันวางอยู่อย่างไม่ไยดีก็ไม่ได้ เพราะมีสายตาของฐากูรเฝ้ามองอยู่เพื่อให้เธอดื่มเป็นเพื่อนเขา ใบหม่อนจึงจำต้องยกแก้วเบียร์ทรงสูงนั้นขึ้นมาจิบดูก่อน

“อื้อ..”

ใบหม่อนเผลอทำหน้าเบ้ทันทีที่ลิ้นสัมผัสรสชาติของเบียร์

“เป็นอะไรครับ”

ฐากูรถามอย่างไม่เข้าใจกับอาการของเธอที่ดูพะอืดพะอมแต่ก็พยายามจะยิ้มให้เขาด้วย

“อะ..อร่อยดีค่ะ”

ใบหม่อน แกล้งพูดทั้งที่ขมแทบตายจนอยากจะอาเจียนเต็มที

นี่หรือรสชาติเบียร์ยังกะยาขมตราใบห่อแก้ร้อนในที่ใบหม่อนเคยฝืนกินตอนที่แม่บังคับให้ดื่มเวลามีไข้ มันช่างเฝื่อนคอเสียเหลือเกิน

“รสชาตินุ่มดีใช่ไหมครับ เบียร์ยี่ห้อนี้ผู้หญิงชอบดื่มกันครับ”

ฐากูรบอกยิ้ม ๆ เขาเห็นท่าทางของใบหม่อนแล้วก็อดขำไม่ได้ เพราะท่าทางกับคำพูดดูขัด ๆ กันชอบกล เขาแกล้งที่จะทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก็รู้สึกสนุกที่ได้ดูผู้หญิงแบบนี้ เขาว่ามันแปลกดี

“ชะ..ใช่ค่ะ นุ่มดีค่ะ”

ใบหม่อนหัวเราะลงคอกลบเกลื่อนความเฝื่อนของเบียร์

“งั้นก็ดื่มให้หมดแก้วเลยนะครับ”

เขาบอกพร้อมกับยกแก้วของตัวเองไปเพื่อชนแก้วกับเธอด้วย ใบหม่อนจำต้องยกแก้วเบียร์ที่เหมือนยาขมนั้นไปชนกับแก้วของเขาแล้วก็ค่อย ๆ จ่อที่ปากจิบช้า ๆ เพื่อให้คุ้นลิ้น แต่พอกลืนลงไปในลำคอ เธอก็ต้องพะอืดพะอมหน้ามุ่ยอีกเหมือนเดิม จนต้องแกล้งหันหน้าไปทางอื่นที่เขามองไม่เห็น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel