บท
ตั้งค่า

ep4

“นายนี่มันรู้ใจฉันจริงๆ ว่ะตะวัน ฉันยังไม่ทันพูดอะไร นายก็ดักคอเสียแล้ว”

“นายว่ามาเถอะ ถ้าฉันช่วยได้ฉันจะช่วย อย่างน้อยก็รับฟัง”

“ขอบใจว่ะเพื่อน ฉันมาลาเท่านั้น พรุ่งนี้ขับรถไปส่งฉันที่สนามบินที ฉันจะไปเวียงจันทร์”

“ไปเที่ยวแค่เวียงจันทร์ ทำไมต้องใช้คำว่าลา”

“ฉันไปทำงานว่ะ ไปแถวน้ำงึม นายคงรู้ว่าฉันไปทำอะไร” พลเหลือบตามองจ่อยที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก

“คราวนี้ไปถึงน้ำงึมเชียวหรือ?”

“เห็นว่าเอาเงินไปลงทุนด้วย”

“ระวังหน่อยนะ ลำพังเขาทำคนเดียวไม่ได้แน่”

“ฉันรู้ เรื่องนี้คนของพ่อก็ตามอยู่”

เสียงเรียกของสโรชาทำให้จ่อยรีบไปรับกับแกล้มภายในครัว พลมองตามก่อนยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี

“อะไรวะ?”

“ไอ้จ่อยของนาย มันเป็นห่วงฉันว่ะ มันคิดว่าฉันเล่นการพนัน”

“แต่นายก็เล่น”

“ใช่... ฉันก็เล่น แต่นายก็รู้ทำไมฉันถึงต้องเล่น...ลูกน้องอย่างนี้ ถ้ามันปลดประจำการ ฉันขอได้ไหมวะ?” พลถามตะวันเอาดื้อ ๆ

“แล้วแต่มันสิ ศูนย์ฝึกเขาจัดมา ก็ลุงฉันนั่นแหละเลือกมาให้ “

“อย่างน้อยมาเป็นคนขับรถฉันก็ยังดี ถ้ามีความรู้ดี ไปทำงานที่บริษัทก็ยังได้” พลบอกเพื่อนอย่างโอบอ้อม เขาเป็นอย่างนี้เอง ไม่ใช่เพียงแต่ทรัพย์สินที่ร่ำรวย แต่น้ำใจของเขาก็มีไม่น้อย

“ว่าแต่นาย จะกินอยู่บ้านอย่างนี้หรือวะ?”

“รอให้เขากลับไปก่อนสิ นายจะใจร้อนทำไม?”

เสียงตะวันกระซิบเบา ๆ

“มาแล้วครับ กับแกล้มแสนอร่อย ยำสารพัดผัก” จ่อยรีบยกจานใบโตมาที่โต๊ะรับแขก แล้วคว้าแก้วที่พร่องน้ำไปเติมทันทีอย่างรู้งาน

“มีอย่างเดียวหรือ?” ตะวันถามจ่อยเบา ๆ

“กำลังทอดหมูแดดเดียวอยู่ครับ”

“ฮืม..ไม่ต้องให้เขาทำมากหรอก แกไปซื้อมาดีกว่าเขาจะได้กลับบ้าน”

“ให้ผมไปบอกหรือครับ?” จ่อยทำตาโต

“ใช่ แกนั่นแหละ”

“ผมว่า ผมไปซื้อกับแกล้มตามที่ผู้กองสั่งดีกว่า ส่วนเรื่องให้คุณบัวกลับบ้าน ผู้กองจัดการเองเถอะครับ”

พลยิ้มแล้วรีบควักเงิน 500 บาทส่งให้จ่อย ไล่ไปซื้อกับแกล้ม ส่วนตะวันชะเง้อไปที่ครัวแล้วลอบถอนใจ

“อะไรของนาย?”

“ฉันไม่อยากให้เขารู้เลย เรื่องความฝันบ้าบออะไรนั่น นายคอยดูแล้วกัน วันนี้เขาจะกลับบ้านไหม?”

“ไม่กลับหรือ?”

“ก็คงอยู่จนแน่ใจว่าฉันเมากลิ้งแล้วหลับไปนั่นแหละ”

“พ่อแม่เขาไม่ห่วงหรือวะ?” พลขมวดคิ้ว จิ้มยำสารพัดผักเข้าปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย แต่เสียงหวานใสที่ตอบสวนมาก็ทำเอาทั้งคู่ตกใจ

“ไม่ห่วงหรอกค่ะ บัวโทร. บอกพ่อกับแม่ไว้แล้วว่าขออนุญาตค้างที่นี่”

“ไม่ดีนะครับ เรายังไม่แต่งงานกัน”

“พ่อกับแม่ก็พูดอย่างนี้ค่ะ ก็เลยไม่ได้อยู่ค้าง”

ตะวันลอบถอนใจเบา ๆ ขณะที่พลอมยิ้ม

“ถ้าจะออกไปทานเหล้าข้างนอกก็ระวังด้วยนะคะ ทางที่ดีให้จ่อยไปด้วยดีกว่า เพราะถ้าคุณสองคนเมา จ่อยจะได้พากลับได้”

สโรชาพูดพลางฉวยกระเป๋าสะพายยืนยิ้มแบบรู้ทัน ตะวันลุกขึ้นโอบบ่าคนรักเดินตามออกมาส่งขึ้นรถคันเล็ก ไม่ได้โต้แย้งคำของสโรชาเลยสักนิด

“ไม่เห็นคุณแย้งอะไรเลย”

“จะแย้งอะไรได้ คุณเดาใจผมถูกทุกอย่าง” ตะวันพูดแล้วก้มลงจูบที่แก้ม สโรชายิ้มรับ

“บางทีคุณสนุกกับเพื่อน อาจจะทำให้คุณหลับสบายง่ายขึ้น”

“ผมก็หวังอย่างนั้น”

“บัวไปล่ะค่ะ”

สโรชาสตาร์ทรถแล้วเคลื่อนตัวออกไป ทิ้งให้ตะวันนายทหารหนุ่มยืนกอดอกมองรถยนต์คันเล็กที่วิ่งไปตามทางจนลับสายตา

“เฮ้ย! เหล้าเนี่ย ตกลงจะกินต่อไหมวะ?”

เสียงตะโกนของพลไม่ดังนัก แต่ก็ทำให้เพื่อนบ้านที่นั่งเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้านโบกมือทักทายกับเขา เป็นอันรู้กันว่าผู้กองหนุ่มเมาอีกแล้ว

“ตะโกนทำไมให้ชาวบ้านเขารู้?” ตะวันเดินเข้ามาในบ้านทิ้งตัวลงนั่งแบบสบาย ๆ

“ทำยังกับชาวบ้านไม่รู้”

“ฮึ ฮึ...ก็ไม่ต้องประเจิดประเจ้อก็ได้”

จ่อยนั่งอยู่ไม่ไกลนักรีบกุลีกุจอมาผสมเหล้า โซดา อย่างรู้ใจ

“เดี๋ยวแกไปอาบน้ำแต่งตัว วันนี้ฉันจะพาไปเที่ยว”

สิ้นคำสั่งของนายทหาร พลทหารกองเกินก็ยิ้มร่าวิ่งปรู๊ดออกไปอย่างรวดเร็ว

“จะไปนั่งเงียบ ๆ คุยกัน หรือเหล่สาววะ?” พลเอ่ยถาม ท่าทีเหมือนไม่แน่ใจกับเพื่อน

“ไปฟังเพลงกัน เพลงเบา ๆ ไม่อยากคุยกับนายแล้ว”

พลยิ้มส่ายหน้า ลองว่าแบบนี้แล้วละก็ร้อยเอกตะวันมีปัญหาหนักใจที่แก้ไม่ตกอยู่แน่นอน ซึ่งเขาเกรงว่ามันอาจจะมากกว่าความฝัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel