ep14
“เลื่อนออกไปเป็นวันไหนละลูก”
คุณหญิงนวลจันทร์ถาม เธอรู้แน่แล้วว่าลูกมีปัญหากับคนรัก แต่ด้วยความเป็นแม่ที่ฉลาดทันลูกสาว จึงไม่ผลีผลามถามเอาแต่ใจ แต่แสร้งไม่รู้กลนัยของลูกสาว
“ไม่มีกำหนดหรอกค่ะแม่ ช่วงนี้ตะวันเขายุ่งมาก ต้องตามนายไปทำธุระบ่อย ๆ วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ก็ยังไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง”
แม้สโรชาพยายามชี้แจงให้เห็นเป็นเรื่องปกติ แต่คนเป็นแม่รู้ว่าสิ่งนี้ไม่ปกติแน่ ๆ เพราะคนที่รบเร้าจะแต่งงานให้ได้คือผู้กองตะวัน แม้ว่าพระที่นับถือท้วงติง ขอให้ผลัดเลื่อนงานแต่งออกไปเป็นปีหน้า ก็เป็นว่าที่เจ้าบ่าวเองนั่นแหละที่ไม่สนใจในคำทักท้วง แต่บอกว่าจะขอฤกษ์สะดวกเอง
นี่ก็คงไม่สะดวก... แต่ไม่สะดวกในเรื่องไหน ลูกสาวของเธอจึงมานั่งอมทุกข์ แต่สวมหน้ากากแป๊ะยิ้มอยู่ตรงนี้
“แม่มีอะไรหรือคะ? มองหนูเหมือนกับไม่เคยเห็นมาก่อน”
สโรชาเห็นมารดาผิดสังเกตที่มองหน้าเธอเนิ่นนาน เหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“ไม่มีอะไรหรอกลูก ขอทางโน้นเขาเลื่อนเป็นปีหน้าอย่างที่พระท่านแนะนำไปก็น่าจะดีนะ”
“ค่ะ ก็คงเป็นอย่างนั้น” สโรชาได้ทีก็รีบรับคำนั้นไม่อยากให้มารดาไม่สบายใจไปด้วย
“ดีนะ ที่ยังไม่ได้เชิญใคร แค่บอกกล่าวว่าจะแต่งเดือนหน้าเท่านั้น ก็ยังดีที่ยังไม่ได้จัดเตรียมอะไร”
คุณหญิงนวลจันทร์พูดเปรย ๆ นึกเองเออเองว่าที่ลูกสาวนั่งเศร้าคงเพราะถูกเลื่อนการแต่งงานออกไป แต่สาเหตุของการเลื่อนนี่น่าคิด ตะวันมีงานจริงหรือ หรือว่าความรักของคนทั้งคู่เริ่มสั่นคลอน ก็ดีให้มันสั่นคลอนตอนนี้ ดีกว่าแต่งไปแล้วสั่นคลอน
สโรชาตัดสินใจไปปฏิบัติธรรม ณ สถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง โดยอ้างกับมารดาว่าเป็นกลุ่มเพื่อน ๆ ชวนกันไป ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเลื่อนงานแต่งของตะวัน
“ลูกเราก็โตแล้ว เขาคิดเองได้ ถ้ามันเหลือบ่ากว่าแรง ก็คงมาปรึกษาเราเอง”
พลตำรวจเอกรุ่งโรจน์บอกคุณหญิงนวลจันทร์ที่อดเป็นห่วงลูกสาวคนเดียวไม่ได้ กว่า ๒๐ ปีก่อนที่จะได้ลูกสาวคนนี้มา คุณหญิงนวลจันทร์กับสามี แต่งงานมาหลายปีไม่มีลูกด้วยกันเสียที จึงได้ไปขอพระ เพื่อจะได้มีลูกไว้เป็นโซ่ทองคล้องใจ หลังจากนั้นไม่นานเธอฝันเห็นนางฟ้านำดอกไม้และแก้วแหวนเงินทองมาให้ ในฝันเธอดีใจนักหนา ตื่นขึ้นมาสังหรณ์ใจว่าเธอจะมีลูกเป็นแน่แท้ และเป็นเช่นนั้นจริง
ฝันบอกเหตุได้อย่างที่เขาร่ำลือกันจริง ๆ แต่เดิมที่คนที่มีลูกมักจะบอกว่า ฝันเห็นพระ ฝันเห็นเทวดาเอาสิ่งของมาให้ก็จะมีคนมีบุญมาเกิดในท้อง เธอไม่เคยเชื่อ กระทั่งได้มาประสบกับตัวเอง
“เลี้ยงเขาให้ดีนะ อย่าพูดจาหยาบคาย เขามาจากที่สูง”
หลวงพ่อที่เธอนำลูกไปถวายแก้เคล็ดบอก หลังจากที่สโรชาป่วยบ่อย จนครั้งสุดท้ายสโรชาป่วยจนแทบเอาชีวิตไม่รอด จากวันนั้นเป็นต้นมา สโรชาก็มีสุขภาพแข็งแรง และเธอตามใจลูกสาวทุกอย่าง ทั้งยังไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของลูกเลย จะรอจนกว่าลูกมาปรึกษาเอง เพราะคำที่ว่าลูกของเธอมาจากที่สูง ดังนั้นเธอจึงเชื่อว่าลูกของเธอมีความใฝ่ดี และเป็นคนดีที่จะไม่ประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นที่เดือดร้อน
“ฉันอยากรู้ว่าตะวันเขามีอะไร? ถึงได้เลื่อนการแต่งงานออกไปแบบนั้น”
“คุณก็อย่าไปคิดมาก เขาอาจจะเก็บเอาคำพูดหลวงพ่อมาคิด ประกอบกับหน้าที่การงานของเขากำลังยุ่ง ๆ น่ะ เลยไม่สะดวกที่จะแต่งตอนนี้ ก็เห็นไหมละว่าหลวงพ่อท่านแม่นแค่ไหน? บอกไม่ควรแต่งตอนนี้ ก็ไม่ได้แต่งจริง”
พลตำรวจเอกรุ่งโรจน์พูดไปพลางพลิกหนังสือพิมพ์ไปพลางอย่างไม่ค่อยใส่ใจอะไรนัก
“ลูกทั้งคนนะคะคุณ ทำเหมือนไม่ใส่ใจเลย”
คุณหญิงนวลจันทร์กระฟัดกระเฟียด เมื่อดูท่าทีของสามี
“ผมคุยกับตะวันเขาแล้ว เขาก็บอกตรงกับที่ลูกสาวคุณบอกคุณนั่นแหละ”
“อ้าว แล้วทำไมคุณไม่บอกฉัน”
“ก็ผมเห็นคุณไปถามลูกแล้วนี่ แล้วคุณก็ไม่เห็นมาถามผม นึกว่ารู้เรื่องกันแล้ว”
คุณหญิงนวลจันทร์มองค้อนสามี พอมีสติเธอจึงไตร่ตรองได้ว่าสามีเป็นคนไม่พูด แต่มักจะจับสังเกตสิ่งผิดปกติได้รวดเร็ว ลูกผู้ชายคุยกัน ยังไงเสียก็คงจะเคลียร์กันอย่างตรงไปตรงมา และมันก็คงเป็นไปอย่างที่สามีเธอว่าจริงๆ
