บทที่ 4
ก๊อก ก๊อก!
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องทำงาน ปิแอร์จึงละสายตาจากภาพนางแบบบนโต๊ะทำงาน ก่อนจะเอ่ยบอกขึ้น เพราะพอจะเดาออกว่าเป็นใคร
“เข้ามาสิ” เมื่อสิ้นเสียงบอก ประตูบานใหญ่ก็เปิดออก คนที่ก้าวเข้ามาคือวิรัชฎาและเพียงขวัญ
“นั่งก่อน” หนุ่มใหญ่ผายมือให้ ซึ่งทั้งสองก็ลงไปนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“เคธีได้ไปถ่ายแบบที่เมืองไทยจริงหรือเปล่าคะ” น้ำเสียงใสๆ เอ่ยถามแบบไม่รีรอ แววตาเป็นประกายจนปิแอร์อดยิ้มให้ไม่ได้ เด็กสาวคนนี้ไม่เคยเปลี่ยนไปตั้งแต่วันแรกที่เขาได้พบหน้า แม้บางครั้งแววตาที่เห็นจะเศร้าสร้อย แต่ก็แฝงความน่าค้นหา วิรัชฎามีบุคลิกที่แตกต่างจากคนอื่น หญิงสาวไม่เคยลืมตัว วางตัวดีมาตั้งแต่ต้น จนเขาเอ็นดูเหมือนลูกก็ว่าได้
“จริง! ดีใจถึงขนาดนั้นเชียวเหรอ”
“ค่ะ”
“ฟิตหุ่นแล้วเตรียมตัวให้พร้อม งานชิ้นนี้จะได้ออกมาดี”
“เอ่อ...งานสุดท้ายนะคะ” คำพูดของวิรัชฎา ทำให้หนุ่มใหญ่เจ้าของหนังสือนิ่วหน้าเล็กน้อย ที่เธอยังคงไม่เปลี่ยนความคิด
“ไม่เปลี่ยนใจแน่แล้วเหรอ คิดดูอีกครั้งไหม” คำถามของปิแอร์ วิรัชฎาแทบไม่ต้องคิดคำตอบให้ยุ่งยาก เพราะเธอตั้งมั่นแล้ว
“ไม่ค่ะ พอแล้ว เคธีอยากกลับบ้าน”
“บอกตามตรงนะ ฉันยังอยากให้เธอทำงานอยู่ที่นี่ เพราะเธอกำลังดังมากรู้ตัวไหมเคธี เงิน ความสุข ความสบายมากมายกำลังวิ่งเข้ามาหาเธอ จะทิ้งไปแบบนี้นะเหรอ”
“ทราบค่ะ แต่นี่ไม่ใช่ในแบบที่ต้องการ”
“จะกลับไปทำอะไรที่เมืองไทย ฉันรู้นะว่าเรื่องที่เธอทำ วัฒนธรรมที่นั่นคงรับไม่ได้หรอก” คำพูดของปิแอร์ทำเอาวิรัชฎาสะอึก แม้จะได้กลับบ้านเกิด แต่หญิงสาวก็ยังมืดแปดด้าน คิดไม่ออกว่าจะทำธุรกิจอะไรที่นั่น ความฝันคืออยากเปิดรีสอร์ตเล็กๆ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มนับหนึ่งจากตรงไหนดี
“ยังไม่ทราบค่ะ แต่ถ้าได้กลับไปคงคิดออกว่าจะเอายังไงต่อ”
“ถ้าไม่รุ่ง ฉันยังคงต้อนรับเธอเสมอ”
“ขอบคุณค่ะ” วิรัชฎาเอ่ยรับ แต่เธอไม่มีวันกลับมาที่นี่อีกแน่นอน ถึงจะมีเงิน มีความสะดวกสบาย แต่ใจเธอมีแต่ทุกข์ จะอยู่ไปทำไม
“ไม่อยากคิดเลย ว่าฉันจะเสียนางแบบคุณภาพอย่างเธอไป อีกอย่างเรื่องที่เธอจะลาออกจากวงการ ฉันต้องแถลงข่าวนะ”
“แถลงข่าว” น้ำเสียงของเพียงขวัญเอ่ยขึ้น เพราะรู้ว่าวิรัชฎาต้องการไปอย่างเงียบๆ เท่านั้น ยิ่งประโคมข่าวเธอก็ยิ่งจะอึดอัด ส่วนเจ้าตัวก็ตกใจไม่น้อยที่ได้ยินแบบนี้
“ใช่! วันนั้นฉันจะแนะนำตัวอลิซไปในตัวด้วย” ปิแอร์ไม่ทำอะไรที่ไม่หวังผล ครั้งนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวแน่นอน หนึ่งคือการแถลงข่าวผลงานชิ้นสุดท้ายของวิรัชฎา และอีกหนึ่งคือการแนะนำนางแบบชาวเอเชียคนใหม่ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพียงขวัญมองหน้าวิรัชฎาที่ซีดลงไปอย่างเห็นได้ชัด แล้วถามเรื่องสถานที่ขึ้น
“จะแถลงข่าวที่ไหนคะ”
“เมืองไทย”
“เมืองไทย! ทะ...ทำไมต้องเป็นที่นั่น” วิรัชฎาทวนชื่อประเทศ ก่อนจะเอ่ยถามเสียงสั่น ทำไมต้องเป็นที่บ้านเกิดของเธอด้วย แบบนี้พ่อก็ต้องมีโอกาสรับรู้นะสิ
“เพราะเมืองไทยคือบ้านเกิดของเธอนะสิ” คำตอบของปิแอร์ทำให้หัวใจของวิรัชฎาหล่นไปอยู่ตาตุ่ม เพราะเหมือนหนุ่มใหญ่ต้องการตัดอนาคตของเธอเสียมากกว่า ถึงเขาจะเป็นคนดี แต่เรื่องธุรกิจปิแอร์ก็เขี้ยวไม่น้อย เขาจะไม่ทำอะไรที่ไม่ได้ผลตอบแทนเป็นแน่
“วันไหน พอจะบอกเคธีได้ไหม”
“ไม่ใช่วันที่เธอต้องไปถ่ายแบบหรอก ฉันจะแถลงข่าวตอนหนังสือวางแผงแล้ว รู้แน่ชัดจะบอกอีกที”
“ค่ะ” หญิงสาวเอ่ยรับอย่างช่วยไม่ได้ เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นให้เดิน อันที่จริงชื่อเสียงที่ว่านั่น ดูเหมือนจะป่นปี้ไปหมดตั้งแต่ครั้งแรกที่ตัดสินใจมาถ่ายแบบให้แล้ว ต่อให้กลับไปแถลงข่าวที่เมืองไทยก็คงไม่มีอะไรจะแย่ไปมากกว่านี้ หวังว่าเรื่องทั้งหมดนี้ผู้เป็นพ่อจะไม่รับรู้ แต่ถ้าไม่เป็นอย่างที่คิด ทางเดียวที่ทำได้คือการขอโทษ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพ่อจะอภัยให้เธอไหม
เมื่อคุยเรื่องการลาออกและแถลงข่าวแบบมัดมือชกเรียบร้อย ปิแอร์ก็คุยเรื่องงานกับวิรัชฎาต่อคอนเซ็ปต์การถ่ายแบบครั้งสุดท้ายของเธอเป็นยังไง เสื้อผ้าประมาณไหน ซึ่งส่วนใหญ่ก็แทบไม่มีอะไรปกปิดรูปร่างของนางแบบอยู่แล้ว แต่ในสายตาเขามองว่านี่คืองานศิลปะแขนงหนึ่ง
