บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

ขณะที่อีกซีกของโลก ชีวิตก็ยังดำเนินต่อไป เสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาในห้องเสื้อ ทำให้พนักงานทุกคนยืนตัวตรงแทบไม่กระดิก สายตามองไปยังผู้เป็นเจ้าของที่เดินตรวจงานอยู่ในขณะนี้ ชายหนุ่มหน้าตาดี สุดเท่ห์ สูงสง่า อายุย่างเข้าสามสิบปีกำลังประสบความสำเร็จในงานที่ทำ แต่นั่นก็ส่งผลให้เขากลายเป็นคนยิ้มยาก เพราะมุ่งมั่นในงานที่ทำ เรื่องงานเนี้ยบไปเสียทุกอย่าง ทุกสิ่งที่หยิบมาทำต้องเป็นที่หนึ่งเหมือนชื่อเล่นของชายหนุ่มเอง แถมบางครั้งยังถูกมองว่าไม่แมนเต็มร้อย เพราะอาชีพที่ปัฐวีย์เลือกทำนั่นเอง การมีห้องเสื้อและแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง ทำให้หลายคนคิดแบบนั้นก็ไม่แปลก

“คอลเลคชั่นชุดว่ายน้ำที่ส่งไปให้

หนังสือเล่มนั้นดูเพื่อเลือกใช้ถ่ายแบบเรียบร้อยใช่ไหม” เสียงทุ้มอันทรงพลังเอ่ยถามผู้จัดการห้องเสื้อ เพราะงานนี้เขาหวังไว้มาก ถ้าสำเร็จชื่อเสียงของแบรนด์เสื้อผ้า ‘เฟิสต์คลาส’ ของเขานั้นก็จะโด่งดังขึ้นไปอีก

“เรียบร้อยค่ะคุณเฟิสต์” ผู้จัดการห้องเสื้อเอ่ยรับ แม้จะร่วมงานกับชายหนุ่มมาหลายปี แต่ความประหม่าที่เกิดขึ้นระหว่างคุยงานก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปสักนิด

“ดี...งานนี้อย่าพลาด เพราะผมต้องการให้เขาใช้แบรนด์เรา” ปัฐวีย์เอ่ยด้วยความมาดมั่น งานนี้ต้องสำเร็จเพียงคำเดียวเท่านั้น

“ทราบค่ะ” ชายหนุ่มพยักหน้าให้ลูกน้อง ที่รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ ก่อนจะเดินตรวจดูความเรียบร้อยภายในห้องเสื้อต่อ แต่เขาก็ต้องมาสะดุดกับเสื้อที่สวมอยู่ในหุ่นตรงหน้า แล้วเอ่ยถามเสียงห้วน แววตามองพนักงานทุกคนเหมือนกับไปทำความผิดร้ายแรงมา

“นี่อะไร”

“ขอโทษค่ะ” ไม่ต้องแก้ตัวใดๆ รจนาก็รีบเอ่ยขอโทษนำร่องไปก่อน เมื่อเห็นเศษด้ายในมือเจ้านายหนุ่ม มีหวังเช้านี้งานเข้าแน่นอน

“เก็บให้เรียบร้อย อย่าให้ผมเจอว่ามีเศษด้ายติดอยู่ที่เสื้อผ้าในร้านแบบนี้อีก เสียเครดิต พวกเธอในร้านจะตกงานเอาได้ง่ายๆ” คำขู่ของปัฐวีย์ทำให้เหล่าพนักงานสาวในร้านห้าหกคนถึงกับหน้าซีดไปตามๆ กัน ก่อนจะเอ่ยรับปากอย่างพร้อมเพรียง

“ค่ะ”

“เฮ้อ...หายใจแทบไม่ทั่วท้อง” พนักงานคนหนึ่งถอนหายใจออกมาก่อนจะเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าปัฐวีย์เดินขึ้นไปในส่วนที่เป็นออฟฟิศ ที่นี่เป็นสำนักงานใหญ่ เขาจึงแวะมาบ่อยที่สุด ชายหนุ่มนั้นมีห้องเสื้ออยู่แทบทุกห้างที่เหล่าเซเลบเดินช้อปปิ้งกัน เพราะราคาเสื้อผ้าแต่ละชิ้นแพงใช่เล่น

“พูดจาระวังปากหน่อยนะจ๊ะ” ผู้จัดการสาวเอ่ยขึ้น ก่อนจะส่ายหน้าให้พนักงานสาวที่รู้ว่าคงออกอาการประหม่าไม่แพ้เธอ

“ผู้ชายอะไร น่ากลัวชะมัด” คำพูดของพนักงานสาวอีกคนทำเอารจนาหน้าบึ้ง ที่ลูกน้องเธอพูดจาไม่ระวังปากเอาซะบ้าง ไม่เพราะผู้ชายน่ากลัวที่เป็นเจ้านายคนนี้เหรอ ที่ทำให้พวกเธอมีเงินใช้กัน เพราะเงินเดือนของที่นี่สูงอยู่ถ้าเทียบกับที่อื่น แถมการจะได้เข้ามาทำงานที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านการอบรมมารยาทและกิริยาท่าทางขณะนำเสนอสินค้าอีกเป็นเดือน ซึ่งขณะที่อบรมก็ไม่มีอะไรการันตีว่าจะได้เข้าทำงาน แต่ทุกคนก็ยอมเสี่ยง

รจนามองตึกทรงทันสมัย สถานที่ที่เธอทำงานมาหลายปี ซึ่งทั้งหมดมีห้าชั้น ถูกออกแบบและปลูกสร้างอย่างลงตัว ทุกอย่างบ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ของห้องเสื้อที่เน้นความทันสมัย น่าค้นหา แต่ก็แฝงไปด้วยความอบอุ่นทั้งชายและหญิง ชั้นล่างและชั้นสองตกแต่งด้วยกระจกโดยรอบ เพราะคือส่วนโชว์ผลงานซึ่งมีหลากหลาย เปลี่ยนคอลเลคชั่นไปตามฤดูหรือสมัยนิยม เรียกได้ว่าแบบของห้องเสื้อที่นี่ไม่มีคำว่าตกเทรนด์

ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่เสื้อผ้ายังรวมไปถึงเครื่องแต่งกายทุกอย่าง ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าก็ว่าได้ ชั้นสามถึงห้าคือส่วนออฟฟิศ ที่จะมีห้องทำงานของปัฐวีย์และหน่วยที่สำคัญ เช่น ฝ่ายออกแบบที่ชายหนุ่มมักมีส่วนร่วมเสมอ ฝ่ายการตลาดและอื่นๆ ส่วนฝ่ายผลิตจะอยู่ที่โรงงานแถวๆ สมุทรปราการ

“ไปทำงาน เดี๋ยวก็ถูกไล่ออกกันพอดี” รจนาเอ็ดเด็กในร้าน ใช่ว่าเหตุการณ์ที่ปัฐวีย์ไล่พนักงานออกยกร้านไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะความเนี้ยบของชายหนุ่มนี่แหละถึงเกิดเหตุการณ์แบบนั้น แต่จะไปโทษเขาก็ไม่ถูก เพราะเด็กที่ร้านไม่มีความรับผิดชอบเอง ยังไม่ถึงเวลาปิดร้านกลับปิดซะได้ ซึ่งแจ็คพ็อตแตกในวันที่ชายหนุ่มแวะไปพอดี งานจึงเข้า พนักงานในห้องเสื้อถูกไล่ออกทุกคนไม่เว้นแม้แต่ผู้จัดการ

พอเรื่องนี้เกิดขึ้น ชายหนุ่มโกรธมาก โกรธที่ทำให้เขาเสียชื่อ ถ้าหากมีใครทำแบบนี้อีก เขาจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ซึ่งมีระบุในสัญญาจ้างงานด้วย ปัฐวีย์นั้นมีห้องเสื้ออยู่แทบทุกห้างชื่อดัง ลูกค้าบางคนก็แวะมาที่สำนักงานใหญ่เลย เพื่อให้ชายหนุ่มออกแบบและตัดชุดให้ บางชุดจึงมีชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น แถมยังมีรีสอร์ตที่เล่าลือว่าสวยที่สุดอีกต่างหาก จนบางครั้งรจนายังแอบคิดว่าชายหนุ่มจะรวยไปถึงไหน

“ค่ะๆ” เหล่าพนักงานเอ่ยรับ ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานของตน ขณะที่เจ้านายหนุ่มเมื่อขึ้นมาถึงห้องทำงานก็ทิ้งตัวลงไปบนเก้าอี้หนังตัวใหญ่ หยิบแฟ้มงานขึ้นมาดู เป็นภาพสเกตช์เสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ประจำซัมเมอร์ที่จะมาถึงนี้

ชายหนุ่มนั่งพินิจมอง ก่อนจะหยิบดินสอขึ้นมาแก้ไข ปรับปรุงในส่วนที่เขาคิดว่าน่าจะดีกว่าเดิม ปัฐวีย์ใส่ใจกับงานที่ทำ เขารักงานชิ้นนี้ ถึงจะเป็นผู้ชาย แต่เขาก็ชอบแฟชั่นไม่น้อยไปกว่าผู้หญิง ไม่แคร์ด้วยหากใครต่อใครจะคิดว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายแท้ เพราะตัวเขานั้นรู้ว่าต้องการอะไร ถ้าไม่เจอคนที่ใช่ เขาก็ไม่คิดที่จะรัก ถ้าต้องการเซ็กซ์ก็แค่กวักมือเรียก ผู้หญิงที่เห็นแก่เงินก็ต่างพากันกรูเข้ามาหา จากผู้หญิงสาวสวยธรรมดาจนถึงนางแบบ นางเอกและไฮโซชื่อดัง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel