บ่วงรักลิขิตใจ

163.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
111
บท
5.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

นางแบบหนังสือเพลย์บอยชื่อดังก้องโลกลาออกจากวงการแต่การกลับเมืองไทยครั้งนี้มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เมื่อทุกอย่างเปิดเผย เธอต้องรีบสะสางให้ลงตัว โดยเฉพาะเรื่องหัวใจระหว่างเธอกับปัฐวีย์

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานดารารักแรกพบวงบันเทิงโรแมนติกพลิกชีวิตฟินๆ

บทที่ 1

บนเตียงนอนขนาดคิงไซส์ที่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น หญิงสาวผิวขาว รูปร่างและสัดส่วนละลายใจทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มานักต่อนัก ด้วยขนาด 38-24-35 คงไม่มีใครปฏิเสธว่าเธอไม่เซ็กซี่ เจ้าของสัดส่วนภายใต้ชุดนอนผ้าแพรเนื้อนิ่มกำลังนอนกระสับกระส่ายไปมา เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นบริเวณไรผมและลำตัว คิ้วขมวดจนยุ่งกับภาพที่ปรากฏขึ้นในความฝัน

ฝัน…ที่เธอพยายามจะลืม แต่สุดท้ายก็ลืมไม่ได้ แววตาเย็นชาและว่างเปล่าของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อเพ่งมองมายังเธอขณะยืนถ่ายแบบด้วยเสื้อผ้าที่มีน้อยชิ้นนั้น แม้จะเป็นแค่ฝัน แต่แววตาแบบนั้นของพ่อก็น่ากลัว สิ่งนี้ทำให้วิรัชฎาสะดุ้งตื่น

“พ่อ!” หญิงสาวเอ่ยเสียงแหบพร่า เธอลุกจากเตียงเดินไปยังห้องครัวที่แยกออกไปเป็นสัดส่วนภายในคอนโดมิเนียมสุดหรูที่วิรัชฎาหาเงินซื้อด้วยตัวเอง แต่เรื่องนี้ไม่ได้สร้างความภูมิใจให้ตัวผู้เป็นเจ้าของสักเท่าไหร่นัก เพราะรู้ว่าแหล่งที่มาของเงินนั้น เธอต้องทำอะไรบ้าง สายตาสวยคมเหลือบไปมองเวลาที่บอกว่าตอนนี้คือตีสี่ ความง่วงที่เคยมีหายเป็นปลิดทิ้ง

มือเรียวสวยที่หลายคนกระเซ้าว่าเป็นมือคุณนายเอื้อมเปิดตู้เย็นหยิบน้ำดื่มดับกระหาย เธอถอนหายใจแรงอีกครั้งแล้วเดินมาหย่อนตัวลงไปนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ริมกระจก กวาดสายตามองวิวมุมสูงยามค่ำคืนของลอนดอน ประเทศอังกฤษ เธอยกมือขึ้นกุมขมับอย่างคนคิดมาก แล้วเอื้อมไปหยิบกรอบไม้สีทองที่มีรูปภาพของคนที่เธอรักอยู่สองคน

“พ่อ…แคท สบายดีกันใช่ไหม” ขณะที่เอ่ยถามคนในรูปถ่าย น้ำตาของวิรัชฎาก็คลอเบ้า เพราะเกือบจะห้าปีแล้วที่เธอไม่ได้กลับเมืองไทย ตั้งแต่ตัดสินใจมาเป็นนางแบบให้กับหนังสือปลุกใจเสือป่าชื่อดังก้องโลก ความคิดที่เฝ้าบอกตัวเองตั้งแต่เรียน ว่าถ้าเธอได้รับใบปริญญามา ต้องหางานดีๆ ทำได้แน่นอน แต่พอเอาเข้าจริง ก็ไม่มีที่สำหรับเธอให้โชว์ความสามารถ

เด็กจบใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ไม่มีบริษัทไหนอยากรับเข้าทำงาน แม้เกรดเฉลี่ยจะสูงสักแค่ไหนก็ตาม ถึงตกงานแต่ตอนนั้นเธอไม่มีความคิดที่จะกลับบ้านต่างจังหวัด เพราะกลับไปก็เป็นภาระให้พ่อที่มีอาชีพเป็นชาวสวนผลไม้ธรรมดา ซึ่งอุตส่าห์กัดฟันส่งเธอเรียนจนจบ แต่เธอยังจะกลับไปทำให้ท่านลำบากอีก เพราะตอนนั้นน้องสาวเองก็ยังเรียนอยู่ด้วย ส่วนผู้เป็นแม่ได้จากโลกนี้ไปหลายปีแล้ว

“พ่อ...เคทขอโทษนะคะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นพลางย้อนคิดถึงอดีตอันเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่านางแบบอีโรติก ซึ่งคำคำนั้นเหมือนจะสลักอยู่บนหน้าผากเธอไปแล้ว จำได้ว่าวันนั้นเธอเดินเตะฝุ่นหางานเหมือนบัณฑิตจบใหม่ทั่วๆ ไป โชคชะตากลับทำให้ได้พบกับผู้ชายคนหนึ่งที่เข้ามาเปลี่ยนเส้นทางชีวิตเธออย่างสิ้นเชิง เขามาพร้อมข้อเสนอที่เป็นเงินค่าตอบแทนซึ่งมหาศาล ที่วิรัชฎาคิดว่าชาตินี้เธอไม่สามารถหาได้แน่นอนและคิดว่าจะทำแค่ครั้งเดียว

ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด ด้วยความที่ตอนนั้นไม่ได้เก่งกาจเรื่องภาษาอังกฤษมากนัก แค่พูด อ่าน เขียนได้บ้าง และความซื่อไม่ทันคน ทำให้เธอหลงกลเซ็นสัญญาเป็นนางแบบให้ทางหนังสือถึงห้าปี ถ้ายกเลิกสัญญาก่อนกำหนด เธอจะถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินมหาศาล หญิงสาวจึงจำต้องยอมฝืนทนอดกลั้นต่อสิ่งที่ได้ตัดสินใจทำ แต่ก็ต้องยอมรับว่าอาชีพนี้ทำให้เธอลืมตาอ้าปากและมีชื่อเสียงไปทั่วโลกก็ว่าได้ แม้จะเป็นเรื่องไม่น่ายินดีสำหรับผู้หญิงไทยก็ตามที การมาอยู่ที่นี่ทำให้เธอต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง และทันคนให้มากขึ้น

“อยากกลับบ้านเร็วๆ จัง” วิรัชฎาเอ่ยกับตัวเองน้ำเสียงเศร้า แต่ก็แฝงไปด้วยความดีใจอีกครั้ง เพราะเธอนั้นเฝ้ารอวันแห่งการหมดสัญญามาหลายปี ในที่สุดวันนั้นก็ใกล้มาถึง แม้จะถูกหว่านล้อมจากคนหลายคนให้เธอต่อสัญญาอีก แต่หญิงสาวก็แน่วแน่พอที่จะตอบแบบไม่ลังเลว่า ‘ไม่’

การมีเงินหรือได้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้ายี่ห้อดัง มีรถรับส่ง มีคอนโดฯ สุดหรูให้อยู่ เดินไปไหนมาไหนมีแต่คนรู้จักและจับจ้อง แต่ใช่ว่าวิรัชฎาจะมีความสุขกับเปลือกนอกแบบนั้น เธอต้องการชีวิตที่อิสระและไม่ตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครอีก ด้วยความที่ทำงานมาหลายปีและรู้จักประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือยใช้เงินเป็นเบี้ยเหมือนนางแบบหลายๆ คน เธอจึงมีเงินเก็บมากกว่าใคร หากได้กลับเมืองไทยเมื่อไร เธอก็มีทุนทำธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง

หญิงสาวส่งเงินจากการทำงานกลับบ้านทุกเดือน พอให้พ่อและน้องได้มีกินมีอยู่ไม่ขัดสน ไม่ฟู่ฟ่าจนผิดสังเกตของเหล่าบรรดาญาติพี่น้องที่คอยแต่จะจับผิด เงินที่ทำงานหามาได้นั้น เธอจะแบ่งเข้าบัญชีพ่อและน้องสาว กอบโกยทุกอย่างในช่วงที่ทำได้ เพราะไหนๆ เธอก็ก้าวเข้ามาแล้ว บอกกับตัวเองเสมอว่าเธอจะหันหลังให้และไม่หวนกลับมาอีก แต่วิรัชฎาก็หยุดความคิดไว้ เพราะได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออก แสงจากภายนอกทำให้มองเห็นว่าเป็นใคร

“พี่จูน” เธอเหลือบสายตาไปมองแล้วเอ่ยทักพร้อมส่งยิ้มให้ผู้จัดการส่วนตัว ที่ทำงานนอกเหนือคำว่าผู้จัดการไปหลายอย่าง ไหนจะดูแลเรื่องคิวงาน แถมยังช่วยดูแลเรื่องส่วนตัวให้อีก สิ่งที่เพียงขวัญหญิงสาววัยสามสิบปลายๆ ทำให้วิรัชฎานั้นออกมาจากใจล้วนๆ ทั้งสองคนเหมือนพี่น้องกันก็ว่าได้ คอยพูดคุยและปรึกษากันได้ทุกเรื่อง

“ทำไมตื่นแต่เช้าจังเคท”