บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

นีรกานต์และศตกมลรีบวิ่งเข้าไปหาณิสรินทร์ที่เป็นลมหมดสติอยู่ที่พื้น พยุงให้ขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้เสียก่อน บิดามารดาของหล่อนเองก็ตกใจกับเหตุการณ์ทั้งหมดและเป็นห่วงอาการบุตรสาว รสรินทร์ดูแลบุตรสาวกอดปลอบประโลมบุตรสาวอยู่ไม่ห่างกาย

บรรดาแขกในงานต่างทยอยกันกลับ งานวิวาห์ของทั้งสองล่มไม่เป็นท่า พรุ่งนี้คงจะเป็นข่าวดังอยู่พอสมควร

"ผมขอโทษกับเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยนะครับ ผมจะไปลากตัวมันกลับมาเองครับ" วิฑูรเอ่ยขอโทษกับเหตุการณ์ทั้งหมด

"แม่ขอโทษหนูรินด้วย แม่ไม่คิดว่าตาวิณณ์จะเป็นคนแบบนี้ แม่สั่งสอนเขาไม่ดีเอง แม่ขอโทษนะจ๊ะ" วิสาข์นั้นรักและอยากได้ณิสรินทร์มาเป็นลูกสะใภ้ นางถูกชะตากับหญิงสาวตั้งแต่แรกเห็น

หลังจากวันที่เจรจาสู่ขอ หญิงสาวก็แวะเวียนมาที่บ้านเป็นประจำ ซื้อของมาฝากหรือไม่ก็มาอยู่เป็นเพื่อนคลายเหงา

"ผมว่าเรื่องนี้เอาไว้เราค่อยคุยกันตอนที่ยัยรินพร้อมดีกว่านะครับ" กัมปนาทเอ่ยขึ้น

ณิสรินทร์กอดมารดาร้องไห้จวนเจียนจะขาดใจ หล่อนมีนีรกานต์ ศตกมลและณภัทรปลอบประโลมอยู่เคียงข้าง งานแต่งงานที่เคยคิดเคยฝันไว้มันไม่ใช่แบบนี้ หล่อนต้องมีความสุข มีน้ำตาแต่ก็เป็นน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ ไม่ใช่มีแต่คราบน้ำตาของความเสียใจที่เธอรู้สึกเพียงผู้เดียว

ด้านวิณณ์และนลินี หลังจากออกมาจากโรงแรมทั้งคู่ก็เดินทางมาที่สนามบินเพื่อเช็คอิน และเตรียมตัวเดินทางออกนอกประเทศ ชายหนุ่มทำตามแผนการที่แฟนสาวบอก หล่อนบอกให้เขาทำให้ณิสรินทร์อับอายกลางงานวิวาห์จะได้ไม่ต้องมายุ่งกับเขาอีกและไปเที่ยวต่างประเทศกันซักระยะ หลังจากที่เรื่องราวเงียบหายไปค่อยเดินทางกลับไทยทั้งคู่กำลังจะเดินทางไปที่ฝรั่งเศสนลินีบอกว่าเธออยากไปช๊อปปิ้ง เขาเองก็ไม่ขัดตามใจหล่อนทุกอย่าง

"ตอนแรกนิลคิดว่าคุณจะไม่ทำตามที่นิลบอกแล้วซะอีก" หญิงสาวพูดขณะซบอกเขา

"ผมทำตามใจนิลทุกอย่างอยู่แล้ว" ชายหนุ่มเหม่อมองด้านหน้า มือเรียวลูบไล้หน้าท้องแข็งแกร่งไปมา

"นิลรักวิณณ์นะคะ" หล่อนเอื้อมตัวไปจุมพิตที่แก้มสากเบาๆ

ณภัทรอุ้มณิสรินทร์ขึ้นมาส่งบนห้องนอน ทุกคนพาเธอกลับมาที่บ้านหลังจากจัดการเรื่องที่โรงแรมเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวร้องไห้จนหลับไปด้วยความเพลีย หล่อนตื่นมาแต่งหน้าและทำผมแต่เช้ามืด ไหนจะต้อนรับแขกตลอดทั้งวัน แล้วยังต้องมาเจอเรื่องแย่ๆอีก หล่อนทำอะไรให้เขานักหนา ถึงต้องทำให้อับอายถึงเพียงนี้

"ขอบใจมากนะตาภัทรที่อุ้มรินขึ้นมาส่ง" รสรินทร์ขอบคุณเพื่อนของบุตรสาว

"ไม่เป็นไรครับแม่ เรื่องแค่นี้เอง" ชายหนุ่มตอบนางด้วยความยินดี และขอตัวกลับก่อนจะได้ไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของทุกคน

รสรินทร์พยักหน้าและยิ้มให้ หลังจากที่ส่งณภัทรเสร็จหล่อนจึงขึ้นมาหาบุตรสาวที่นอนอยู่บนเตียง นางลูบใบหน้างามบุตรสาวที่เปรอะไปด้วยน้ำตา น้ำตาของหล่อนทำให้ผู้เป็นมารดารู้สึกเหมือนใจสลาย

นางและสามีเลี้ยงดูบุตรสาวราวกับไข่ในหิน ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม ทั้งคู่เป็นคนมีบุตรยาก พยายามเป็นอย่างมากจนตั้งครรภ์ณิสรินทร์ หล่อนจึงทะนุถนอมบุตรสาวเป็นอย่างดี

"ลูกหลับแล้ว คุณอย่าไปกวนเลย" กัมปนาทนั่งลงถัดจากรสรินทร์ และยกมือแกร่งบีบที่หัวไหล่นางเบาๆ นางพยักหน้ารับและออกไปพร้อมกับผู้เป็นสามี

วันรุ่งขึ้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ถูกตีพิมพ์ลงบนหนังสือพิมพ์หน้า1เกือบทุกฉบับ กลายเป็นประเด็นที่พูดถึฃเป็นอย่างมาก ณิสรินทร์ตื่นมาด้วยความหดหู่ หล่อนไม่อยากขยับตัวและทำอะไรทั้งสิ้น หล่อนเลื่อนโทรศัพท์ไปมาจนกระทั่งเจอกับข่าวเรื่องราวของเธอ

'ล่มไม่เป็นท่า งานแต่งสองตระกูลดัง เจ้าบ่าวแฉฝ่ายหญิงป่องกับชายอื่น'

'ไฮโซทายาทตระกูลดัง หนีงานแต่งไปกับหญิงอื่น ประจานเจ้าสาวกลางงาน!'

'เปิดโฉมหน้าหวานใจตัวจริง 'วิณณ์' หลังชิ่งงานแต่งออกนอกประเทศไปด้วยกัน ลือ! เป็นเครือญาติเจ้าสาว'

แม้ใจจะอยากอ่านเนื้อข่าว แต่ก็ไม่เห็นประโยชน์จากมันเท่าไหร่ รังแต่จะช้ำใจมากขึ้นเสียเปล่า จึงปล่อยมันผ่านไป ตอนนี้หล่อนไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้น

ก๊อก! ก๊อก!

เสียงเคาะประตูดึงความสนใจจากหญิงสาว ร่างด้านหลังประตูเดินเข้ามา มารดาและบิดาของวิณณ์มาเยี่ยมหล่อน หญิงสาวประนมมือไหว้ทั้งสองอย่างสุภาพ

"ตื่นแล้วหรอลูก อาการดีขึ้นมั้ยจ๊ะ" วิสาข์ทักทายอย่างเอ็นดู

"พ่อซื้อนมมาฝาก บำรุงหลานในท้อง" วิฑูรยกกระเช้าในมือชูขึ้นให้ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง

"ขอบคุณนะคะคุณพ่อคุณแม่" หญิงสาวขอบคุณท่านทั้งสอง ทั้งสามคุยกันเรื่องทั่วไป จนกระทั่งถึงประเด็นที่เป็นเหตุผลให้ทั้งคู่มาหาหล่อน

"แม่อยากจะมาคุยกับรินเรื่องวิณณ์" นางเปิดประเด็นขึ้นมา

"ค่ะ คุยได้เลยค่ะ รินพร้อมและรับได้ค่ะ"

"แม่จะรีบตามวิณณ์กลับมา รินอย่าเพิ่งคิดมากนะลูก"

"ไม่ต้องหรอกค่ะ ถ้าพี่วิณณ์ไม่รักริน ทำยังไงพี่วิณณ์ก็ไม่รัก คุณแม่ไม่ต้องบังคับใจพี่วิณณ์นะคะ" หล่อนไม่อยากดึงดันหรือบังคับเขาอีกต่อไปแล้ว

"ไม่ได้นะลูก ตาวิณณ์ต้องรับผิดชอบกับเรื่องที่ทำ"

"อย่าเลยนะคะคุณแม่ รินเจ็บจนไม่อยากจะเจอเขาอีกแล้วค่ะ ขอแค่คุณแม่เอ็นดูรินกับหลานรินก็ดีใจแล้วค่ะ" หล่อนรีบปฏิเสธพัลวัน หล่อนไม่อยากพบเจออีก ตลอดไปได้ยิ่งดี

นางทำตามความต้องการของหญิงสาว นางพยายามติดต่อวิณณ์จนสำเร็จ ชายหนุ่มแจ้งว่าเขาอยู่ที่ฝรั่งเศส จะเดินทางไปเนเธอร์แลนด์ในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ปรึกษากับสามีแล้ว จึงตกลงกันว่าจะให้บุตรชายไปดูแลกิจการที่เยอรมนีแทน ชายหนุ่มตกลงอย่างว่าง่าย เขาขอบุพการีเรียนปริญญาโทต่อ และได้รับอนุญาตโดยไม่ถูกต่อว่าซักคำ ไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย ถึงแม้จะแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ซักถามถึง

หลังจากที่เกิดเรื่องราวในวันนั้น ณภัทรอยู่เป็นเพื่อนและคอยดูแลณิสรินทร์อีกเกือบเดือน ก่อนจะบินกลับอเมริกาตามคำขอของหญิงสาว

'โดดเรียนมาตั้งนานแล้วนะ กลับไปเรียนได้แล้ว รินอยู่ได้ ไม่มีอะไรหรอก อยู่ไทยนานขนาดนี้สตีเฟ่นคิดถึงแย่แล้ว'

เขาสัญญาว่าจะกลับมาหาหล่อนอีกแน่นอน จะมาเยี่ยมในวันที่หลานลืมตาดูโลก

ในช่วงแรกหญิงยังฝันถึงเหตุการณ์นั้นอยู่บ่อยๆ โชคดีที่ในแต่ละวัน หล่อนมีวิสาข์ รสรินทร์และพิศมัยอยู่เป็นเพื่อน จึงไม่มีเวลาคิดถึงเขา หล่อนได้เรียนรู้การเลี้ยงดูเด็กจากผู้มีประสบการณ์ทั้งสามท่าน ณิสรินทร์คิดไว้คร่าวๆว่าควรนำข้อดีส่วนไหนอบรมลูกและข้อเสียอะไรมาปรับแก้ หรือถ้าไม่ดีจะพยายามไม่ใช้กับลูก

หล่อนอยากให้ลูกเข้มแข็ง โตมารู้เท่าทันคน ไม่อ่อนต่อโลกเช่นหล่อน และมีความน่ารักสมอายุและช่วงวัย หล่อนได้เรียนรู้เสน่ห์ปลายจวักจากมารดาทั้งสอง เริ่มทำอาหารได้หลากหลายเมนู แรกๆ รสชาติแปร่งไปบ้าง ฝึกทำบ่อยขึ้นจึงชำนาญ ฝึกทำนู่นนี่กับพิศมัย เตรียมตัวทุกอย่างไว้สำหรับลูกน้อย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel