บทย่อ
งานแต่งงานที่วาดฝันไว้ไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด กลับมีแต่คราบน้ำตาทั้งงาน เมื่อเจ้าบ่าวหนีกับกับพี่สาวของเธอ และประจานให้เธออับอายไปทั่วทั้งงาน วันเวลาผ่านไปเหมือนหัวใจที่บอบช้ำจะกลับมาแข็งแกร่งเหมือนเดิม แต่เขาดันกลับเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้ง ขอโอกาสให้คนเลวๆอย่างเขาได้แก้ตัว ทั้งๆที่เขากำลังจะแต่งงานกับพี่สาวของเธอ.... “ริน อย่าทำแบบนี้นะผมไม่ชอบ” วิณณ์กระชากร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด และพันธนาการเธอไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้ “ฉันทำอะไร” ณิสรินทร์พยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนเขา แต่ดูเหมือนมันจะไม่มีประโยชน์ เพราะเมื่อเธอยิ่งดิ้น เขายิ่งกอดเธอแน่นมากกว่าเดิม “ก็ออกไปกับผู้ชายอื่นไง รินเป็นเมียผมนะ ออกไปกับมันดึกๆดื่นๆได้ยังไง” “ฉันไม่ใช่เมียคุณจะให้ต้องพูดอีกสักกี่ครั้ง!” หญิงสาวทุบอกคนร่างโตแต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มพยายามจะก้มลงมาจูบปิดปากเธอเสียให้ได้ “แล้วที่น้ำมนต์เกิดมาไม่ใช่เพราะความเป็นผัวเมียกันหรอ หรือว่าเพื่อนกันเขาทำกันลึกซึ้งแนบเนื้อขนาดนั้น” ณิสรินทร์ขึงตาใส่ชายหนุ่มด้วยความโมโห ตอนนี้เธอไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรเขาได้ แค่ขยับตัวยังทำไม่ได้เลย “นี่หุบปากนะ น้ำมนต์เป็นลูกฉัน” “หรือว่าต้องมีอีกให้คนล่ะ ถึงจะยอมรับฮึ”
บทนำ
"พี่วิณณ์..." เสียงหวานเรียกความสนใจจากชายหนุ่มที่กำลังยืนพิงประตูรถสปอร์ตพ่นควันสีเทาออกจากริมฝีปาก
"สูบบุหรี่อีกแล้วนะคะ รินบอกให้เลิกสูบไงคะ" หญิงสาวเอ็ดอย่างไม่จริงจังนัก มือบางเอื้อมไปหยิบซองบุหรี่ที่วางอยู่บนฝากระโปรงรถยนต์มาไว้กับตัว
"พี่มีเรื่องเครียดนิดหน่อย" เขาเอ่ยตามความจริง
"เครียดอะไรคะ ระบายให้รินฟังได้เลยนะ" ณิสรินทร์อยากช่วยแบ่งเบาความเครียดจากเขา แม้ในบางเรื่องหล่อนจะไม่สามารถช่วยอะไรได้ก็ตาม แค่หล่อนรับฟังเขาได้ก็ยังดี
"งั้น... ผมขอระบายให้ฟังบนเตียงแทนได้มั้ย แล้วรินก็ช่วยให้คำแนะนำผมโดยการคราง'หนักๆ'แล้วก็'ดังๆ'ได้รึเปล่า" วิณณ์ก้มลงมากระซิบที่ข้างหูของหล่อนและขบเม้มเบาๆ
"บ้า... พี่วิณณ์น่ะ" หล่อนก้มหน้างุดไม่ตอบคำถามของเขา นี่มันที่มหาวิทยาลัยแท้ๆแถมยังกลางวันแสกๆ เจอหน้ากันทีไรเป็นต้องเจอแต่เรื่องอย่างว่าตลอด
วิณณ์เห็นท่าทางของเธอก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ หล่อนไม่ได้สวยระดับดาวมหาวิทยาลัย แต่กลับมีเสน่ห์ให้มองได้ไม่เบื่อ ท่าทางเขินอายชวนให้เกิดอารมณ์อยู่เสมอ แถมยังบริสุทธิ์ผุดผ่องจนกระทั่งมาถึงมือเขา เขาจึงอยากจะพร่ำสอนบทเรียนรักให้เธออย่างไม่รู้เบื่อ
"อ๊ะ อา พี่วิณณ์" เสียงครางหวานใสดังมาจากใบหน้านวลที่นอนทอดกายอยู่เบื้องล่าง บัดนี้ใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกไปหมด เมื่อชายหนุ่มที่อยู่ด้านบน ค่อยๆแทรกตัวตนอันใหญ่โตเขามา เขาแทรกตัวเขาไปอย่างยากลำบากจนสุด ชายหนุ่มก้มจูบปลอบประโลมและเบนความสนใจของหญิงสาว ไล่ลงมาจนถึงดอกบัวคู่งาม มือหนาบีบเค้นเบาๆสลับไปมา
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเริ่มคุ้นชินกับมันแล้ว เขาจึงค่อยๆขยับเข้าออกช้าๆตามจังหวะ ร่างนวลเนียนด้านล่างพยายามเม้มปากไม่ให้เสียงครางเล็ดลอดออกมา เห็นอย่างนั้นชายหนุ่มยิ่งอยากแกล้ง เขาขยับเข้าออกอย่างรัวเร็ว ถี่เสียจนหล่อนครางออกมาอย่างไม่ได้ศัพท์
"อ๊า พี่วิณณ์ อ๊ายยย" เขาจับเอวคอดไว้ให้มั่น และขยับเป็นจังหวะรัวเร็วเสียจนกระทั่ง ร้องครางและเกร็งกระตุกขึ้นอย่างแรง
"เพิ่งจะเริ่มเองนะ ทำไมรีบทิ้งพี่ไปจัง" เขาก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูหล่อน และพลิกตัวหล่อนให้นอนคว่ำหน้า ค่อยๆแทรกตัวตนจากทางด้านหลัง ชายหนุ่มค่อยๆขยับเข้าออกอย่างช้าๆตามจังหวะที่ใจต้องการ
ทั้งคู่หอบหายใจถี่แรงเร็ว เขาก้มลงจูบแผ่นหลังขาวเนียน เอื้อมมือไปด้านหน้าเพื่อบีบเค้นเนินอก เขาเกาะกุมมันไว้และกระแทกตัวเข้าออกอย่างระรัว ณิสรินทร์หยัดเกร็งส่ายหน้าไปมากับหมอน มือเรียวทั้งสองข้างจิกผ้าปูที่นอนไว้เป็นเกาะกุม หล่อนรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ในท้อง เสียงหวีดแหลมดังขึ้นพร้อมกับร่างบางที่เกร็งกระตุกอีกครั้ง
วิณณ์พลิกให้หล่อนกลับมาอยู่ท่าเดิม และกระแทกตัวเข้ามารัวเร็ว เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสลับกับเสียงครางระงมของทั้งคู่ เสียงครางของหล่อนปลุกเร้าอารมณ์เขาให้พุ่งมากยิ่งขึ้น เขสเร่งขยับกายให้รัวเร็วที่สุด จนกระทั่งส่งหล่อนถึงฝั่งครั้งที่3เขาตามหล่อนไปติดๆ ชายหนุ่มถอนกายออกมาปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นที่หน้าท้องแบนราบ ร่างบางเกร็งกระตุกอย่างสุขสม
เขาหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดทำความสะอาดให้หญิงสาวทั้งที่หน้าท้องและที่ช่องทางรัก แม้ณิสรินทร์จะปฏิเสธเพราะเขินอาย แต่เขาก็ทำความสะอาดให้เธอจนเสร็จ ร่างหนานอนลงที่ด้านข้างตัวหล่อน รั้งร่างบางให้ไปอยู่ในอ้อมแขนและหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
กว่าวิณณ์จะขับรถมาส่งเธอก็มืดค่ำเสียแล้ว โชคดีที่บิดาและมารดาของหล่อนยังไม่กลับจากไปเที่ยว จึงไม่มีใครซักถามเรื่องเวลากลับบ้าน
"ป้าพิศขา รินหิวข้าวจัง มีอะไรให้กินบ้างมั้ยคะ" ณิสรินทร์เดินเข้ามาบ้านไม่พบใคร จึงเดินเข้าไปในครัว เจอพิศมัยกำลังง่วนอยู่กับการปอกมะละกอ จึงเข้าไปอ้อนและสวมกอดจากทางด้านหลัง พิศมัยเป็นคนรับใช้เก่าแก่ของตระกูลเธอ และเปรียบเสมือนแม่นมของเธอ ท่านเลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่แบเบาะ หญิงสาวจึงรักหญิงสูงวัยคนนี้รองจากมารดา
"อุ๊ย คุณหนูคะ มาไม่ให้สุ้มให้เสียง ป้าตกอกตกใจหมดเลยค่ะ" หญิงสาวโดนดุเบาๆ แต่ไม่ได้ทำให้หล่อนโมโหแต่อย่างใด กลับเรียกรอยยิ้มจากหล่อนได้เสียมากกว่า
"ป้าทำแกงส้มชะอมกุ้งของโปรดคุณหนูไว้ให้น่ะค่ะ นั่งรอที่โต๊ะก่อนนะคะ เดี๋ยวป้าเรียกพี่แป้งไปตั้งโต๊ะให้" หญิงสาวรับคำและเดินไปนั่งรอที่โต๊ะรับประทานอาหารอย่างว่าง่าย ระหว่างที่นั่งรอนั้น นลินี พี่สาวซึ่งลูกพี่ลูกน้องของเธอก็เดินผ่านไปหน้าเธอไป
นลินีเป็นบุตรสาวของนภาลัยผู้ซึ่งเป็นพี่สาวของบิดาเธอและมีศักดิ์เป็นป้าของเธอ หล่อนสวมชุดเดรสเว้าหลังสีดำ สั้นเหนือเข่ากว่าคืบ เผยให้เห็นแผ่นหลังนวลเนียนและขาเรียวสวย ผมที่เคยสยายบัดนี้ถูกเกล้าขึ้นอย่างสวยงาม ทำให้เห็นต้นคอที่ขาวผ่อง พี่สาวเธอเป็นคนมั่นใจในตัวเอง หล่อนแต่งกายแบบนี้จนกลายเป็นเรื่องปกติ ต่างจากณิสรินทร์ที่มักจะเขินอายเมื่อต้องแต่งกายที่โชว์เนื้อหนัง
ณิสรินทร์หลุดจากภวังค์ทันทีเมื่อประภาเดินมาเตรียมจาน และตักข้าวให้เธอ
"พี่แป้ง นั่นพี่นิลเขารีบไปไหนหรอ" หล่อนถามขึ้นอย่างสงสัย หมู่นี้นลินีมีพฤติกรรมแปลกๆ หล่อนมักจะออกจากตั้งแต่หัวค่ำบ้านและกลับมาอีกทีในตอนเที่ยงของอีกวันหนึ่ง
"พี่ก็ไม่แน่ใจค่ะ แต่เดาว่าน่าจะไปงานวันเกิดเพื่อน" หญิงสาวพยักหน้ารับและไม่ได้ถามอะไรต่อ หล่อนรีบจัดการกับอาหารตรงหน้าโดยเร็ว ตอนนี้หล่อนอยากอาบน้ำและเข้านอนเต็มที เขามารับหล่อนไปที่คอนโดฯทีไรเป็นต้องหมดพลังทุกที
แต่กับคนที่ทำให้ณิสรินทร์หมดพลัง บัดนี้เขาอยู่ในสถานบันเทิงสุดหรูที่มีแต่บรรดาไฮโซ ดารา เซเลป วันนี้วันเกิดของเพื่อนสนิทในกลุ่มของเขา เรียกได้ว่า แก๊งค์นี้เสือผู้หญิงทุกคน
"เฮ้ย ไอ้วิณณ์ วันนี้ไม่เห็นคั่วใครเลยวะ" ชยพลร้องทักขึ้นเมื่อเห็นว่าทั้งโต๊ะ มีเพียงเขาไม่มีผู้หญิงข้างกาย
"โน่นไง เดินมาละ" เขามองไปยังหญิงสาวที่เดินเข้ามาราวกับนางพญา หล่อนยิ้มให้เขาทันทีที่เห็น
"ขอโทษที่มาช้านะคะ พอดีนิลติดธุระกับที่บ้านน่ะค่ะ" นลินีทรุดลงข้างวิณณ์และจุมพิตเบาๆที่แก้มเป็นการขอโทษ
"เอาเป็นว่านิลไปขอโทษผมบนเตียงคืนนี้ดีกว่า แถมวันนี้ยังใส่ชุดที่สะดวกแก่การ...มากเสียด้วย" เขากระซิบบอกกับเธอเบาๆ พร้อมทั้งลูบไล้แผ่นหลังนวลเนียนเบาๆ หญิงสาวจุมพิตร้อนแรงแทนการตอบตกลง เขาเองก็จูบตอบรับเธอเป็นอย่างดี
นลินีไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง หล่อนขอโทษเขาได้อย่างถึงใจเหมือนที่สัญญาไว้ หล่อนปรนนิบัติเขาเป็นอย่างดี มันทั้งเร่าร้อน รุนแรง เขาเป็นคนมีความต้องการทางเพศค่อนข้างสูงพอสมควร หล่อนสามารถตอบสนองเขาได้ในทุกๆท่วงท่าและลีลา
หล่อนดูเข้ากับเขาไปหมดเสียทุกเรื่อง วิณณ์เองไม่ได้แค่คบหาเพียงแค่ณิสรินทร์และนลินี เขายังมีผู้หญิงอีกหลายคนไว้ระบายความใคร่ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะติดใจนลินีเป็นอย่างมาก เขาขับรถไปส่งหล่อนที่หน้าบ้านในตอนสายของอีกวัน ที่เดียวกับที่เขามาส่งณิสรินทร์เมื่อวาน นลินีจูบขอบคุณเขาและเดินลงจากรถเข้าบ้านไป
เขาได้พบกับนลินีเมื่อ6เดือนก่อน ในตอนนั้นณิสรินทร์ชวนชายหนุ่มไปที่บ้านของเธอ เพราะบิดามารดาเธอไม่อยู่ ทั้งๆที่เพิ่งคบกันได้เพียง2เดือน ในเมื่อเธอเป็นคนเอ่ยชวนเขาก็ไม่ปฏิเสธน้ำใจ แล้วมันก็จบที่เตียงอย่างที่คิดไว้ เธอแลดูหลงเขาเป็นพิเศษ เพราะเขาเป็นคนแรกของเธอแทบจะทุกๆเรื่อง หลังเสร็จกิจ เขาเดินลงไปสูบบุหรี่ที่สวนหน้าบ้าน ระหว่างนั้นเขาก็พบนลินีที่เดินออกมาจากด้านในตัวบ้านพอดี เธอและเขามองตากันอย่างมีความหมาย ทั้งๆที่หล่อนเองก็รู้ว่าเขาเป็นผู้ชายของญาติผู้น้อง แต่หล่อนก็เลือกที่จะสานสัมพันธ์กับชายหนุ่ม แม้ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบลับๆ
และความสัมพันธ์ของเขาและเธอก็เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บัดนั้น วิณณ์ไม่ซีเรียสเพราะเขามีแต่ได้กับได้ เรื่องเซ็กส์สองพี่น้องนี่ต่างกันสุดขั้ว คนหนึ่งขี้อาย เขาทำให้หล่อนหมดทุกอย่าง อีกคนหนึ่งมั่นใจ หล่อนทำแทบจะทุกอย่างให้เขา ชายหนุ่มได้ลิ้มลองอะไรที่มันแตกต่างกัน ถ้านี่เป็นธุรกิจก็คงเรียกว่าได้กำไร เพราะดูเหมือนว่ายิงปืนเพียงแค่นัดเดียวแต่ได้นกถึงสองตัว

