บทที่ 2
"พี่วิณณ์ รินหัวใจจะวายแล้ว ถ้าเกิดลูกเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง" ณิสรินทร์ต่อว่าเขา เมื่อได้ยินคำว่า'ลูก'ใบหน้าของชายหนุ่มก็บึ้งตึงทันที เขาหักเลี้ยวเข้าข้างทางกระทันหัน
"ว๊ายย" หล่อนตั้งตัวไม่ทัน ดีที่คว้าคอนโทรลมาเกาะได้
"ฉันว่าฉันพูดกับเธอรู้เรื่องแล้วนะ เธอบอกว่าเธอท้อง แต่เธอแน่ใจหรอว่าเด็กนี่เป็นลูกฉัน" เขาแสดงหน้าตาไม่หยี่ระ
"ทำไมพูดแบบนี้ พี่เป็นคนแรกของรินนะ" น้ำเสียงของหล่อนมันสั่นเครือไปหมด เพราะกำลังตั้งครรภ์จึงทำให้อารมณ์อ่อนไหวกว่าปกติ
"เป็นคนแรกแล้วยังไง เธอให้ฉันได้ก็ให้คนอื่นได้เหมือนกัน"
เพี๊ยะ !
หล่อนตบหน้าเขาฉาดใหญ่ เขาดูถูกหล่อน ดูถูกความรักของหล่อน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พร่ำบอกว่ารักหล่อนนักหนา
"พี่มันทุเรศที่สุดเลย พี่ดูถูกรินมากไปแล้วนะ" น้ำตาไหลพรากลงมาอย่างสุดจะกลั้น คำพูดของเขาทำร้ายจิตใจหล่อนเหลือเกิน
"กล้าดียังไงมาตบฉัน หา!!!" ชายหนุ่มใบหน้าเหี้ยมเกรียมขึ้นมาทันที มือแข็งแกร่งกระชากใบหน้าเธอเข้าไปใกล้ๆและบีบลงมาสุดแรง เขาแนบริมฝีปากลงมาอย่างรวดเร็ว มือหนาบังคับให้หล่อนอ้าปากรับลิ้นร้อนที่พยายามจะแทรกเข้ามา
หล่อนพยายามทุบอก จิก ทึ้งเขาแต่ก็ไม่เป็นผล มืออีกข้างรั้งท้ายทอยของหล่อน ล็อกไม่ให้เบือนหน้าหนี ผ่านไปเนิ่นนานกว่าเขาจะยอมถอนจูบ ตอนนี้ณิสรินทร์ไม่มีสติอยู่กับตัว หล่อนเกือบจะหมดลมหายใจเสียแล้ว เขารั้งหล่อนให้ซบลงที่ไหล่และกระซิบที่ข้างหู
"ถ้าไม่อยากโดนดีแบบนี้ อย่าได้คิดจะตบหน้าฉันอีก"
วิณณ์พาเธอมาที่ลองชุดแต่งงานตามที่ถูกวิสาข์ผู้เป็นมารดาบังคับ ตอนนี้หล่อนไม่มีกะจิตกะใจจะเลือกชุด ทั้งเขาและเธอทะเลาะกันก่อนที่จะมาถึงที่นี่เพียงครู่เดียว บรรยากาศระหว่างทั้งคู่มาคุ แม้กระทั่งจิตสุภาเจ้าของร้านก็ไม่กล้าเข้ามายุ่งในคราแรก
"น้องรินลองตัวนี้มั้ยจ๊ะ ดูเหมาะอยู่นะ" จิตสุภาเบนความสนใจของทั้งคู่ โดยหยิบชุดเดรสสั้นตกแต่งด้วยลูกไม้ทั้งชุดตรงกลางมีโบผูกเป็นปมสวยงามส่งให้ร่างบาง
"มันโป๊ไปครับ ที่งานมีคงจะมีแขกผู้ใหญ่เยอะ ถ้าใส่สั้นๆคงไม่เหมาะ"
"งั้นเป็นตัวนี้ดีมั้ยจ๊ะ ดูเหมาะกับน้องรินมากเลย" ตัวนี้เป็นชุดเกาะอก มีดอกกุหลาบประดับที่ชายกระโปรงประปราย
"ค่ะ เดี๋ยวรินขอเข้าไปลองก่อนนะคะ" หญิงสาวตัดบท เธออยากรีบลองให้มันจบๆเสียที ระหว่างที่กำลังแต่งตัว หล่อนได้ยินเสียงเขาสั่งให้จิตสุภา เลือกชุดไทยไว้สำหรับพิธีหมั้นในช่วงเช้าด้วย ดูท่าทางหล่อนจะต้องอยู่กับเขาไปตลอดทั้งวัน
ชายหนุ่มมาส่งเธอในตอนเย็น เขาไม่ได้เข้าไปทักทายหรือสวัสดีบิดามารดาของหญิงสาวก่อน รีบบึ่งรถออกไปอย่างรีบร้อนราวกับมีธุระสำคัญ
ด้านวิณณ์หลังจากส่งณิสรินทร์เสร็จ เขาก็รีบกลับไปหานลินีที่คอนโดฯ เธอทราบข่าวที่เขาจะต้องแต่งงานกับณิสรินทร์จากมารดาของเธอ เขาพยายามอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เธอเข้าใจ ว่าเขาก็ไม่ได้เต็มใจกับการแต่งงานครั้งนี้
ณิสรินทร์บอกกับบิดามารดาทั้งเขาและเธอว่าตัวเองตั้งครรภ์ ซึ่งไม่รู้ว่าหล่อนโกหกรึเปล่า นลินีดูเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งที่เขาและเธอกำลังไปได้ด้วยดีแต่กลับมีอุปสรรคมาขวางกั้น
“แล้ววิณณ์จะทำยังไงคะ จะปล่อยให้นิลเป็นเมียน้อยอย่างนั้นหรอคะ”
“ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ได้ แต่ผมว่าจะรอให้เรื่องเงียบแล้วค่อยหย่า”
“แต่นิลไม่อยากเป็นเมียน้อยใคร นิลเป็นแฟนคุณนะคะ ทำไมต้องแอบทำอะไรลับๆล่อๆ” ร่างสะโอดสะองเริ่มหงุดหงิดใจ
“นิล ผมว่าผมพูดรู้เรื่องแล้วนะ คุณงี่เง่าผมรับได้ แต่คุณงี่เง่ามากเกินไปแล้ว” เขาเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาบ้าง
“นิลขอโทษค่ะ ก็นิลเสียใจนี่คะ อยู่ๆแฟนของนิลก็ไปเป็นสามีคนอื่น แถมไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นน้องสาวของตัวเอง” หล่อนซุกซบที่อกของชายหนุ่ม เพราะรู้ดีว่าเขาแพ้ทางหล่อนตรงไหน
“ผมเป็นผู้ชายคนแรกของเขา รินเค้าคงคิดว่าผมฟันเขาแล้วทิ้ง พอผมมีนิลผมก็ตีตัวออกห่าง เขาเลยคิดจะจับผมด้วยการโกหกว่าท้อง จะได้แต่งงานกับผมเพื่อที่ผมจะได้อยู่กับเขา ผมเกลียดที่สุด ผมเกลียดการโดนบังคับ เกลียดการโกหก” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ร่างบางในอ้อมกอดเหยียดยิ้มราวกับผู้ชนะเมื่อได้ยินเช่นนี้
“นิลว่านิลคิดอะไรแล้วล่ะค่ะ วิณณ์ไม่ต้องแต่งงาน เราได้อยู่ด้วยกันแถมยัยรินยังได้บทเรียนจากการที่คิดจะจับแต่งงานด้วย” เธอผละออกจากอกแกร่ง จ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า
“แล้วผมต้องทำยังไง”
“ก็คือ....” หล่อนเล่าแผนการที่คิดออกเมื่อค่ให้ชายหนุ่มฟัง ในคราแรกเขาดูไม่เห็นด้วย ขอนำกลับไปคิดดูอีกก่อน หล่อนพยักหน้าคล้ายเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดแต่ภายในใจนั้นแฝงไปด้วยความไม่พอใจและหงุดหงิด
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันวิวาห์ของเขาและเธอ การ์ดถูกส่งไปเชิญแขกเหรื่อมากมาย ญาติพี่น้องทั้งเขาและเธอ เพื่อนสนิท นักธุรกิจอีกหลายท่านที่รู้จักกับบิดาของทั้งคู่ ก็ได้รับเชิญมาเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ด้วย การแต่งงานสายฟ้าแลบนี้ทำให้เกิดการคาดเดา วิพากย์วิจารณ์กันเป็นอย่างมาก ว่าฝ่ายหญิงตั้งครรภ์หรือเปล่า จึงรีบจัดงานแต่งงานโดยเร็ว เพราะชายหนุ่มเองก็ถูกขนานนามว่า “เสือผู้หญิง” คบหาใครจริงค่อนข้างน้อย
หนังสือพิมพ์และสื่อบันเทิงได้ให้ความสนใจกับเรื่องของเขาและเธออย่างมาก เนื่องจากทั้งคู่ไม่เคยมีข่าวคราวว่าคบหาดูใจกันมาก่อน วิณณ์เป็นลูกชายคนโตของตระกูลอภิวัฒนไพศาล ที่มีบุตรชายเพียงแค่2คนคือ วิณณ์และเวทิศ ทั้งคู่เป็นทายาทโรงแรมหมื่นล้าน นอกจากนี้ยังเป็นหนุ่มที่รูปร่างหน้าตาหล่อเหลากันทั้งคู่ ล้วนเป็นที่หมายปองของสาวๆ เมื่อมีข่าวสละโสดก็ย่อมเป็นตกเป็นข่าวเป็นธรรมดา
ครอบครัวณิสรินทร์เองก็เช่นกัน ตระกูลของหล่อนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทุกรูปแบบ เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของนายกัมปนาท หล่อนไม่เคยมีข่าวคบหาดูใจกับชายหนุ่มคนไหนมาก่อน เพราะผู้เป็นบิดาค่อนข้างหวง แต่จู่ๆก็มีวิวาห์สายฟ้าแลบเกิดขึ้น จึงทำให้ตกเป็นประเด็นที่พูดถึงอย่างมาก
งานวิวาห์ของทั้งคู่ถูกจัดขึ้น ณ โรงแรมในเครืออภิวัฒนไพศาล พิธีหมั้นในช่วงเช้าแขกในงานจะเป็นผู้ใหญ่ คนสนิทและบุคคลในครอบครัวเสียส่วนมาก ทุกอย่างถูกจัดออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ เหมาะสมกับทั้งสองตระกูลเป็นอย่างยิ่ง
ณิสรินทร์อยู่ในชุดไทยแขนยาว ช่วงเอวมีระบาย สีทองปักทั้งตัว กับผ้านุ่งสีม่วงอ่อนปักแซมด้วยดิ้นทอง หน้านางปักด้วยปล้องทองอย่างปราณีต ขับรับผิวขาวนวลอย่าลงตัว ส่วนวิณณ์อยู่ในชุดไทยประยุกต์เสื้อสูทสมัยนิยม เนคไทสีน้ำตาลเข้มและโจงกระเบนสีเดียวกันกับเนคไท โทนสีเดียวกับเจ้าสาว
สินสอดทองหมั้นถูกนำมาวางตั้งโต๊ะเป็นจำนวนมาก ทั้งเงินสดกองโต ชุดเครื่องเพชรชุดใหญ่และทองคำแท่งอีกจำนวนหนึ่ง พิธีการในช่วงเช้าผ่านไปอย่างราบรื่น แขกที่มาแสดงความยินดีล้วนชมว่าทั้งคู่เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก เว้นแต่นลินีเพียงคนเดียวที่มองด้วยสายตามาโกรธแค้น
ชายหนุ่มออกไปจากห้องรับรอง เขาขึ้นไปที่ห้องพักที่นลินีจองไว้ ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้อง เขาก็ถูกดึงเข้าไปจูบอย่างร้อนแรง เขาจูบตอบหล่อนเช่นกัน แขนแข็งแกร่งโอบหญิงสาวและลูบไล้เบาๆ ทั้งคู่ค่อยๆคลำทางเข้าไปในห้องนอน ไม่นานก็มาถึงเตียงขนาดคิงไซส์
นลินีผลักร่างหนาลงและตามลงไปทาบทับ หล่อนปลดเปลื้องชุดให้ชายหนุ่มอย่างเอาใจ ไม่นานทั้งคู่ก็ปลดเปลื้องอาภรณ์จนหมด ร่างบางพรมจูบต้นคอไล่ลงมาที่หน้าท้องอันแข็งแกร่ง ต่ำลงไปจนถึงความเป็นชายที่แข็งขืน ริมฝีปากสีหวานค่อยๆโอบรอบความเป็นชาย หล่อนขยับใบหน้าขึ้นลงระหว่างลำตัวของชายหนุ่ม เขากดศีรษะเธอขึ้นลงตามจังหวะ
“ผมจะไม่ไหวแล้ว นิลมาเถอะ” เขายกใบหน้าหล่อนขึ้นมาจากกลางลำตัว พลิกให้ร่างบางนอนลงและเขาเป็นผู้คุมเกมแทน ร่างสูงค่อยๆสอดแทรกเข้าไปช้าๆ
สองแขนของเธอโอบรอบคอของชายหนุ่ม ขาเรียวยกขึ้นเกี่ยวเอวสอบ เขาค่อยๆขยับตามจังหวะตามที่ใจต้องการ ขยับโยกเสียดสี เครื่องปรับอากาศก็ไม่สามารถทำให้สองร่างเย็นลงได้ มันรุ่มเร้อนไปด้วยพลิงราคี และถูกแผดเผาจนมอดไหม้
