บทที่ 4
ในขณะที่ดาวฉายเองก็เกิดความอิจฉาอยู่ลึกๆ เช่นกัน นั่นเพราะปราณแทบไม่เคยทำแบบนี้กับเธอ แม้จะนอนด้วยกันแต่เรื่องการแสดงออกแบบนี้เขากลับไม่ทำทั้งๆ ที่เธอเองก็โหยหาเช่นกัน ยิ่งอิจฉาก็ยิ่งอยากเอาชนะแม้คนคนนั้นจะได้ชื่อว่าเป็นลูกสาวของคนรักก็ตาม
“วันนี้ฉันจัดปาร์ตี้เล็กๆ ให้คุณที่เสนองานโปรเจคสำคัญผ่าน” เพราะไม่อยากถูกเมินไปมากกว่านี้ ดาวฉายจึงเอ่ยขึ้นเพื่อยุติการสนทนาของสองพ่อลูก
“ขอบคุณมากนะครับอ้อ แต่คุณไม่น่าลำบาก”
“มากกว่านี้ฉันก็ทำให้คุณได้ค่ะปราณ” เอ่ยจบก็ส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม ในขณะที่ครองขวัญแอบเบ้ปากใส่ความอยากอวดของว่าที่แม่เลี้ยงที่จะไม่มีวันได้เป็นอย่างที่วาดฝันไว้อย่างแน่นอน
“ขอบคุณครับ”
“บาร์บีคิวน่าจะสุกแล้ว ไปที่สนามกันดีกว่าค่ะ” เอ่ยจบดาวฉายก็เดินเข้าไปคล้องแขนของปราณอีกข้างไว้แล้วพาเขาเดินไปยังศาลานั่งเล่น ซึ่งวันนี้เธอเลือกไปจัดปาร์ตี้ที่นั่นจะได้เปลี่ยนบรรยากาศ ก่อนจะหันมาส่งยิ้มราวกับเป็นผู้ชนะให้ครองขวัญที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“ฝากไว้ก่อนเถอะ” ครองขวัญกัดฟันกรอดๆ ก่อนที่เกวลินจะเอ่ยขึ้นเพราะสงครามเย็นดูท่าจะยืดเยื้อแน่นอน
“ใจเย็นๆ ยุบหนอพองหนอ ฮึบเข้าไว้”
“ฮึบแล้ว” คนเอ่ยสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ติดกันสามสี่ครั้งพร้อมทำมือขึ้นและลงเพื่อข่มอารมณ์ จากนั้นครองขวัญก็คว้ามือของเกวลินไว้แล้วพากันเดิมตามไป
ดาวฉายดูแลว่าที่ลูกเลี้ยงอย่างครองขวัญดีมากมากจนคนถูกปรนนิบัติรู้สึกเอียนด้วยซ้ำ เดี๋ยวก็เรียกหนูเบลจ๊ะหนูเบลจ๋าจนเจ้าของชื่อหันมามองบนกับเกวลินบ่อยๆ นั่นเพราะรู้ทันว่านี่ก็แค่การแสดงละครฉากใหญ่ของดาวฉายที่จะมีขึ้นฉพาะเวลาอยู่ต่อหน้าผู้เป็นพ่อเท่านั้น แต่คนไม่รู้ว่าปราณกลับรู้สึกดีไม่น้อย
“ขอบคุณมากนะที่คุณดูแลลูกสาวผมดีแบบนี้”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ ฉันเองก็รักหนูเบลเหมือนลูกแท้ๆ ของตัวเอง ฉันรักคุณแล้วก็รักลูกของคุณด้วย” ดาวฉายบอกรักปราณอย่างไม่รู้สึกเขินทั้งๆ ที่เวลานี้เธอไม่ได้อยู่กับเขาแค่สองคน ซึ่งดูเหมือนเธอจะตั้งใจพูดให้ครองขวัญที่เวลานี้ไปยืนปิ้งบาร์บีคิวกับเกวลินได้ยิน
“จะมากไปแล้วนะ” ครองขวัญกัดฟันกรอดๆ อีกหน เธอแทบจะเขวี้ยงบาบีคิวในมือใส่หัวดาวฉายแต่คนที่ห้ามก็ยังเป็นเกวลินอีกตามเคย
“ใจเย็นๆ ก่อน กินๆ เดี๋ยวเราป้อน” เอ่ยบอกเสร็จ เกวลินก็หยิบบาร์บีคิวที่พึ่งปิ้งสุกใส่ปากครองขวัญ แต่เพราะมันพึ่งขึ้นจากเตาจึงร้อน
“ร้อนๆ”
“ขอโทษๆ เดี๋ยวเป่าให้” เกวลินรีบบอกแล้วจัดการเป่าบาร์บีคิวในมือให้เพื่อนทันที ปราณที่หันมาเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่นี้เข้าพอดีจึงหัวเราะออกมา หน้าตาขณะที่เกวลินเหลอหลาก็ดูตลกดีส่วนลูกสาวเขานั้นยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนเด็ก
“เด็กสองคนนั่นตลกดีว่าไหมคะ” ดาวฉายเอ่ยถามขึ้นเพราะเธอเองก็คอยจับสังเกตคนรักเช่นกัน
“ครับ”
“แล้วนี่หนูเบลได้บอกคุณปราณไหมว่าหลังจากเรียนจบแล้วได้วางแผนอนาคตอะไรไว้บ้าง”
“เห็นว่าแกจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ” คำตอบที่ได้ทำให้ดาวฉายยิ้มออกมา เธอจะสนับสนุนเรื่องเรียนต่อของครองขวัญอย่างเต็มที่ถ้าส่งออกไปนอกโลกได้เธอจะทำทันทีเลยด้วยซ้ำ
“ฉันเห็นด้วยกับเรื่องนี้นะคะ ยิ่งไปเรียนต่อที่ต่างประเทศด้วยแล้วก็ยิ่งมีประสบการณ์ เพราะไม่ช้าหรือเร็วหนูเบลก็ต้องก้าวขึ้นไปนั่งตำแหน่งผู้บริหารที่บริษัทสักหนึ่งตำแหน่งอยู่แล้ว” ดาวฉายสนุบสนุนทันทีนั่นทำให้เธอยิ่งได้ใจจากปราณมากขึ้น
“ใช่ แต่คิดอีกทีผมก็ใจหาย” ปราณมองตรงไปยังลูกสาวเพียงคนเดียว กว่าจะมีวันนี้เขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคมานับไม่ถ้วน ปากกัดตีนถีบเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงให้ตัวเอง วัตถุประสงค์หลักก็เพื่อเลี้ยงดูลูกสาวที่เป็นตัวแทนความรักระหว่างเขากับเพียงขวัญภรรยาที่จากไปตั้งแต่ให้กำเนิดครองขวัญ
หลายครั้งที่เขาเองก็รู้สึกเหงาจนอยากมีใครสักคนข้างกาย แต่ก็ต้องสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไปเพราะยังไม่ถึงเวลากระทั่งมั่นใจว่าครองขวัญโตพอจะเข้าใจ จึงเข้าไปคุยกับลูกสาวอย่างตรงไปตรงมา ถามว่าถ้าหากเขาจะมีความรักครั้งใหม่กับใครสักคนที่ตอนนั้นยังไม่เจอ ครองขวัญจะคิดยังไง
คำตอบที่ได้คือลูกสาวของเขาพร้อมจะสนับสนุนให้เขามีความรักอย่างเต็มที่กระทั่งเขาได้เจอดาวฉาย เธอมีบางอย่างที่เหมือนกับเพียงขวัญและเขาก็ยึดติดกับสิ่งนั้นราวกับว่าที่ผ่านมาเขากำลังรอให้สักคนมาเติมเต็ม เขาช่างไร้ประสบการณ์เรื่องความรักหรือความรู้สึกเพราะรักครั้งแรกและรักเดียวของเขาคือแม่ของครองขวัญ คบกันมาได้สักระยะเขาก็เอ่ยปากขอเธอแต่งงานเพราะคิดว่านั่นคือสิ่งที่เขาควรทำ
แต่หลังจากนั้นทำไมความรู้สึกบางอย่างที่เขามีมันถึงได้ค่อยๆ ลดน้อยลง จนเขาตั้งคำถามกับตัวเองว่ารักดาวฉายมากพอแล้วหรือยัง ถ้ายังเขาควรปล่อยเธอไปดีหรือไม่
“แล้วเพื่อนสนิทของหนูเบลล่ะคะ”
“เห็นว่ากำลังรอผลสัมภาษณ์งาน ผมก็ไม่ได้ถามรายละเอียด ทำไมหรือครับ”
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” ดาวฉายปฏิเสธ ก่อนจะลุกไปเปลี่ยนจานบาร์บีคิวใหม่เพราะเกวลินและครองขวัญช่วยกันปิ้งจนสุกหมดแล้ว
แต่ภาพขณะที่ดาวฉายยืนอยู่กับเกวลินกลับทำให้ปราณคิ้วขมวดเล็กน้อย คนหนึ่งคือคนที่เขากำลังจะแต่งงานด้วยอีกคนคือเพื่อนสนิทของลูกสาวที่เขาพยายามเลี่ยงพบหน้ามาตลอด นั่นทำให้หนุ่มใหญ่ฉุกคิดขึ้นมากับตัวเองว่าการแต่งงานกับดาวฉายคือทางออกที่ดีที่สุดแล้วอย่างนั้นเหรอ มันไม่ใช่การวิ่งหนีปัญหาที่เขามักจะใช้มาตลอดใช่ไหม ทุกปัญหาเขาพร้อมเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญแต่ทำไมถึงได้อ่อนแอเมื่อรู้ว่าต้นตอของมันมาจากเด็กสาวตัวเล็กๆ ที่ชื่อว่าเกวลิน
