บุพเพร้อยรัก

33.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
21
บท
1.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะไม่อยากมีแม่เลี้ยงใจร้ายนั่นทำให้ครองขวัญหว่านล้อมเพื่อนสนิทอย่างเกวลินให้รับหน้าที่นั้น แต่ไม่ว่าจะทำยังไง เกวลินก็ไม่ยอมใจอ่อน แต่น้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อนนับประสาอะไรกับใจอ่อนๆ ของผู้หญิงที่ไร้ประสบการณ์ความรักอย่างเกวลิน ในเมื่อหัวใจของเธอก็กำลังกู่ร้องหาความรักจากปราณอยู่เช่นกัน “คุณอาอย่าทำให้หนูรักมากไปกว่านี้ได้ไหมคะ แค่นี้ก็รักมากจะแย่แล้ว” เกวลินงอแงแต่เป็นความงอแงที่น่าเอ็นดูในสายตาของปราณ “รักมากจะแย่แล้วเหรอ…หืม เด็กน้อยของอา” ปราณยื่นมือมาบีบจมูกเล็กๆ ของเกวลินอย่างหมั่นเขี้ยวปนเอ็นดู “ค่ะ” “รักแล้วร้องไห้ทำไม” คนตรงหน้าเอ่ยถามอย่างสงสัยเพราะเมื่อครู่เกวลินกำลังยิ้มแต่ตอนนี้กลับร้องไห้

นิยายรักโรแมนติกผู้ชายอบอุ่นนอกใจดราม่า

บทที่ 1

เสียงสะอื้นจากการร้องไห้ยังคงดังขึ้นและเป็นอยู่แบบนี้มานานหลายนาทีแล้ว น้ำปั่นที่สั่งมาดื่มเริ่มละลายแต่ทว่าทั้งคู่กลับไม่สนใจ ก่อนที่เกวลินจะยื่นทิชชูให้ครองขวัญเพื่อเช็ดน้ำหูน้ำตาที่ไหลเป็นสาย ตามด้วยเสียงสั่งน้ำมูกที่ดังขึ้นมาติดกันก่อนที่ทิชชูแผ่นนั้นจะถูกโยนทิ้งลงถังขยะอย่างแม่นยำ

ใบหน้าของครองขวัญแดงก่ำจากการร้องไห้สลับความบูดบึ้งของอารมณ์เมื่อคิดถึงสาเหตุที่ทำให้เธออึดอัดจนอยากตะโกนแบบนี้ ในขณะที่เกวลินเมื่อได้รับสายจากเพื่อนสนิทก็รีบออกมาหา

“เกิดอะไรขึ้น” เกวลินเอ่ยถามเพราะตั้งแต่เจอหน้ากันครองขวัญก็เอาแต่ร้องไห้ไม่พูดไม่จา ถามอะไรก็ไม่ยอมบอกกระทั่งเห็นว่าหยุดร้องไห้ไปได้บ้างแล้วเธอถึงถามขึ้น

“คุณพ่อเราจะแต่งงานกับน้าอ้อ” ประโยคที่ได้ยินพลอยทำให้เกวลินอึ้งไปเหมือนกัน ก่อนจะปรับอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติ

“แต่งเมื่อไหร่”

“เห็นว่าจะแต่งให้เร็วที่สุด เราบอกคุณพ่อไปแล้วว่าไม่อยากมีแม่เลี้ยง แต่คุณพ่อก็ไม่ยอมท่าเดียวเลย คุณพ่อไม่รักเราแล้ว” เอ่ยจบสีหน้าของครองขวัญก็เริ่มเบะ

“ใจเย็นๆ ก่อนนะเบล”

“ยัยน้าอ้อนั่นดีแค่ต่อหน้าคุณพ่อเราเท่านั้นแหละ ลับหลังนางมารร้ายชัดๆ คนแบบนั้นเหรอจะมาเป็นแม่เลี้ยงเรา ฝันไปเถอะว่าเราจะยอมรับ ฮือๆ” พูดไม่ทันขาดคำครองขวัญก็ร้องออกมาอีกนั่นเพราะเธออัดอั้นกับเรื่องนี้เหลือเกิน ยิ่งเห็นดาวฉายออเซาะฉอเลาะกับพ่อเธอแล้วก็ยิ่งหมั่นไส้ ไม่รู้ว่าพ่อเธอถูกเสน่ห์ยาแฝดไปหรือเปล่าถึงได้หูหนวกตาบอดไปชอบคนแบบนั้น

“แล้วคุณอารู้เรื่องที่น้าอ้อทำไม่ดีกับเบลไหม”

“ไม่รู้ เรายังไม่ได้บอกแต่บอกไปคิดเหรอว่าคุณพ่อจะเชื่อเรา” เพราะกำลังน้อยใจทำให้ครองขวัญเอ่ยแบบนี้ออกมา ตั้งแต่พ่อพาดาวฉายเข้ามาในครอบครัวความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพ่อนั้นก็เหมือนจะห่างเหินกันมากขึ้น

“พ่อก็ต้องเชื่อลูกสิ”

“แต่เราว่าไม่ คุณพ่อทั้งรักทั้งหลงยัยน้าอ้อนั่นยังกับอะไรดี เรามันก็แค่หมาหัวเน่า”

“อย่าคิดแบบนั้นสิ” คนข้างๆ พยายามปราม

“เราไม่อยากมีแม่เลี้ยงจริงๆ นะอาย”

“อื้อ เราเข้าใจ” เกวลินพยักหน้ารับเพราะเธอเองก็ผ่านการมีแม่เลี้ยงมาแล้ว แรกๆ อะไรก็ดีไปหมดแต่พอพ่อกับแม่เลี้ยงมีลูกเป็นของตัวเองเท่านั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด แม้พวกท่านจะยังรักและดูแลเธอแต่เธอก็รับรู้ได้ว่าความรักรวมถึงความเอาใจใส่ที่เคยได้รับมันน้อยลง

พอสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แม่เลี้ยงก็พยายามขับไล่ไสส่งให้เธอเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ทำทุกทางอ้างนู่นอ้างนี่สารพัดกระทั่งพ่อโอนอ่อนเห็นด้วยกับคำพูดของแม่เลี้ยงโดยไม่ฟังเธอเลยแม้แต่น้อย การออกมาเผชิญโลกกว้างทั้งๆ ที่ยังไม่พร้อมเพียงคนเดียวมันทำให้เธอกลัวมากแต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ด้วยดี เหตุผลสำคัญคือเธอมีครองขวัญเพื่อนคนแรกในรั้วมหาวิทยาลัยคอยช่วย

เธอยังจดจำเหตุการณ์ครั้งแรกที่ได้เจอกับ ครองขวัญได้เป็นอย่างดี เด็กบ้านนอกเข้ากรุงไม่กล้าเข้าลิฟต์คนเดียว ยืนกล้าๆ กลัวๆ กระทั่งใกล้จะถึงเวลาเรียนเต็มทีและคนที่เข้ามาคล้องแขนเธอไว้พร้อมกับพูดใกล้ๆ ด้วยเสียงอบอุ่นว่า…

ไปด้วยกัน

พอพาเธอเข้าลิฟต์ได้ก็ยังถามว่าจะไปชั้นไหนห้องไหน ถามกันจนรู้ว่าเรียนห้องเดียวกันและหลังจากนั้นก็เป็นเพื่อนกันมาจนถึงตอนนี้

“แต่ถ้าแม่เลี้ยงของเราเป็นเธอก็ว่าไปอย่าง” คำพูดของครองขวัญทำเอาสติของเกวลินที่ล่องลอยเพราะมัวแต่คิดเรื่องเก่ากลับคืนทันที ก่อนจะรีบแย้ง

“บ้า พูดอะไร”

“เราพูดจริง”

“อย่ามองแบบนี้ได้ไหม ขนลุก” เกวลินแกล้งขนลุกนั่นเพราะเรื่องนี้ครองขวัญพูดทีเล่นทีจริงกับเธอมานานแล้ว ส่วนเธอก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด

“เธอไม่พร้อมจะเป็นแม่เราจริงๆ เหรออาย”

ครองขวัญมองตรงมาที่เพื่อนสนิทด้วยสายตาเว้าวอนพร้อมทำตาปริบๆ ให้เกวลินใจอ่อน

“พร้อมอะไรกันเล่า เลิกพูดเล่นได้แล้ว”

“เล่นที่ไหนเราจีบเธอให้มาเป็นแม่เลี้ยงเราก็ตั้ง

หลายปีแต่เธอก็ไม่ยอมใจอ่อนเสียที คุณพ่อเราไม่หล่อไม่ดีตรงไหนเหรอ ต่อให้อายุจะเข้าหลักสี่นิดๆ แล้วก็เถอะแต่ยังหล่อซิกแพคก็แน่นมากนะบอกเลย” นั่นเพราะบิดาของครองขวัญมีครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย แม่ของเธอท้องตั้งแต่ยังเรียนไม่จบพ่อเล่าว่าตอนนั้นลำบากมาก พ่อต้องดรอปเรียนเพื่อออกไปทำงานในขณะที่แม่ก็ท้องโตขึ้นทุกวัน

ทั้งคู่กัดฟันสู้กันมาจนแม่คลอดเธอ แต่เพราะแม่ตกเลือดขณะคลอดทำให้หลังจากนั้นแค่ไม่กี่วันท่านก็เสียชีวิต นั่นจึงทำให้ความลับที่ทั้งคู่ปกปิดมาหลายเดือนถูกเปิดเผย พ่อถูกขอให้กลับไปเรียนต่อโดยปู่กับย่าจะเลี้ยงเธอที่เวลานั้นยังเป็นแค่เด็กทารกเอง ผ่านไปสามปีพ่อก็กลับไปรับเธอมาดูแลต่อ

เธออยู่กับพ่อมาตลอดไม่เคยรู้สึกว่าขาดอะไร พ่อเป็นทั้งพ่อและแม่ในคนคนเดียว เป็นเพื่อน เป็นซุปเปอร์ฮีโร่กระทั่งเมื่อสามปีก่อนพ่อแนะนำเธอให้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อว่าดาวฉายเพื่อนร่วมเรียนปริญญาโทด้วยกัน ไม่บอกก็รู้ว่าพ่อกับดาวฉายกำลังคบกันอยู่ เธอรู้ว่าพ่อเหงาที่ต้องอยู่คนเดียวมานานและเธอก็สนับสนุนให้พ่อมีความรักเสมอ แต่มีทั้งทีทำไมถึงไม่ดูให้ดีกว่านี้

“ยายเพื่อนคนนี้นี่ เลิกพูดเรื่องนี้ไปเลยนะ” เกวลินบอกปัดนั่นเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ครองขวัญเอ่ยอะไรทำนองนี้

“จริงสิ เอาแบบนี้ได้ไหม”

“แบบไหน” คนข้างๆ เลิกคิ้วอย่างสงสัย ถ้าครองขวัญทำท่าทางเหมือนคิดอะไรออกแบบนี้แสดงว่าต้องมีแผนการบางอย่างผุดเข้ามาในหัวแล้วแน่นอน

“ถ้าเธอไม่สะดวกที่จะเป็นแม่เลี้ยงเราก็ไปช่วยเรากำจัดยัยน้าอ้อนั่นหน่อย ถ้าทำได้เราจ่ายเธอเลยแสนหนึ่ง”

“ไม่ดีหรอก เราว่า…” ต่อให้เงินค่าจ้างจะทำให้ตาลุกวาวแต่เกวลินไม่อยากเข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของปราณจริงๆ

“นะอาย ไปช่วยเราหน่อยหรือระยะนี้ไปอยู่เป็นเพื่อนเราก็ดี พักนี้ยัยน้าอ้อนั่นยิ่งชอบมาจัดแจงนั่นนี่ภายในบ้านเราอยู่ด้วย แตะต้องทุกอย่างไม่เว้นแม้กระทั่งรูปของแม่เรา เราขอร้องเธอล่ะ”

“เบล” เกวลินพยายามดึงสติเพื่อนสนิท ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากช่วยแต่การช่วยคือการเข้าไปยุ่งเรื่องในครอบครัวของครองขวัญแบบนั้นไม่เรียกว่าเธอก้าวก่ายหรือไง

“เราไม่ได้ขัดขวางหากคุณพ่อจะแต่งงานใหม่แค่อยากให้เจอคนที่ดีกว่านี้ก็แค่นั้น อายไปอยู่กับเราแค่ช่วงสั้นๆ ก่อนที่เราจะไปต่างประเทศก็พอเพราะเราคนเดียวคงไม่สำเร็จแน่ อุ๊ย!” ครองขวัญอุทานออกมาพร้อมยกมือขึ้นปิดปากเมื่อรู้ตัวว่าเธอหลุดพูดบางอย่างออกไป