ตอนที่ 8 นักฆ่าสาวชุดขาว คือข้า?
ตอนที่ 8
นักฆ่าสาวชุดขาว คือข้า?
ยามนี้เจ้าของใบหน้างามที่มีผ้าคาดปกปิดใบหน้าอยู่นั้น กำลังก้มลงพยายามเลือกหยิบของที่พี่ชายของนางได้โยนทิ้ง เอาไว้ก่อนขึ้นมาถือให้ได้มากที่สุด
อ่า ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่พี่รองของนางสามารถหอบหิ้วมาได้ อย่างสบายแท้ ๆ แต่นางกลับทำไม่ได้ จากของทั้งหมดเต็มนางหอบหิ้วเต็มที่ด้วยความสามารถของตนก็ได้เพียงแค่หนึ่งในสาม ส่วนเท่านั้น
ทำเช่นไรดีเล่าหรือว่าจะต้องเลือกทิ้งของเช่นนั้นหรือ น่า เสียดายแย่เลยหากต้องทำเช่นนี้
เมื่อครู่พี่ชายให้นางล่วงหน้ากลับไปก่อนเห็นทีจะไม่อาจ ทำตามได้แล้ว ในเมื่อความเสียดายของเกินกว่าจะตัดใจ ทำให้หญิงสาวตัดสิ้นใจจะยืนคอยพี่ชายนางอยู่ที่จุดเดิมแทน
เฉินจินฮวานั้นเปิดห่อขนมแป้งปั้นขึ้นมาหยิบทานเพื่อฆ่าเวลา
ไม่นานพี่รองของนางก็เดินกลับมาพร้อมกับประคองแม่นางผู้หนึ่งที่ดูคุ้นตานางกลับมาด้วย
“เจ้า คือแม่นางที่ร้านน้ำชาไม่ใช่หรือ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า กัน” นางเอ่ยถามพลางเดินไปประคองแม่นางแทนพี่รองของตน
สภาพของนางไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ผมเผ้าหลุดลุ่ย เสื้อผ้า ที่นางสวมใส่อาจจะมีสภาพไม่ต่างกันนักเพราะว่ามันถูกปกปิดเอาไว้ด้วยเสื้อคลุมสีดำตัวยามของพี่ชายนางเอาไว้ ทำให้มองไม่ เห็นแต่นางก็พอจะคาดเดาได้
“ข้าถูกคนไม่ดีดักฉุดเจ้าค่ะ โชคดีที่คุณชายเข้ามาช่วยได้ทัน” แม่นางน้อยผู้น่าสงสารเอ่ยตอบนางทั้งน้ำตา
“ช่างชั่วช้านัก พี่รองท่านจัดการพวกมันยังไงเจ้าคะ”
“ข้าจัดพวกมันสามคนมัดเอาไว้แล้ว ค่อยแจ้งมือปราบหลวงจับพวกมันเข้าคุก”
“คุณชาย แม่นาง ข้าขอขอบคุณพวกท่านที่ยื่นมือช่วยเหลือข้าเจ้าค่ะ แต่หากเรื่องถึงทางการหนึ่งในสามคนนั้นมีพี่ชายทำงานอยู่ที่ศาลเกรงว่าจะหยุดพ้นความผิดไปได้ พอถึงตอนนั้นข้ากับท่านพ่อจะต้องเดือดร้อนแน่”
“เช่นนั้นเจ้าจะทำอย่างไร จะให้ปล่อยพวกมันไปอย่างนั้นหรือ” เฉินจินฮวาเอ่ยถาม
“ข้าคงทำได้แค่นั้นเจ้าค่ะ” เจ้าของเสียงสะอื้นกล่าวออกมาอย่างสิ้นหวัง
“วันนี้เจ้าปล่อยพวกมันไป วันหน้าพวกมันก็จะย้อนกลับมาทำร้ายเจ้าอีก ครั้งหน้าเจ้าคงไม่โชคดีเจอข้ากับพี่อีก เจ้าจะตกนรกทั้งเป็นรู้หรือไม่”
“ข้าไม่มีทางเลือกเจ้าค่ะ ข้ากลัวพวกมันจะทำร้ายท่านพ่อของข้า ทั้งชีวิตข้ามีท่านพ่อเป็นญาติเพียงคนเดียวข้าไม่อาจทนเห็นท่านต้องเจอเรื่องไม่ดีเพราะข้าได้”
“แล้วเจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าพ่อของเจ้าก็ไม่ต้องการเห็นเจ้าต้องตกนรกทั้งเป็นเช่นกัน”
แม่นางน้อยร้านชานิ่งไปหลังจากที่นางเอ่ยจบ
“เช่นนั้นข้าควรทำเช่นไรดีเจ้าคะ ข้าไม่มีทั้งเงินทั้งอำนาจคงไม่อาจต่อกรกับพวกคนเลวพวกนั้นได้”
“เจ้าไม่ต้องทำสิ่งใด พรุ่งนี้เจ้าไปที่ศาล ตีกลองฟ้องร้องพวกมันซะ จะมีคนของข้าค่อยช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้เจ้ากับพ่อทุกอย่างเอง” พี่รองของนางเอ่ยขึ้น
“ทำอย่างนั้นจะไม่เป็นไรหรือเจ้าคะ” แม่นางน้อยร้านชายังกังวล
“พี่รองของข้ายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเจ้าด้วยตัวเอง ย่อมไร้ ปัญหา เจ้าอย่าได้กังวลสิ่งใดอีกเลย มาเถิดข้ากับพี่ชายจะส่งเจ้ากลับบ้านเอง” เอ่ยจบนางก็ประคองร่างบางของแม่นางน้อยให้ลุกขึ้นจากพื้น เพื่อที่จะได้ประคองนางไปส่งบ้าน
ด้านพี่รองของนางก็หันไปเก็บข้าวของที่โยนทิ้งเอาไว้ก่อนหน้าขึ้นมาอย่างรู้หน้าที่ปล่อยให้นางประคองแม่นางน้อย พากันค่อย ๆ ก้าวเดินอย่างช้า ๆ
“พี่รอง ถนนแถวนี้ทั้งหมดทั้งลับตาคนเอาไว้ท่านต้องแจ้งทางการให้มาตรวจตราบ่อย ๆ นะเจ้าคะ” นางกล่าวขึ้น ปกติแล้วแม้จะเป็นกลางเมืองแต่หากเป็นตอนกลางคืนก็แทบจะไม่คนผ่านทางไปมาเลย ถนนเส้นนี้จึงค่อนข้างอันตราย หากไม่ใช่ว่ามีพี่รองที่วรยุทธ์สูงมาด้วย ตัวนางเองก็ไม่คิดจะใช้เส้นทางนี้อย่างแน่นอน
“ได้ พวกเรารีบไปเถอะ”
หลังจากที่เดินมาได้ไม่นาน ดูเหมือนจะมีสิ่งปกติเกิดขึ้น เมื่อจู่ ๆ พี่ชายที่คอยก้าวตามหลังมาตลอดกลับเหินทะยานมายืนอยู่ด้านหน้าของพวกนางแทน
พริบตาเดียวเท่านั้นอยู่ ๆ ก็มีชายชุดดำกลุ่มหนึ่งทะยานออกมายืนดักหน้าพวกนางเอาไว้กว่าสิบคนซ้ำทุกคนยังมีอาวุธครบมือ
“พวกเจ้าเป็นใครกัน” ฟูหมิงถามขึ้น ใบหน้าของรองแม่ทัพหนุ่มยามนี้นิ่งเฉยไร้อารมณ์ ทว่าในใจไม่ได้เป็นเช่นนั้น ชายหนุ่มกำลังเริ่มกังวลในสถานการณ์ตรงหน้า ยิ่งกว่านั้นเป็นห้วงความปลอดภัยของผู้เป็นน้องสาวเป็นที่สุด
“ส่งตัวนักฆ่าสาวชุดขาวผู้นั้นมา”
ผู้ที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าพวกชายชุดดำกล่าวเสียงเรียบ เฉินจินฮวาได้ยินที่เขากล่าวก็ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
นักฆ่าสาวชุดขาวเช่นนั้นหรือ ที่นี่มีนักฆ่าสาวชุดขาวที่ไหนกัน
มีเพียงนางเท่านั้นที่สวมใส่อารมณ์สีขาวล้วนเพียงผู้เดียว แม่นางน้อยจ้าวบุตรสาวร้านน้ำชาก็สวมใส่อารมณ์สีเหลืองอ่อน
“ที่นี่หาได้มีนักฆ่าที่พวกเจ้าต้องการตัวไม่” รองแม่ทัพหนุ่มยังคงเอ่ยตอบอย่างใจเย็น
“ผู้ที่อยู่ด้านหลังของเจ้าเป็นนักฆ่า ที่เพิ่งลอบสังหารผู้สูงศักดิ์ จงส่งนางมา!!!”
หัวหน้าชายชุดดำกล่าวเสียงดัง สายตาของเขาจับจ้องมายังตัวนางอย่างเปิดเผย เฉินจินฮวาจึงรู้ได้ในทันทีว่านางกำลังถูกเข้าใจผิดว่าเป็นนักฆ่าไปซะแล้ว
“ข้ามิใช่นักฆ่า พวกท่านเข้าใจผิดแล้ว” นางเอ่ยขึ้นยืนยันความบริสุทธิ์ของตน
“นักฆ่าหนีมาทางนี้ แล้วที่นี่ก็พบเพียงเจ้าที่ใส่ชุดสีขาวซ้ำยังปกปิดใบหน้า ย่อมต้องเป็นเจ้าไม่ผิดแน่”
“ไม่ใช่ข้า ท่านเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ” นางยังพยายามยืนยัน
“ไม่ใช่แม่นางจึง ๆ เมื่อครู่ข้าถูกทำร้ายโชคดีที่ได้ผู้มีพระคุณทั้งสองยื่นมือเข้าช่วยเหลือ” แม่นางจ้าวเองก็ช่วยพูดยืนยันด้วยอีกเสียงหนึ่ง
“พวกเจ้าสามคนเป็นพวกเดียวกันเชื่อถือไม่ได้ จงยอมมอบตัวเสีย หลังจากสอบสวนแล้วใช่หรือไม่ใช่ย่อมชัดเจน” หัวหน้าชายชุดดำอย่างไรก็จะจับนางให้ได้ เขาไม่มีทีท่าว่าจะเชื่อพวกนางเลย
“ข้าเองก็เป็นขุนนางในราชสำนัก หากพวกเจ้ายืนยันจะลงมือจับกุมให้ได้เกรงว่าเรื่องจะไม่จบง่าย ๆ แล้ว” ฟูหมิง กล่าวก่อนจะหยิบหยกแขวนประจำตัวออกมาจากอกเสื้อ
หยกแขวนนี้สลักตัวอักษร เฉินอยู่ตรงกลางตราของราชวงศ์เอาไว้ ผู้ที่จะมีในครอบครองได้ย่อมต้องเป็นคนของราชสำนักและคนในกองทัพสกุลเฉินซ้ำยังต้องมียศศักดิ์ไม่ต่ำกว่ารองแม่ทัพอีกด้วย นอกจากเขาแล้วผู้ที่มีหยกแขวนเช่นเดียวกันก็มีเพียงมู่หวายหนานผู้เป็นพี่เขยและสหายสนิทของเขาเท่านั้น
“ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นใคร หากขัดขวางการทำตามคำสั่งของข้าก็ต้องตายทั้งนั้น ไป!!! ต้องจับมือสังหารมาให้จงได้” ผู้เป็นหัวหน้าเอ่ยสั่งทันที ชายชุดดำทั้งหมดเตรียมกระโจนปะทะเพื่อจับกุมนักฆ่าสาวชุดขาวในทันทีหากไม่ใช่ว่ามีเสียงตะโกนทรงอำนาจให้หยุดมือเสียก่อน
“หยุดมือ”
เพียงประโยคชายชุดดำทั้งหมดก็หยุดนิ่งในทันที
เฉินจินฮวามองตามไปยังทิศทางเสียงที่ดังขึ้นเมื่อครู่ ก่อนจะพบบุรุษผู้หนึ่งที่สวมใส่ชุดดำทั้งชุด ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย สายตาดุจเหยี่ยว ทุกย่างก้าวล้วนหนักแน่นเต็มไปด้วยอำนาจที่แผ่ออกมา นางรับรู้ได้ในทันทีเลยว่าบุรุษผู้นี้ต้องไม่ธรรมดาแน่
ยิ่งมั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าด้านหลังของเขายังมีบุรุษอีกผู้หนึ่งซึ่งนางคุ้นเคยเป็นอย่างดีติดตามมาด้วยอีกผู้หนึ่ง
คนผู้นั้นไม่ก็คือพี่เขยของนางรองแม่ทัพมู่หวายหนานนั่นเอง
“เจ้าคงเป็นรองแม่ทัพเฉินฟูหมิง” เจ้าของน้ำเสียงทรงอำนาจเอ่ยขึ้นพลางมองไปที่พี่ชายของนาง “ส่วนเจ้าก็คงจะเป็น เฉินเช่อเฟย”
