บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 : เงาอดีตในแววตาองค์ชาย

เสียงลมหวีดหวิวกลางราตรีเย็นเฉียบ

ใบไม้ปลิวว่อนตามแรงลมฤดูปลายใบไม้ผลิ

แต่ในห้องเงียบสงบของตำหนักเยี่ยนหลง

บรรยากาศกลับหนาวเหน็บยิ่งกว่าสายลมนอกกำแพงหิน

องค์ชายหลงเยี่ยนนั่งอยู่ลำพังหน้าโต๊ะไม้สักเก่า

แสงโคมสลัวฉายเงาของเขาเป็นรูปร่างเลือนรางบนผนังห้อง

ในมือของเขา มีม้วนผ้าไหมผืนเล็กสีชมพูอ่อน

ผืนเดียวกับที่ซูเหยียนทำหล่นไว้ในคืนจันทร์ลวงใจ

ปลายนิ้วเรียวของเขาลูบไล้เนื้อผ้าเบา ๆ

เหมือนกลัวว่าความอบอุ่นจากวันวานจะหายไป

ในแววตาคู่นั้น—ซ่อนเร้นทั้งความหวนหา และความเจ็บปวดลึก ๆ ที่ยากจะเอ่ยเป็นถ้อยคำ

นานนักแล้ว...

ที่เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้

"ข้าเคยคิดว่าหัวใจของข้า...แห้งแล้งเกินกว่าจะผลิใบใหม่แล้ว"

เสียงกระซิบเบาจากริมฝีปากชายหนุ่มหลุดออกมาในความเงียบ

เหมือนบอกกับตัวเองมากกว่าบอกกับโลกใบนี้

คืนอดีตกาล

สิบปีก่อน

ในวันที่หลงเยี่ยนยังเป็นเพียงองค์ชายน้อยผู้ไร้เดียงสา

วังหลวงแห่งต้าเจินเต็มไปด้วยการแย่งชิง

เสียงหัวเราะของพี่น้องร่วมสายเลือด ก็เปื้อนด้วยพิษแห่งการแก่งแย่งมงกุฎ

หลงเยี่ยนในวัยเยาว์

ถูกเลี้ยงอย่างเข้มงวด

ไม่ได้รับอนุญาตให้ร้องไห้

ไม่ได้รับอนุญาตให้เล่นสนุก

แม้แต่การหัวเราะ—ก็ต้องอยู่ภายใต้การพิจารณาว่าจะทำให้ราชวงศ์ดูอ่อนแอหรือไม่

"เจ้าคือลูกชายแห่งจักรพรรดิ!"

"เจ้าต้องแข็งแกร่งพอจะถือแผ่นดิน!"

คำพูดเย็นเยียบจากพระมารดาในวันนั้น

ยังดังก้องในใจเขาไม่เคยเลือน

วันหนึ่ง

ในขณะที่เขาถูกลงโทษเพราะผิดกฎมารยาทเพียงเล็กน้อย

เด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่ง—ซูเมิ่งอวี้—ยื่นมือมาปิดบังแผลรอยหวายของเขา

"เจ้าเจ็บไหม?"

เสียงของนางเบาดั่งเสียงลม

แต่กลับอ่อนโยนจนทำให้กำแพงเย็นชาในใจเขาสั่นคลอน

นางนำยาสมุนไพรมาทาให้

นางเล่าเรื่องตลกให้ฟัง

นางสอนเขาเล่นเกมของชาวบ้านธรรมดา

ในห้วงเวลาสั้น ๆ นั้นเอง

หลงเยี่ยนได้ลิ้มรส "ชีวิต" นอกเหนือจากหน้าที่ครั้งแรกในชีวิต

"ถ้าเจ้าเหนื่อย..."

"เจ้าหลับตาเถิด"

"ข้าจะอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหน"

คืนนั้น

หลงเยี่ยนหลับตาลงด้วยหัวใจอบอุ่นที่สุดในวัยเด็ก

ภายใต้การเฝ้าดูของเด็กหญิงธรรมดาผู้นั้น

แต่สวรรค์กลับโหดร้ายยิ่งกว่าที่เขาคาดคิด

ซูเมิ่งอวี้ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ

เพียงเพราะนางบังอาจ "ทำให้องค์ชายลืมบทบาทแห่งอำนาจ"

นางถูกลงโทษเนรเทศออกจากวังหลวงในคืนฝนตกหนัก

ไม่มีการไต่สวน

ไม่มีคำอำลา

หลงเยี่ยนในวัยเพียงสิบสองปี

ได้แต่ยืนมองรอยเท้าของนางเลือนหายไปกับสายฝน

และนับตั้งแต่นั้นมา

หัวใจของเขาก็เย็นชาอย่างสิ้นเชิง

"ข้าจะไม่อ่อนแออีก"

"ข้าจะไม่รักสิ่งใดอีก"

เขาท่องคำสาบานนี้ทุกคืน

จนมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของสายเลือด

คืนปัจจุบัน

หลงเยี่ยนหลับตาลงช้า ๆ

ม้วนผ้าไหมในมือกำแน่นจนสั่นไหว

จนกระทั่งคืนจันทร์ลวงใจที่ผ่านมา

เมื่อปลายนิ้วได้สัมผัสกับผิวอ่อนนุ่มของสตรีนิรนามคนนั้น—ซูเหยียน

เมื่อกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากกายานางซึมซาบเข้าสู่หัวใจ

เขาก็รู้สึกได้ถึง "ความร้าวราน" เล็ก ๆ

บนกำแพงหนาทึบที่ตัวเองสร้างขึ้นตลอดมา

"เจ้าคือใครกันแน่..."

"ทำไมแค่สัมผัสสั้น ๆ ถึงทำให้ข้าหวั่นไหวได้ถึงเพียงนี้?"

เสียงเคาะประตูเบา ๆ ขัดจังหวะความคิด

เว่ยจิ้น ขันทีคนสนิทโค้งตัวอย่างนอบน้อม

"องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ"

"ข่าวจากชายแดนส่งมาถึงแล้ว"

หลงเยี่ยนรับสารมาอ่าน

ใบหน้าที่ยังคงงดงามดั่งเทพเซียน

บัดนี้กลับเคร่งขรึมด้วยเพลิงที่ลุกโชนอยู่ในใจ

"ข่าวลือเรื่องเด็กหญิงลุกฮือเริ่มแพร่กระจาย…"

"ชื่อ 'ซูเหยียน' ถูกเอ่ยถึงในทุกหมู่บ้าน"

มุมปากหลงเยี่ยนกระตุกขึ้นเล็กน้อย

"ซูเหยียน…ซูเมิ่งอวี้…"

สองชื่อนั้น

สองเส้นทางชีวิต

แต่กลับจุดประกายเพลิงเดียวกันในใจเขา

"หรือว่าฟ้าจะเมตตาข้าอีกครั้ง…"

เขากำม้วนผ้าไหมแน่นในมือ

ก่อนจะลุกขึ้นอย่างองอาจ

"เตรียมม้า"

"ข้าจะออกเดินทางไปยังชายแดนด้วยตัวเอง"

เว่ยจิ้นเบิกตากว้าง

"แต่...องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ!"

"วังหลวงกำลังสั่นคลอน หากท่านไม่อยู่..."

"ช่างหัววังหลวง!"

หลงเยี่ยนตวาดเบา ๆ แต่เด็ดขาด

"หากข้าปล่อยให้ไฟเล็ก ๆ ดับลงตรงหน้าอีกครั้ง

ข้าไม่คู่ควรจะครองแผ่นดินแม้แต่น้อย"

เขาก้าวออกจากตำหนักด้วยฝีเท้าแน่วแน่

เส้นผมปลิวสยายตามแรงลม

ดวงตาคมวาววับด้วยแสงแห่งการตัดสินใจที่ไม่อาจหวนคืน

คืนนี้

องค์ชายหลงเยี่ยนไม่ได้ออกเดินทางเพื่อสงครามแห่งอำนาจ

แต่เพื่อสงครามที่ใหญ่ยิ่งกว่านั้น—

สงครามเพื่อ "หัวใจ" ที่เขาเผลอทำหล่นหายไปในอดีตกาล

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel