บท
ตั้งค่า

บทที่ 8: ความลับใต้แสงจันทร์

ภายในตำหนักหลวงขององค์ชายหลงเยี่ยน เงาสะท้อนในกระจกสัมฤทธิ์คือดวงหน้าที่เต็มไปด้วยคำถามและความคลางแคลง

เขายืนพิงเสาไม้แกะสลัก กล่องไม้เล็ก ๆ ถูกวางไว้บนโต๊ะกลางตำหนัก ภายในมีจดหมายเก่า แหวนหยก และ...

…ตราประจำตระกูลซู

“เจ้าบอกว่าเจ้าชื่อซูเซียน...”

เขาพึมพำ พลางยกตรานั้นขึ้นส่องกับแสง

“แต่เจ้าคือซูเหยียน...น้องสาวของนาง?”

หลงเยี่ยนหันมองผ้าผืนบางที่เขาเก็บไว้เป็นของล้ำค่าในหีบส่วนตัว

ภาพหญิงสาวผู้มีสายตาสั่นไหวใต้แสงจันทร์ในคืนนั้นผุดขึ้นในใจเขาอีกครั้ง

เขาหลับตาแน่น

ถ้านางคือน้องสาวของซูเมิ่งอวี้... ถ้าคืนนั้นที่เขาเมาไม่รู้เรื่อง...คือเธอ? หรือแย่กว่านั้น—คือพี่สาวของเธอ?

ความเย็นวาบไหลผ่านกระดูกสันหลังของเขา

คืนนั้น...

หลงเยี่ยนเสด็จออกจากตำหนักเงียบ ๆ โดยไม่มีบ่าวติดตาม

เขาเดินด้วยตนเองมุ่งสู่เขตตำหนักฝ่ายใน เบื้องหน้าคือเรือนพักของซูเหยียน

แสงจันทร์สาดลงบนร่างของเขา กลายเป็นเงายาวทอดไปบนลานหิน

เสียงฝีเท้าของเขาเงียบ...แต่เต็มไปด้วยคำถามและความเจ็บปวด

ซูเหยียนสะดุ้งเมื่อลมยามค่ำพัดผ้าม่านเปิดกะทันหัน

นางลุกขึ้นเดินไปปิด...แต่ประตูกลับเปิดออกเอง

หลงเยี่ยนยืนอยู่ตรงนั้น

ไม่เอ่ยคำใด

ไม่มีคำเรียก

ไม่มีคำอ้าง

มีเพียงดวงตาคมลึกที่มองตรงมา...อย่างจะมองทะลุจิตวิญญาณ

“เจ้ารู้มาตลอดใช่ไหม...ว่าเจ้าคือน้องสาวของนาง”

“แล้วเจ้าล่ะ...” ซูเหยียนย้อนถาม “เจ้ารู้ไหมว่าเจ้าทำอะไรไว้กับพี่สาวข้า?”

เขาเงียบ

ซูเหยียนเดินเข้ามาใกล้ เงยหน้าสบตาเขาตรง ๆ

ดวงตาของนางไม่สั่นไหวอีกต่อไป

เพราะสิ่งที่เธอถืออยู่ในใจ...ไม่ใช่เพียงความแค้นอีกแล้ว

แต่เป็นความเจ็บปวดจากคนที่เริ่มรัก

และต้องการให้เขาจดจำ

“เจ้าจำคืนนั้นได้ไหม?” นางถามเสียงเบา

“จำ...” เขาตอบทันที “ทุกสัมผัส ทุกเสียง ทุกความรู้สึก...ข้าจำมันได้แม่นยำกว่าชื่อของตน”

“แล้วเจ้าจำได้หรือไม่...ว่าก่อนหน้านั้นเจ้าทำสิ่งใดลงไป?”

เขาเงียบอีกครั้ง

ความเงียบนั้น...คือคำตอบ

“ข้าเคยตั้งใจจะแก้แค้นเจ้า” ซูเหยียนพูดชัดถ้อยชัดคำ “ข้าอยากให้เจ้ารักข้า แล้วข้าจะหักใจเจ้าทิ้ง เหมือนที่เจ้าทำกับพี่สาวข้า...”

“แต่เจ้ารู้ไหม...อะไรที่โหดร้ายกว่านั้น?”

“ข้าดัน...รักเจ้า ก่อนที่ข้าจะทันได้ลงมือ”

เขาชะงัก ดวงตาสั่นระริก

“เหยียนเอ๋อร์...” เขาเอ่ยชื่อจริงของนางออกมาเป็นครั้งแรก

แต่นางกลับยิ้มเศร้า และก้าวถอยหลัง

“เจ้าจะรักข้าไม่ได้...เพราะในใจข้ายังมีคนตายที่เจ้าทำให้เจ็บจนสิ้นใจ”

“และข้าก็เกลียดตัวเอง...ที่หัวใจมันดื้อดึงไม่ยอมปล่อยเจ้าไปเสียที”

หลงเยี่ยนยืนนิ่งอยู่นาน ราวกับถูกปักตรึงไว้ด้วยคำของนาง

แล้วเขาก็กล่าวเพียงประโยคเดียว

“ข้าจะชดใช้ให้เจ้าทั้งหมด...แม้ต้องใช้ทั้งชีวิตของข้าก็ตาม”

บทพิเศษ: "กลีบบุปผาที่ร่วงหล่นในคืนไร้ดาว"

ฤดูใบไม้ผลิเมื่อสองปีก่อน...

สวนดอกเหมยในพระราชวังผลิบานพร้อมกันเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี

กลีบสีขาวปลิวว่อนอยู่เหนือสนามหญ้า ราวกับหิมะโปรยจากฟ้า

“องค์ชายหลงเยี่ยนทรงโปรดสวนแห่งนี้นัก…”

เสียงขันทีคนหนึ่งเอ่ยพลางโค้งตัวให้หญิงสาวในชุดสีชมพูจางเดินผ่าน

หญิงสาวผู้นั้นคือ “ซูเมิ่งอวี้” บุตรีของแม่ทัพซูอวิ๋น

หญิงสาวที่แม้จะไม่ใช่สนมฝ่ายใน แต่กลับได้รับเกียรติให้เข้าออกเขตตำหนักได้ไม่ขัดข้อง

นางเดินเข้าไปยังศาลากลางสวนด้วยหัวใจเต้นแรง

นั่นคือวันแรกที่องค์ชายทรงเรียกนางเข้าพบ...เป็นการส่วนตัว

เขานั่งอยู่ใต้ต้นเหมยใหญ่สุดของสวน

อาภรณ์สีดำทองสะท้อนแสงแดดอย่างสง่างาม

เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นสบตานางครั้งแรก หัวใจของซูเมิ่งอวี้ก็ราวกับหยุดเต้นไปชั่วขณะ

“เจ้าคือซูเมิ่งอวี้หรือ?”

เสียงเขานุ่มนวลแต่แฝงแววระวัง

“เพคะ…” นางตอบเบา ๆ ก้มหน้าตามมารยาท

“เจ้า...ไม่กลัวข้าหรือ?” เขาถามต่อ ดวงตาสีนิลจ้องเขม็ง

“กลัวเพคะ...แต่ไม่อยากหลบตา”

คำตอบของนางทำให้เขายิ้มขึ้นอย่างบางเบาเป็นครั้งแรกในวันนั้น

จากวันนั้น...องค์ชายทรงเรียกนางเข้าพบอีกหลายครั้ง

พวกเขาไม่ได้พูดเรื่องการเมือง ไม่ได้วางหมาก ไม่ได้แสร้งทำ

แต่กลับนั่งใต้ต้นเหมย พูดถึงเรื่องธรรมดา เช่น ความฝันในวัยเด็ก เพลงที่ชอบ หรือแม้แต่เรื่อง “กลิ่นหอม” ที่ตราตรึง

หลงเยี่ยนเริ่มหัวเราะ... เริ่มผ่อนคลาย

และเริ่ม...เชื่อว่าตนเองอาจมี “คนที่ไม่หวังผล” ในวังแห่งนี้

แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปในคืนหนึ่ง...

คืนที่เขาถูกวางยาในงานเลี้ยงกลางวัง—ยาที่ทำให้ภาพพร่า สติสับสน หัวใจเต้นแรงผิดปกติ

เขาจำได้เพียงว่า

มีหญิงสาวร่างบางคนหนึ่งถูกนำมาส่งถึงตำหนัก

นางตัวสั่น ลมหายใจถี่

และก่อนที่เขาจะได้ถามอะไร...เงาร่างของเขาก็โถมเข้าหาโดยสัญชาตญาณที่เขาไม่อาจควบคุม

คืนนั้น...

สำหรับเขา มันคือฝันร้ายที่พร่าเลือน

แต่สำหรับซูเมิ่งอวี้...มันคือจุดจบ

เช้าวันรุ่งขึ้น นางหายไป

และอีกเพียงไม่กี่วันต่อมา ตำแหน่งของตระกูลซูถูกลดลงอย่างกะทันหัน

พร้อมข่าวลือที่ว่า “บุตรสาวคนโตลอบล่อลวงองค์ชายกลางดึก”

เขาถูกห้ามไม่ให้สอบถาม

ถูกบังคับให้เงียบ

และลึก ๆ...เขาเองก็กลัวว่าคืนนั้น จะเป็นนางจริง ๆ

หลงเยี่ยนไม่เคยสืบเรื่องนั้นอีก

เขาเกลียดความรู้สึกผิดนั้น

จึงฝังมันไว้กับเงาจันทร์ในคืนฝัน

...จนกระทั่งพบกับ “ซูเหยียน”

หญิงสาวอีกคนในเงาตระกูลซู

ผู้มีสายตาเดียวกับ “นางคืนนั้น”

ผู้ที่ทำให้เขารู้ว่า บางเรื่อง...ไม่อาจหลีกหนีได้ตลอดไป

“เมิ่งอวี้...หากเจ้าเป็นคนนั้นจริง ๆ ข้าคงไม่มีสิทธิ์อภัยตัวเอง”

“และหากน้องสาวของเจ้าคือคนที่ข้ารักได้จริง ๆ…”

“ข้าก็จะรักนาง...จนกว่าจะใช้หนี้ได้หมด ทั้งต่อเจ้า และต่อตัวข้าเอง”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel