บทที่ 4: กับดักที่ปูด้วยกลีบเหมย
เสียงลมหอบผ่านหน้าต่างบานเล็ก
ปลุกสายม่านขาวบางให้ไหวเอนพลิ้ว
ภายในตำหนักที่มีเพียงแสงโคมริบหรี่
ความเงียบงันหนาหนักยิ่งกว่าคืนใด
ซูเหยียนหายใจถี่
ลมหายใจร้อนผ่าวกระทบผิวแก้มตัวเอง
ขณะพยายามขยับร่างกายอ่อนแรงให้พ้นจากอ้อมแขนแข็งแกร่งที่กักเธอไว้
"ปล่อย..."
นางเอ่ยเสียงแผ่ว แต่กลับเหมือนยั่วเย้าความอดกลั้นของบุรุษที่กักขังเธอเอาไว้
หลงเยี่ยนมองนางด้วยดวงตาทอแสงวาบ
ปลายนิ้วเกลี่ยไรผมที่ปรกแก้มนางอย่างอ้อยอิ่ง
ก่อนจะกระซิบเสียงแหบต่ำข้างหู
"เจ้าคิดหรือว่าข้าจะปล่อย...หลังจากเจ้าปลุกข้าให้คลั่งเช่นนี้?"
มือเขาเลื่อนไล้ลงไปยังลาดไหล่เนียน
สัมผัสแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยความเป็นเจ้าของ
ซูเหยียนกัดริมฝีปากล่างแน่น
แต่ร่างกายกลับสั่นไหวเล็กน้อยใต้สัมผัสของเขา
นางพยายามผลักเขาออก
แต่เหมือนกำลังยั่วให้เขากระชับอ้อมแขนแน่นยิ่งขึ้น
"เจ้า..."
"ไร้เดียงสาจนน่าเอ็นดู..."
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยข้างหู
ปลายจมูกของเขาไล้ไปตามแนวสันกรามนาง
สูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ยิ่งปลุกเร้าความกระหายลึกในอก
ซูเหยียนรู้สึกเหมือนตนเองกำลังหล่นลงสู่หลุมลึกที่ไม่มีทางปีนขึ้นมาได้
ร่างกายตอบสนองต่อสัมผัสอ่อนหวานและร้อนแรงของเขาโดยไม่อาจหักห้าม
มือหยาบกร้านข้างหนึ่งสอดเข้าตามแนวสาบเสื้อบางของนาง
นิ้วเรียวลากไล้ช้า ๆ ไปตามแนวกระดูกไหปลาร้า
ทิ้งความร้อนระอุจนผิวขาวซีดของซูเหยียนสั่นระริก
"อา..."
เสียงครางเบา ๆ หลุดจากริมฝีปากนางอย่างไม่ตั้งใจ
หลงเยี่ยนตวัดสายตาคมกริบขึ้นมอง
ก่อนจะกดริมฝีปากแนบลงบนต้นคอขาวนวลของนางอย่างโหยหา
ซูเหยียนสะดุ้งเฮือก
หัวใจเต้นกระหน่ำจนแทบทะลุอก
มือเล็ก ๆ ของนางพยายามผลักอกเขาออกอย่างไร้เรี่ยวแรง
แต่กลับถูกเขาจับข้อมือทั้งสองข้าง
ตรึงขึ้นเหนือศีรษะนางอย่างง่ายดาย
"ข้าจะไม่ทำร้ายนาง..."
"แต่ข้าจะไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน"
เสียงกระซิบหนักแน่นและเด็ดขาด ทำเอาซูเหยียนหยุดดิ้น
ร่างกายแข็งค้างอยู่ใต้ร่างสูงใหญ่ที่คล้ายสัตว์ร้ายกระหายรัก
ปลายลิ้นอุ่น ๆ ของเขาไล้ไปตามแนวลำคอนางอย่างแผ่วเบา
ก่อนจะขบเม้มเบา ๆ ทิ้งรอยสีชมพูจาง ๆ ที่ขาวผ่องของนาง
ซูเหยียนเบิกตากว้าง
ความร้อนพุ่งทะลุทั่วกายราวกับไฟลามไปในเส้นเลือด
"ข้า..."
"ไม่เคยปล่อยสิ่งที่ข้าต้องการ..."
หลงเยี่ยนพึมพำขณะเคลื่อนริมฝีปากกลับขึ้นมาครอบครองริมฝีปากนุ่มนิ่มของนางอย่างไม่ให้โอกาสหลีกหนี
จูบนั้นไม่อ่อนโยน
แต่เต็มไปด้วยความกระหาย ความเร่าร้อน และความเจ็บปวดในอดีตที่หลงเหลือ
ซูเหยียนแทบจะหมดเรี่ยวแรงในอ้อมแขนเขา
สติสุดท้ายของนางร้องเตือนให้ต่อต้าน
แต่หัวใจและร่างกายกลับทรยศต่อตนเองอย่างน่าอับอาย
มือของหลงเยี่ยนปล่อยข้อมือนาง
แต่แทนที่นางจะผลักไส
ซูเหยียนกลับเผลอสอดมือเรียวขึ้นไปเกาะเกี่ยวต้นคอแกร่งของเขาไว้แน่น
"ดี..."
เขากระซิบชิดริมฝีปากนาง
"ตอบรับข้าเช่นนี้ อย่าได้คิดหนีอีกเลย"
ร่างสูงใหญ่พลิกกายนางขึ้นเบา ๆ
ปล่อยให้ร่างบางนั่งคร่อมอยู่บนตักของเขา
มือใหญ่เลื่อนสอดเข้าใต้ชายเสื้อนาง
ไล้ไปตามแนวแผ่นหลังอย่างแผ่วเบาแต่รุกราน
ซูเหยียนหลับตาแน่น
ปล่อยให้อารมณ์อันห้ามไม่อยู่พัดพาเธอไป
ชั่วขณะนั้น นางรู้เพียงว่า...
ในอ้อมแขนของเขา
โลกทั้งใบหายไปเหลือเพียงแค่
เสียงหัวใจของเขา...และเสียงหัวใจของเธอเอง
เวลาเหมือนหยุดนิ่ง
เหลือเพียงเสียงหอบหายใจสลับกัน
ไอร้อนที่ก่อกวนเลือดในกายให้เดือดพล่าน
หลงเยี่ยนดันใบหน้านางให้เงยขึ้นรับจุมพิตร้อนแรงอีกครั้ง
คราวนี้อ่อนโยนแต่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม
เหมือนเขากำลังจารึกนางไว้ในหัวใจด้วยจุมพิตแต่ละครั้ง
และในยามที่ริมฝีปากของเขาเคลื่อนต่ำลงมาเรื่อย ๆ
ทิ้งรอยรักจาง ๆ ไปทั่วผิวกายนวลเนียน
ซูเหยียนได้แต่จิกเล็บลงบนไหล่กว้าง
พยายามกลั้นเสียงครางที่แทบจะทะลักออกมา
ในคืนนั้น
ใต้แสงจันทร์สลัวและเสียงลมหวิวนอกหน้าต่าง
หัวใจสองดวง...ที่ต่างเคยพังทลาย
กลับถูกเยียวยาด้วยสัมผัสต้องห้ามในราตรีเดียวกันนี้เอง
