บทที่ 2 แรกพบ (4)
“ลันตาว่าจะไปสมัครงานเป็นแม่บ้านที่นั่น แม่คิดว่าไงบ้างจ๊ะ?” หญิงสาวมองหน้ามารดาขณะขอความเห็น
“แม่เป็นห่วงหนู ผู้หญิงตัวคนเดียวจะกินจะนอนยังไง”
“อย่าห่วงเลยแม่ ลันตาโตแล้ว ดูแลตัวเองได้ อีกอย่างตอนนี้เรากำลังขาดรายได้ มะพร้าวสวนของเราก็เพิ่งเก็บลูกไป ลันตาว่าจะลองสมัครงานที่นั่นดู นอกจากได้ตามตัวพี่รื่นกลับมาแล้ว ครอบครัวของเราจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้นมาอีกนะจ๊ะ”
นางชดช้อยยิ้มเซียว นางรู้ว่าลูกสาวคนเล็กขยันขันแข็งอยู่เฉย ๆ ไม่ค่อยจะเป็น จะว่าไปลันตาทำงานได้เก่งกว่าและคล่องตัวกว่าผู้ชายตัวโต ๆ ซะอีก งานหนักหรืองานเบาไม่เคยเกี่ยง ขอแค่มีรายได้มาเลี้ยงครอบครัวเท่านั้น ขนาดรื่นฤทธิ์ยังไม่ได้ครึ่งของลันตาด้วยซ้ำ
“แม่อยากให้ลันตาอยู่บ้านเป็นเพื่อนแม่มากกว่า อีกอย่างรายได้จากของชำร่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็พอเป็นค่ากับข้าวให้เราอยู่ได้”พอนางชดช้อยเอ่ยปากออกมาแบบนั้น ลันตาจึงเงียบไป...
ไม่ว่าเธอจะมีอายุเท่าไหร่ แม่ของเธอก็ยังไม่อยากให้เธอห่างไปไหนอยู่ดี
“ถ้าอย่างนั้นลันตาจะลองหาวิธีติดต่อพี่รื่นดูอีกทีนะแม่”
นางชดช้อยพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจัดการตำน้ำพริกแกงส้มไปพลาง ๆ ทว่าเย็นวันนี้เจ้าหนี้ของรื่นฤทธิ์ก็ได้กลับมาเหยียบบ้านอีกครั้ง งานนี้ลันตาจึงรีบออกหน้าจัดการธุระให้กับครอบครัวของตนเองทันที
“สวัสดีครับคุณคนสวย” ผลิตโชคทักทายทันทีเมื่อได้พบหญิงสาวที่ต้องตาเขาแต่แรกเห็น
“ฉันบอกคุณแล้วไง ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ” ลันตาทำหน้าดุใส่เมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าหนี้ของรื่นฤทธิ์
“ลูกหนี้ที่ดี ไม่ควรพูดกับเจ้าหนี้แบบนี้นะครับ”
“ฉันกับแม่ไม่ใช่ลูกหนี้ของคุณ เชิญคุณและคนของคุณกลับไปได้แล้ว”
พอถูกไล่ แทนที่ผลิตโชคจะจากไป แต่ชายหนุ่มกลับยิ้มอย่างชอบอกชอบใจ
“ไม่เอาน่า ผมมาดี วันนี้ผมนำเอกสารเงินกู้ที่นายรื่นฤทธิ์เซ็นยอมรับมาให้ดู คุณจะได้รู้ว่าผมไม่ได้กล่าวหาใครลอย ๆ โดยไม่มีหลักฐานอีก”
ลันตาหลุบตามองซองใส่เอกสารสีน้ำตาล ก่อนรับของสิ่งนั้นจากชายหนุ่มมาเปิดดูอย่างเสียไม่ได้พอเห็นสำเนาบัตรประชาชนของรื่นฤทธิ์ อีกทั้งลายเซ็น และลายนิ้วมือยอมรับการเป็นลูกหนี้ ก็ยิ่งสร้างความไม่สบายใจให้กับลันตาเป็นอย่างมากเป็นอีกครั้งที่รื่นฤทธิ์สร้างหนี้ให้ครอบครัว...
ซ้ำยังเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าครั้งที่แล้วเกือบห้าเท่า!!!
“ฉันยอมรับว่าพี่รื่นเป็นหนี้คุณ แต่ฉันกับแม่ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้แต่ต้น เชิญคุณกลับไปเถอะค่ะ ถ้าพี่รื่นกลับมาบ้านฉันจะบอกเขาให้”
“ขยันไล่ผมจังเลยนะคุณคนสวย” ผลิตโชคยิ้มมุมปาก มองหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยความพึงพอใจ
เขาเจอผู้หญิงสวยมามาก แต่ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่สวยสะดุดตา สะดุดใจเขาตั้งแต่แรกเห็นมาก่อนเหมือนผู้หญิงคนนี้ ถึงแม้ว่าผู้หญิงตาคมผมยาวคนนี้จะดูปอน ๆ เพราะไม่ค่อยแต่งเนื้อแต่งตัวเหมือนสาวกรุงเทพเลยก็ตาม แต่ด้วยวงหน้าผุดผาด กับรูปร่างสูงโปร่ง อีกทั้งทุกสัดส่วนที่ดูกลมกลืน นั่นก็ทำให้เขาหวั่นไหวได้ไม่ยาก
ซึ่งผลิตโชคเชื่อว่าผู้ชายทุกคนที่เห็นผู้หญิงคนนี้ ต้องรู้สึกเหมือนเขาเช่นกัน
“ฉันไม่ชอบให้คุณเรียกฉันแบบนี้”
ผลิตโชคไหวไหล่ อีกทั้งยิ้มให้ “คุณเหมาะกับชื่อนี้มาก”
คราวนี้ลันตาชักสีหน้าไม่พอใจ เธอเกลียดผู้ชายกะลิ้มกะเหลี่ยนักเชียว!
“ถ้าคุณมาที่นี่เพราะเรื่องไร้สาระล่ะก็ เชิญคุณกลับไปเถอะค่ะ”
เป็นอีกครั้งที่ผลิตโชคถูกไล่ แต่เขาก็ไหวไหล่ไม่ยี่หระ
“ถ้าอย่างนั้นผมเข้าประเด็นเลยก็แล้วกัน ผมมาที่นี่เพราะมีข้อเสนอดี ๆ มาให้ ถ้าคุณยินดีทำงานกับผม ผมจะให้เงินสดกับครอบครัวของคุณจำนวนหนึ่งแสนบาท พร้อมทั้งปลดหนี้ให้พี่ชายของคุณด้วย”
“ฉันขอปฏิเสธค่ะ”ลันตาปฏิเสธเสียงแข็ง ชนิดไม่ต้องเสียเวลาคิดแม้แต่น้อย
ส่วนผลิตโชคบดฟันกรามเข้าหากันจนเป็นสันนูน เพราะเขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่หญิงสาวตัดสินใจเลือกชนิดไม่คิดทบทวนนั่นเอง และเขาก็ไม่อยากเชื่อด้วยว่าจะมีใครสักคนหลุดพ้นอำนาจของเงินตราไปได้!
“หรือผมให้คุณน้อยไป สักสองแสนเป็นไง”
“เก็บเศษเงินของคุณไว้เถอะ ฉันไม่คิดที่จะขายตัว” ลันตาเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งในศักดิ์ศรี
“ลองคิดทบทวนก่อนก็ได้นะครับ โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ใช่ว่าจะหากันได้ง่าย ๆ” ผลิตโชคบอกด้วยน้ำเสียงเนิบ ๆ ดูใจเย็น ทั้งที่ความจริงเขาก็รู้สึกเสียหน้าเช่นกันที่หญิงสาวกล้าปฏิเสธ
“เก็บโอกาสนี้ไว้ให้คนอื่นเถอะค่ะ เชิญคุณกลับไปได้แล้ว!”
“ผมให้โอกาสดี ๆ กับพวกคุณแล้วนะ ถ้าปฏิเสธ ผมจะยื่นเรื่องต่อศาล”
นี่คือคำขู่ชัด ๆ!!!
“เชิญตามสบาย หมดเรื่องแล้วใช่ไหมคะ?”
ลันตายังวางสีหน้าได้เรียบสนิท ทั้งที่เธอกำลังโกรธผู้ชายคนนี้มาก ๆ!
ให้ตายเถอะ! วันนี้มันวันซวยของเธอหรืออย่างไรนะ ถึงได้มีผู้ชายมายื่นข้อเสนอให้เธอไปเป็นเมียเก็บถึงสองรายในวันเดียวกัน
“ก็อย่าหาว่าผมใจร้ายก็แล้วกันคนสวย” ผลิตโชคหรี่ตาลง อีกทั้งยิ้มมุมปากตาวาว ดูเจ้าเล่ห์แฝงเลศนัยก่อนเดินไปขึ้นรถตู้
