บทที่ 2 แรกพบ (5)
“คุณผลิตโชคได้ให้โอกาสแล้ว คุณน่าจะคว้าไว้นะครับ” ผู้ติดตามซึ่งมีใบหน้าดุดันออกความคิดเห็น
“ถ้าเจ้านายของคุณยื่นโอกาสนี้ให้น้องสาวของคุณ หรือคนในครอบครัวคุณ คุณยังจะพูดกับฉันแบบนี้มั้ยคะ?”
ดูว่าบอดี้การ์ดผู้ติดตามจะอึ้งพอสมควร แต่เขาไม่พูดอะไรนอกจากเดินไปขึ้นรถ พอเจ้าหนี้ของรื่นฤทธิ์จากไปแล้ว ลันตาจึงถอนหายใจออกมาอีกหนึ่งเฮือกใหญ่
“เขาจะส่งคนมายึดบ้านของเรามั้ยลันตา” นางชดช้อยมีสีหน้าวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“บ้านเมืองมีกฎหมาย ใช่ว่าใครจะมายึดบ้านเราง่าย ๆ เล่า อีกอย่างเราไม่ใช่คนค้ำประกัน ลันตาว่าแม่อย่าไปสนใจเลย เรามาช่วยกันทำแกงส้มต่อเถอะ”
หญิงสาวทำทีไม่ใส่ใจอะไรก่อนหันมาหั่นผักและปอกเปลือกกุ้งต่อ กระนั้นถึงเธอจะแสดงออกด้วยการนิ่งเฉย ไม่ใส่ใจคำพูดของคนแปลกหน้าพวกนั้น แต่ลึก ๆ แล้วเธอก็กังวลเรื่องหนี้สินที่รื่นฤทธิ์ก่อเอาไว้เช่นกัน!
##### บทที่ 3
พ่อเลี้ยง!
เป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่ลันตานอนไม่หลับ เพียงปิดตาลงเท่านั้น ใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มต่างชาติที่ชื่อ ‘ประกาศิต’ ก็เข้ามารบกวนจิตใจของเธอ ดวงตาคมคายสีฟ้าทรงอำนาจของเขายังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ และรวมไปถึงริมฝีปากที่ยกขึ้นเหมือนรอยยิ้ม แต่แฝงฝังความเย็นชานั่นด้วย
แต่เหนืออื่นใดที่ร้ายกาจที่สุดก็คือ หัวใจของเธอกลับเต้นรัวแรงเมื่อนึกถึงเขาขึ้นมา
นี่เธอเป็นอะไรไปแล้ว!!!เธอปล่อยให้คนแปลกหน้าที่เพิ่งเห็นกันครั้งแรกเข้ามามีอิทธิพลเหนือจิตใจได้ไง!
พอข่มตาหลับไม่ลง ลันตาจึงลุกขึ้นออกมาเดินเล่นนอกบ้านเพื่อสูดอากาศสดชื่น...
เป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่พระจันทร์ทรงกรด กระนั้นถึงบรรยากาศจะโรแมนติกชวนให้พักผ่อนหย่อนใจ แต่เธอกลับค้นหาความสงบภายในจิตใจไม่พบ ตอนนี้สมองของเธอกำลังทำงานหนัก พอคิดมากเข้าจึงกลายเป็นความเครียด มีทั้งเรื่องพี่ชาย เรื่องเจ้าหนี้ของพี่ชาย แล้วไหนจะผู้ชายตาฟ้าคนนั้น ทุกอย่างประดังเข้ามาที่เธอพร้อม ๆ กัน
แต่ที่ติดใจที่สุดคือเขาคนนั้น ลันตาโฟกัสเรื่องผู้ชายผู้มีดวงตาสีฟ้ามากที่สุด เธอติดใจตั้งแต่รู้ว่าเขาชื่อ ‘ประกาศิต’ ด้วยซ้ำ ก็เขาดูเหมือนชาวต่างชาติทุกกระเบียดนิ้ว
หากไม่อ้าปากพูดภาษาไทย เธอจะคิดว่าเขามาจากต่างประเทศแน่นอน เธอยอมรับกับตัวเองว่าเขามีอิทธิพลเหนือเธออย่างปฏิเสธไม่ได้ เสน่ห์อันร้ายกาจของเขา ทำให้เธอตกหลุมรักตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นหน้าด้วยซ้ำ จะว่าไปเธอก็เหมือนคนใจง่าย ทั้ง ๆ ที่เธอไม่เคยรู้สึกกับผู้ชายคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่เธอก็เลือกหักดิบความรู้สึกของตัวเองด้วยการหันหลังให้เขาเช่นกัน!
เธอไม่มีวันยอมรับผู้ชายที่ดูถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของผู้หญิง และเห็นผู้หญิงเป็นเครื่องมือระบายความใคร่อย่างเด็ดขาด!
“ทำไมเราต้องใส่ใจคนแบบนั้นด้วย” หญิงสาวตั้งคำถามกับตัวเอง ก่อนกอดอกเข้าหากันเมื่อลมเย็นลูบไล้ผ่านผิวกาย
ลันตาเลือกจมอยู่กับความเงียบสงบท่ามกลางบรรยากาศยามค่ำคืนเส้นผมสลวยยาวถึงกลางแผ่นหลังถูกปล่อยสยายปลิวตามลมเย็นที่ลูบไล้ผิวกาย เธอพริ้มตาหลับและสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดซ้ำ ๆ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกสดชื่น จากนั้นจึงลืมตาขึ้น แล้วเงยหน้ามองยอดมะพร้าวที่ไหวสะบัดตามแรงลม
เป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้กับเธอทุกครั้งที่แหงนหน้ามอง
หญิงสาวพบความงดงามในความสุขสงบ เธอจมอยู่กับบรรยากาศที่อาบด้วยแสงนวลตาของพระจันทร์ดวงโตพักใหญ่ พอรู้สึกง่วงจึงกลับเข้าห้องเพื่อพักผ่อนแต่ทว่า ปิดประตูห้องเข้าหากันเท่านั้น ลันตาถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อมีใครบางคนบุกรุกเข้ามาในห้องนอน ซ้ำคนผู้นั้นยังลวนลามเธออีก!!!
พอกลิ่นเหล้าขาวโชยเข้าจมูกเท่านั้น ลันตารู้ได้ทันทีว่าผู้ที่กระทำอุกอาจคือใคร!
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะน้านพ!” หญิงสาวตวาดเสียงเขียว อีกทั้งกระทุ้งศอกกลับไป แต่เพราะนพพลประชิตตัวมากไป ลันตาจึงเล่นงานฝ่ายนั้นไม่ถนัด
“เรื่องอะไรจะปล่อย กูรอโอกาสนี้มานานแล้วนังลันตา”
สิ้นคำนพพลจึงลากตัวหญิงสาวมายังที่นอน ซึ่งมีแค่เสื่อ หมอน และผ้าห่มเท่านั้น แน่นอนว่างานนี้ลันตากัดฟันสู้ยิบตา เธอไม่ยอมให้นพพลรังแกเธอง่าย ๆ อย่างเด็ดขาด!!!
“ช่วยด้วย!! แม่จ๋า ช่วยลันตาด้วย” หญิงสาวกรีดร้องขอความช่วยเหลือทันทีอีกทั้งดิ้นขลุกขลักเพื่อให้หลุดจากเงื้อมมือของนพพลทว่านพพลกลับหยิบมีดสั้นวาววับขึ้นมาขู่เสียก่อน
“เงียบ! ถ้ามึงแหกปากร้อง กูจะเอามีดปาดคอมึง”
เพียงแค่เห็นมีดวาววับในมือนพพลที่นำมาจ่อลำคอ หญิงสาวถึงกับชะงักงันราวต้องคำสาปลันตาเบิ่งตากว้างด้วยความตกใจผสมกับความหวาดกลัว เธอมั่นใจว่านพพลสามารถทำอย่างที่ขู่ได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้เป็นเพราะพ่อเลี้ยงของเธอเมาจนขาดสติอยู่นั่นเอง
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะจ๊ะ ฉันไหว้ล่ะน้านพ ถ้าไม่เห็นแก่ฉัน ก็เห็นแก่แม่ของฉันก็ยังดี”
พอใช้ไม้แข็งไม่ได้ผล ลันตาจึงเปลี่ยนมาใช้ไม้นวมทันที เธอวิงวอนขอความเห็นใจจากนพพล เธอไม่อยากให้แม่ต้องมารู้เรื่องนี้ แม่ของเธอเป็นคนคิดมาก อีกทั้งแม่ของเธอเป็นโรคหัวใจอ่อน ๆ หากมีเรื่องมากระทบกระเทือนใจ ซ้ำยังเป็นเรื่องฉาวโฉ่ในลักษณะนี้ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพของแม่แน่นอน ขณะเดียวกันเธอเองก็ไม่ยอมให้นพพลรังแกเธอได้ง่าย ๆ เช่นกัน
สู้ให้เธอตาย ยังจะดีกว่าที่ต้องตกเป็นเมียของผู้ชายเลว ๆ อย่างนพพล!!!
