บทที่ 2 แรกพบ (2)
ลันตาเดินวนไปวนมาอยู่หน้าบริษัทยักษ์ใหญ่อยู่พักใหญ่ เธอกำลังลังเลไม่แน่ใจว่าจะเข้าไปสอบถามเรื่องของรื่นฤทธิ์ดีไหม เพราะบริษัทที่เธอจินตนาการเอาไว้กับบริษัทของจริงตรงหน้า ดูแตกต่างกันมากนัก แต่สุดท้ายแล้วเธอก็รวบรวมความกล้าก้าวเข้าไปในบริษัท และตรงไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ทันที
“มาสมัครงานเหรอคะ?” เจ้าหน้าที่ในบริษัท ซึ่งเป็นหญิงสาวหน้าตาดี แต่งกายด้วยชุดแบบฟอร์มสีเหลืองอ่อน ป้อนคำถามให้เธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เปล่าค่ะ คือ... ฉันมาหาพนักงานที่ชื่อรื่นฤทธิ์ วรากรค่ะ”
“ไม่ทราบว่าคุณรื่นฤทธิ์ทำงานอยู่แผนกไหนคะ?”
“ไม่ทราบค่ะ รู้แค่ว่าเขาเพิ่งเข้าทำงานที่นี่” ลันตายิ้มชืดให้
พนักงานสาวสวยจึงทำการค้นหาข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ ผ่านไปสักพักลันตาจึงได้รับข้อมูล
“คุณรื่นฤทธิ์ตอนนี้ไม่ได้ประจำอยู่ที่บริษัทนะคะ”
หญิงสาวชะงักไป อีกทั้งย่นคิ้วเข้าหากัน “แต่ฉันรู้มาว่า เขาทำงานอยู่ที่บริษัทนี้”
“ใช่ค่ะ แต่ตอนนี้เขาย้ายไปทำงานบนเกาะแล้วค่ะ”
เป็นคำตอบที่ไม่ให้ความกระจ่างชัดกับลันตาเลย ซ้ำยังสร้างความงวยงงให้เธอไม่น้อย
“เกาะที่ไหนคะ?”
“เกาะส่วนตัวของบอสค่ะ อันนี้ดิฉันไม่สามารถให้รายละเอียดได้”
ลันตาเม้มปากเป็นเส้นตรง รู้สึกว่าความหวังที่สว่างโรจน์ได้ดับวูบลงดื้อ ๆ ทั้งนี้เป็นเพราะไม่รู้ว่าจะไปตามหาตัวรื่นฤทธิ์ได้จากที่ไหนนั่นเอง แต่จะให้เธอก้มหน้ายอมแพ้ ปล่อยให้แม่และเธอต้องรับใช้หนี้เกือบแสนบาทอีกล่ะก็ ไม่มีทาง!
คนก่อเรื่องไว้ต้องรับผิดชอบสิ!!!
“เอ่อ ถ้าฉันอยากพบเขา ต้องทำอย่างไรบ้างคะ?”
หลุดปากป้อนคำถามนี้ไปแล้ว พนักงานสาวจึงเงียบไปอึดใจ อีกทั้งมองเธออย่างพิจารณา
“ทางบริษัทไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าไปที่นั่นค่ะ”
ลันตาพยักหน้า เธอรู้ว่ารื่นฤทธิ์เปลี่ยนงานใหม่ เขาสมัครงานเข้ามาในบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและการโรงแรม แต่ไม่คิดว่าพี่ชายจะถูกส่งตัวไปอยู่เกาะกลางทะเล อาจเป็นไปได้ว่าเจ้าของบริษัทแห่งนี้มีโรงแรมอยู่บนเกาะเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักก็ได้...
แต่พอมาคิดอีกที ให้รื่นฤทธิ์ทำงานอยู่บนเกาะก็ดีเหมือนกัน อยู่ห่างจากฝั่ง ห่างไกลจากความเจริญ เผื่อว่ารื่นฤทธิ์จะไม่สร้างปัญหาให้กับครอบครัวเพิ่มอีก
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้ก็ยังเป็นปัญหา เธอจะรับมือกับเจ้าหนี้รายใหม่ที่น่ากลัวของรื่นฤทธิ์ได้อย่างไร!
“เอ่อ... ถ้าฉันอยากสมัครงานเพื่อไปทำงานที่เกาะแห่งนั้นล่ะคะ พอมีตำแหน่งงานอะไรให้ฉันทำบ้าง”
“สักครู่นะคะ” ว่าแล้วพนักงานสาวจึงก้มหน้าลงเพื่อตรวจสอบข้อมูล ก่อนเงยหน้าขึ้น “มีตำแหน่งแม่บ้านค่ะ เรามีเอกสารใบสมัคร จะรับไปอ่านเล่นก็ได้นะคะ เผื่อคุณสนใจ”
“ขอบคุณมาก ยังไงฉันขอปรึกษากับครอบครัวก่อนนะคะ” ลันตาตอบสั้น ๆ ก่อนหันหลังเพื่อเดินออกจากสำนักงานสุดหรู
เพราะไม่ทันมองทาง เธอจึงหันมาชนโครมเข้ากับใครบางคนที่ตัวสูงใหญ่เข้าอย่างจัง ซ้ำเธอกลับเป็นฝ่ายเสียหลักซะเอง แต่โชคดีที่ว่าคู่กรณีไวกว่าเขาจึงคว้าตัวเธอเอาไว้ได้ทัน นั่นจึงทำให้เธอไม่หงายท้องก้นกระแทกพื้น แต่แรงปะทะก็ทำให้เธอมึนเล็กน้อยได้เช่นกัน
“ขอ... ขอโทษค่ะ ขอโทษนะคะ ฉันไม่ทันมอง”
หญิงสาวรีบผละห่างจากชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ทันที อีกทั้งรีบยกมือไหว้ขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่แต่พอเงยหน้าขึ้นสบตาสีฟ้าน้ำทะเลของชายหนุ่มซึ่งไว้ผมยาวปะบ่าและเขาอยู่ในชุดสูทเท่านั้น หัวใจดวงน้อยของเธอจึงกระตุกวูบขึ้นมาทันที เธอจ้องมองเขาอยู่นาน นานจนลืมลมหายใจของตัวเองเลยทีเดียว
ราวกับทุกสิ่งรอบกายหยุดเคลื่อนไหว เวลาหยุดหมุน และหัวใจของเธอก็เต้นรัวแรง!
ตั้งแต่โตเป็นสาวมาเธอไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนที่ดูดีเท่านี้มาก่อน เธอรู้สึกเหมือนเขาเป็นเทพบุตรที่ก้าวออกมาจากโลกนิยายเลยทีเดียว แต่พอถูกเขามองกลับมาด้วยสายตาดุ ๆ แกมตำหนิ ลันตากลับหายใจไม่ทั่วท้อง ซ้ำใบหน้าของตนเองเห่อร้อนขึ้นมาทันที!
นี่ใช่ไหม ที่เรียกกว่าอาการตกหลุมรักจากรักแรกพบ!!!
“เป็นอะไรหรือเปล่า?”
ชายหนุ่มซึ่งดูดีทุกองศาและดูเหมือนชาวต่างชาติป้อนคำถามให้เธอด้วยภาษาไทยที่ชัดแจ๋ว แต่เหนืออื่นใดคือน้ำเสียงทรงอำนาจที่แฝงความเย่อหยิ่งทะนงตน แต่ลันตาไม่ทันฟังคำถาม เธอสนใจแค่คุณสมบัติพิเศษของเขาเท่านั้น
และนี่คือความมหัศจรรย์ที่สุดสำหรับลันตาเลยทีเดียวฝรั่งพูดภาษาไทยได้!!!
“ไม่... ไม่ค่ะ ฉันไม่เป็นไร” หญิงสาวยิ้มอาย ๆ ให้กับเขา รู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวยิ่งกว่าเดิมเมื่อถูกสายตาทรงอำนาจของเขาจ้องมอง ทั้งที่ความจริง เธออยากตอบเหลือเกิน ว่าเธอรู้สึกเหมือนเดินชนรถถัง!
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
ชายหนุ่มซึ่งดูเหมือนชาวต่างชาติสวมชุดสูทดูทีไปทุกอิริยาบถหรี่ตามองเธออีกครั้ง...
