บทที่ 2 แรกพบ (1)
“ย้ำอีกครั้งอย่าบอกว่าพี่บอกล่ะลันตา พี่ขี้เกียจฟังเจ้ารื่นมันบ่น”
“จ้ะพี่” หญิงสาวรับปาก อีกทั้งยิ้มบางอย่างมีความหวัง
อย่างน้อยตอนนี้เธอก็รู้ว่าจะออกไปตามหาตัวพี่ชายจอมกะล่อนได้จากที่ไหน...
รุ่งขึ้นหลังจากจัดการเรื่องปากท้องเรียบร้อยแล้ว ลันตาจึงแต่งตัวเตรียมอกนอกบ้านเพื่อจัดการธุระเรื่องตามหาตัวพี่ชายทันที
“ไปไหนแต่เช้าเหรอลันตา?”นางชดช้อยที่นั่งทำของชำร่วยเป็นรายได้เสริมของครอบครัวมองหน้าลูกสาว ซึ่งตอนนี้ลันตาได้สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว เกล้าผมหางม้า แต่งหน้าอ่อน ๆ ในมือถือหมวกปีกกว้างสำหรับใส่กันแดด
“ไปทำธุระในเมืองนิดหน่อยจ้ะแม่ เดี๋ยวสาย ๆ ลันตากลับมานะจ๊ะ”
นางชดช้อยพยักหน้าให้ ไม่ป้อนคำถามอะไรให้อีกนอกจากก้มหน้าก้มตาทำของชำร่วยแต่งงานต่อ
ลันตาอมยิ้มให้กับมารดา หากเธอสามารถตามตัวรื่นฤทธิ์กลับมาบ้านได้ แม่ของเธอคงคลายความคิดถึงและคลายความกังวลลงไปได้บ้าง คิดได้เช่นนั้น ลันตาจึงออกจากบ้านทันที แต่เธอต้องหยุดชักงักเมื่ออยู่ ๆ นพพลมาขวางทางลงบันไดเสียก่อน อีกทั้งในมือของนพพลยังมีขวดเหล้าขาวติดมาด้วย
“แต่งตัวซะสวยเชียว จะไปไหนแต่เช้าเหรอน้องลันตาคนสวย” นพพลยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย ตามประสาคนเจ้าชู้
ทว่าสายตาหยาดเยิ้มเพราะความเมาของพ่อเลี้ยงกอปรกับนิสัยเจ้าชู้ไก่แจ้ ได้สร้างความอัดอัดให้กับลันตาเป็นอย่างมาก หากเป็นไปได้ เธอไม่อยากเห็นหน้าผู้ชายคนนี้ด้วยซ้ำ!
“หลบไป” หญิงสาวเอ่ยเสียงเรียบขยับตัวไปอีกด้าน แต่นพพลก็กางมือขวางทางเธอเอาไว้
“พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย จะหยิ่งไปถึงไหน นังลันตา”
ลันตาถอนหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยความเอือมระอากับพฤติกรรมของพ่อเลี้ยง
“ฉันจะไปไหนก็เรื่องของฉัน น้านพมีอะไรก็ไปทำเถอะ ไม่ต้องมาสนใจธุระของฉันหรอก” บอกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจแค่นั้น ลันตาจึงเดินห่างออกไปทันที
“ร่านไปหาผู้ชายหรือไง?”
ลันตาสะอึกกับคำพูดของนพพลไม่น้อย แต่เธอก็เลือกไม่สนใจ ทว่านพพลกลับย่ามใจ นึกสนุกจึงลวนลามลูกเลี้ยงสาวคนสวยด้วยการคว้าตัวหญิงสาวมากอด
“อ๊าย!” อุทานออกมาด้วยความตกใจแค่นั้น ลันตาจึงกระทุ้งข้อศอกกลับไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงหันกลับมาตีเข่าใส่กล่องดวงใจของนพพลทันที!
ผลก็คือพ่อเลี้ยงตัวแสบทรุดลงกับพื้น กุมกล่องดวงใจด้วยใบหน้าเจ็บปวด
“อู้ยส์... นังลันตา มึงจะฆ่ากูเลยหรือไง?” นพพลครวญคราง ทำหน้าเหยเกทรมาน
“ช่วยไม่ได้ น้านพอยากทำรุ่มรามกับฉันก่อนทำไม”
“กูจะฟ้องแม่มึง”คนเจ็บขู่เสียงเขียว
“เชิญไปฟ้องเลย ถ้าแม่รู้เรื่องเข้ารับรองว่าน้านพเจ็บตัวกว่านี้แน่” ลันตามองอีกฝ่ายด้วยความเกลียดชังเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่นพพลกล้าถึงเนื้อถึงตัวเธอ!
“มึงขู่กูเหรอ นังลันตา”
“ฉันไม่ได้ขู่ ฉันทนกับพฤติกรรมเลว ๆ ของน้านพมานานแล้ว ไหน ๆ ก็มีเรื่องแล้ว ฉันจะได้ปิดบัญชีกับน้านพซะที ฉันจะบอกแม่ให้หมดว่าน้านพทำอะไรไว้กับฉันบ้าง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ น้านพแอบดูฉันอาบน้ำ”
หญิงสาวทำหน้าตาขึงขัง ซึ่งดวงตาเป็นประกายระยับ ดูเอาเรื่องของหญิงสาวก็ทำให้นพพลรู้สึกขยาดไปด้วย
ก็สายตาของลันตาเหมือนชดช้อยไม่มีผิดถึงลูกเลี้ยงสาวจะสวยสดงดงามน่ากินเพียงใด แต่เมื่อลันตาไม่สบอารมณ์ขึ้นมา เขาก็ไม่กล้าแหย่ด้วยเช่นกัน
“แม่มึงไม่สบาย มึงจะหาเรื่องกลุ้มใจให้แม่มึงอีกเหรอ?”นพพลเจรจาไปกุมกล่องดวงใจไป
“คนที่หาเรื่องให้แม่ คือน้านพต่างหาก ไม่ใช่ฉัน” ลันตาเถียงเสียงแข็ง
“ถ้ามึงอยากให้แม่ของมึงหัวใจวายก็เอาสิ นังลันตา”
เจอไม้นี้เข้าไป ลันตาจึงเงียบไป เพราะนี่คือประเด็นสำคัญที่ทำให้เธอไม่กล้าบอกเรื่องนพพลกับแม่
หญิงสาวจ้องหน้านพพลอีกครั้ง อีกทั้งผ่อนลมหายใจออกมา ก่อนตัดสินใจยุติปัญหาด้วยการเดินห่างออกไปดื้อ ๆ ลันตาจึงไม่ทันเห็นสายตาของนพพลที่มองเธออยู่นั้นราวกับไฮยีน่าผู้หิวโหยเลยทีเดียว
“อวดเก่งไปก่อนเถอะนังลันตา กูได้มึงเป็นเมียเมื่อไหร่ จะกำราบให้อยู่หมัดเลยทีเดียว!” นพพลหรี่ตาลงอย่างอาฆาต อีกทั้งร้องโอดโอยกับความเจ็บปวดที่ลูกเลี้ยงสาวตัวแสบฝากไว้ให้
ทางด้านลันตาเมื่อจับรถสองแถวเข้ามาในเมืองได้ เธอจึงหาบริษัทที่รื่นฤทธิ์ทำงานทันที มีรอยยิ้มอย่างดีใจระบายอยู่บนหน้าหวานชวนมองเมื่อมาถึงจุดหมายปลายทาง
โดยที่หญิงสาวไม่ทันรู้ตัวเลยว่า ทุกความเคลื่อนไหวของเธอนั้น ได้ตกอยู่ในสายตาของใครบางคนที่นั่งอยู่ในรถตู้คันหรูติดฟิล์มสีดำ ซึ่งรอยยิ้มเปิดโลกของหญิงสาวนี้เอง สามารถสะกดสายตาของชายหนุ่มผู้นั้นได้เป็นอย่างดี...
