ตอนที่ 8 ส่วนแบ่ง [1]
แผ่นหลังกำยำขึ้นเส้นสวย ผิวสีน้ำผึ้งงดงามไร้ส่วนด่างดำ
เยว่อิงมองแผ่นหลังบุรุษตรงหน้าอย่างสำรวจ เธอพึ่งจะเคยเห็นคนที่มีสีผิวเช่นนี้ แม้จะบอกไม่ได้ว่าแบบนี้เรียกว่างดงามหรือไม่ ทว่าสำหรับเธอแล้วกับรู้สึกว่าแผ่นหลังนี้น่ามองมาก
ในโลกเดิมผู้คนส่วนใหญ่มักจะมีสีผิวขาวกระจ่างใส ไม่ผิวขาวอมชมพู พอได้มาเห็นสีผิวอื่น ๆ ซึ่งแตกต่างจากที่เคยเห็นมาจึงอดอยากรู้อยากเห็นไม่ได้
หากใช้มือสัมผัสดูจะเป็นยังไงบ้างนะ
จะให้ความรู้สึกนุ่มลื่นเหมือนผิวสีขาวหรือเปล่า?
ความอยากรู้อยากเห็นและสายตาร้อนแรงทำคนเดินนำคิ้วกระตุก ชายหนุ่มหยุดฝีเท้าหันหลังกลับมา
“เจ้าจะจ้องมองข้าไปถึงเมื่อใด? แผ่นหลังข้ามีอะไรน่ามองนัก!” เขาพูดพร้อมขมวดคิ้ว ทว่าอีกฝ่ายกลับยังคงยิ้ม เป็นรอยยิ้มโง่ ๆ ที่เขาไม่อยากจะมองเสียเท่าไร
“ข้าขอสัมผัสแผ่นหลังท่านได้หรือไม่?” แทนที่อีกฝ่ายจะสลดกับคำพูดเหน็บแนม เขากับเป็นฝ่ายชะงักนิ่งไปเสียเอง ใบหน้าชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นไม่น่ามอง
“...”
“ได้หรือไม่? หากไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
“ไม่ได้อยู่แล้ว!! เจ้ากับข้าเป็นอันใดกัน เหตุใดข้าต้องยอมให้เจ้าสัมผัสแผ่นหลังข้า!”
เยว่อิงสะดุ้งตกใจ ไม่เห็นต้องตะคอกเลย ไม่ให้ก็ไม่จับ เธอก็แค่อยากรู้ว่าจะให้สัมผัสแบบไหนเท่านั้นเอง
“ก็ได้ข้าไม่จับแล้ว”
พอเห็นอีกฝ่ายว่าง่ายแทนที่เขาจะรู้สึกดีกลับรู้สึกหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม
สตรีผู้นี้เป็นอันใดนักหนา ยิ่งมองยิ่งน่าหงุดหงิด!
ชายหันหลังกลับเอ่ยขึ้นมาหนึ่งประโยค “ข้าให้เพียงนิดเดียว เจ้าต้องรีบนำมือออก”
คนได้รับอนุญาตเผยยิ้มสดใส เอ่ยถามย้ำ
“เจ้าพูดจริงหรือ?”
“รีบเข้าก่อนข้าจะเปลี่ยนใจ”
“อื้ม!!” เยว่อิงตอบรับ นัยน์ตาสดใสจ้องมองแผ่นหลังตรงหน้า หญิงสาวมองพิจารณาจนอีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงสายตาร้อนแรงทิ่มแทงแผ่นหลัง
ทั้งที่สีหน้ายังคงไม่น่ามองแต่ชายหนุ่มกับยืนนิ่งรอให้อีกฝ่ายสัมผัสแผ่นหลังของตนด้วยความรู้สึกไม่เข้าใจ
ทำไมต้องยอมให้นางสัมผัสตนเองทั้งที่อีกฝ่ายก็หาได้สนิทสนมกับตน
เยว่อิงผู้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่ มือติดผอมแห้งเล็กน้อยค่อย ๆ วางบนแผ่นหลังกว้างความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือแข็ง เป็นแผ่นหลังที่ให้ความรู้สึกแข็งแรงมั่นคงมาก นอกจากนี้ยังรู้สึกได้ถึงความสากเล็กน้อยไม่ได้เรียบลื่นนุ่มนิ่มเหมือนผิวของเธอในโลกก่อนแต่กับให้ความรู้สึกน่าสัมผัสอย่างน่าประหลาด
ทำเอาอยากสัมผัสแผ่นหลังนี้ให้นานขึ้นอีก
“เสร็จแล้วก็ถอนมือเจ้าออก พวกเราต้องรีบกลับเผ่าแล้ว” ในเมื่อเจ้าของร่างกายไม่อนุญาตแล้ว เธอจึงทำได้เพียงถอนมือออกมาอย่างเสียดาย
“ขอบคุณเจ้ามาก” หญิงสาวเอ่ยยิ้ม ๆ อีกฝ่ายเหลือบมามองมาก่อนจะดึงสายตากลับไป พร้อมฝ่าเท้าก้าวเดินไปด้านหน้า
หญิงสาวมองตามแผ่นหลัง เผยยิ้มออกมาเล็กน้อยก้าวเดินตามไป
ตลอดการเดินทางกลับไปยังเผ่า นับจากประโยคสุดท้ายถูกเอื้อนเอ่ยออกไปทั้งสองคนก็ไม่คุยอะไรกันอีก
เยว่อิงรู้ว่าเขาไม่อยากพูดด้วยจึงไม่เอ่ยถามออกไป ทำเพียงมองซ้ายขวาสำรวจธรรมชาติรอบข้างอย่างมีความสุขและผ่อนคลาย แม้จะมีอยู่บ่อยครั้งที่อดนึกถึงชีวิตแสนสะดวกสบายของโลกก่อนไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นหากให้เลือกเธอขอเลือกใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ดีกว่า
ชีวิตที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ บรรยากาศสดชื่น ถึงจะไม่สะดวกสบายมากนัก ทว่าชีวิตแบบนี้กลับเป็นชีวิตที่เธอต้องการ
อีกอย่างไม่ว่าจะโลกนี้หรือโลกก่อนเธอก็ไม่มีคนให้เรียกว่าครอบครัวเหมือน ๆ กัน
ครอบครัวในโลกก่อนของเยว่อิงเสียชีวิตจากการรุกรานของสัตว์อวกาศ จากนั้นเธอก็ใช้ชีวิตเพียงลำพัง ตั้งหน้าตั้งตาทำงานวิจัยเพียงอย่างเดียว เพื่อให้ตนเองลืมความเศร้าจากการสูญเสีย พอเก็บเงินได้ในระดับหนึ่งก็ไปซื้อต้าเกอมาอยู่ด้วย หลังมีต้าเกอชีวิตในแต่ละวันของเยว่อิงก็เปลี่ยนไปมาก เธอมีความสุขมากขึ้น ปล่อยวางเรื่องราวของพ่อแม่ได้มากขึ้น ยิ้มมากขึ้น
ส่วนครอบครัวของเจ้าของร่าง พอมองลึกเข้าไปในความทรงจำทั้งสองคนพึ่งจะเสียชีวิตไปได้ไม่นานนักจากการออกไปล่าสัตว์ ทำให้ชีวิตของเจ้าของร่างจากเดิมซึ่งมีความเป็นอยู่ที่ดีเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ต้องย้ายออกกระโจมเดิมมาอาศัยอยู่ในกระโจมรวม
อีกทั้งเจ้าของร่างยังไร้ความสามารถ ร่างกายอ่อนแอ ทั้งยังไม่สามารถปลุกร่างสัตว์ของตนเองได้
