ตอนที่ 7 บุรุษน่าตาย [2]
ระหว่างที่หญิงสาวกำลังเก็บผลไม้อย่างตั้งใจ ไม่ไกลออกไปความเคลื่อนไหวหนึ่งกับกำลังขยับใกล้เข้ามา
“เหมือนมีคนมาทางนี้ เป็นคนในเผ่า” เยว่อิงหูผึ่งให้คำว่าคนในเผ่า
“อีกนานไหมกว่าจะถึงตรงนี้”
“สองนาทีก็ถึงแล้ว” เธอพยักหน้าเข้าใจ เลิกฮัมเพลงแล้ว แต่มือยังไม่ยอมหยุดขยับ ยังคงเก็บบลูเบอร์รี่ต่อไปจนอีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้
“เจ้ารู้ไหมว่าตนเองกำลังทำอันใดอยู่?” อีกฝ่ายเอ่ยถาม น้ำเสียงตวัดขึ้นเล็กน้อย หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน สายตาจ้องมองสตรีตรงหน้าซึ่งยังง่วนอยู่กับอะไรบางอย่าง
“ข้าพูดกับเจ้าอยู่ เจ้าได้ยินหรือไม่?”
“ข้าได้ยิน” ที่เยว่อิงไม่ตอบกลับไปทันที เพราะเธอกำลังสับสนกับสรรพนามที่อีกฝ่ายพูดออกมา เธอไม่คุ้นเคยกับการพูดแบบนี้ แม้จะบอกว่าเอไอรู้เรื่องราวของโลกในยุคอดีตมากมาย แต่เรื่องภาษากับเป็นเรื่องที่เอไอไม่สามารถศึกษาผ่านเศษซากซึ่งเหลืออยู่ได้ ยังดีที่หลายวันมานี้ต้าเกอได้ฟังสำเนียงของพวกเขาตอนพวกเขาพูดคุยกันจึงพอจับทางได้บ้าง หลังป้อนข้อมูลทุกอย่างให้เยว่อิงอย่างรวดเร็วแล้วเธอจึงพอเข้าใจและโต้ตอบกลับไปได้
“ได้ยิน? แล้วเหตุใดถึงได้เมินเฉย”
“ข้ากำลังเก็บอาหาร”
“อาหาร? คนที่ตลอดหลายวันเอาแต่นอนนิ่งอย่างเจ้านะหรือจะออกมาหาอาหารได้ คงมิใช่กำลังเรียกร้องความสนใจอยู่ใช่ไหม?”
เยว่อิงหันกลับมา หญิงสาวเผยยิ้มให้เขายื่นมือออกไปตรงหน้า
“ดูสิ ข้าไม่ได้โกหกนะ”
ผู้มาใหม่เหลือบมองของในมือ รวมถึงเหลือบมองพุ่มไม้ด้านหลัง หลังรู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหกจริง น้ำเสียงจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ไม่ควรออกจากเผ่าเพียงลำพัง เจ้าไม่รู้หรือว่านอกเผ่าอันตราย เจ้าอ่อนแอถึงเพียงนี้หากเกิดอันตรายขึ้นคงยากจะป้องกัน”
เยว่อิงยังคงยิ้ม แม้ว่าต้าเกอจะป้อนข้อมูลให้เธอแล้ว แต่พออีกฝ่ายพูดรัวไม่หยุดเธอกลับฟังไม่ค่อยเข้าใจ
“นี่เจ้าเข้าใจที่ข้าพูดหรือไม่?”
“เข้าใจ”
“เข้าใจ? แล้วเหตุใดถึงยังยิ้มและยืนนิ่ง”
เยว่อิงยิ้ม ประโยคนี้เธอเข้าใจ “เจ้าไม่ได้บอกให้ข้าไปไหน”
อีกฝ่ายถึงกับชะงักกึก จ้องหน้ากลับเขม็ง
“เจ้ายั่วโมโหข้า?”
“ไม่ใช่ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว”
“เช่นนั้นก็กลับเผ่าได้แล้ว รู้ไหมว่าเจ้าทำข้าเสียเวลา”
“ข้าขอโทษ...แต่ข้ากลับเผ่าเองได้”
“...” คำพูดนี้ทำอีกฝ่ายพูดไม่ออกอีกครั้ง ชายหนุ่มผู้มาใหม่มองสตรีตรงหน้าด้วยความรู้สึกไม่พอใจระคนสงสัย เหตุใดเขาถึงรู้สึกว่านางแปลกไป ปกติแล้วสตรีตรงหน้าพูดจาฉะฉานขนาดนี้เลยหรือ? จากความทรงจำที่ผ่านมาอีกฝ่ายมักจะเก็บคำพูดและทำตัวอ่อนแอมากกว่าจะเอ่ยปากโต้ตอบเขาเช่นนี้
นัยน์ตาดำขลับจ้องมองคนตรงหน้า เอ่ยออกมาว่า
“หากไม่ใช่ว่าท่านหัวหน้าเผ่าสั่งมา ข้าคงไม่คิดจะมาตามเจ้ากลับไป!” กล่าวจบก็เอ่ยขึ้นมาอีกประโยค “หากเจ้าเก็บได้เพียงพอแล้วก็กลับเผ่า” เยว่อิงเผยยิ้ม เธอมองออกว่าอีกฝ่ายไม่พอใจ ทั้งที่ไม่พอใจแต่กลับยอมเอ่ยประโยคแสดงความห่วงใยออกมา การแสดงออกของเขาทำเธอนึกขำระคนเอ็นดูอยู่ในใจ
“เจ้ายิ้มอันใดของเจ้า!” หัวคิ้วชายหนุ่มยังคงขมวดแน่นไม่คลาย รู้สึกไม่พอใจมากขึ้นกว่าเดิม
“ไม่มีอันใดกลับกันเถอะ ข้าพอแล้ว”
ได้รับคำยืนยันเขาก็ไม่สนใจแล้วว่านางยิ้มด้วยเหตุผลใดรีบหันหลังกลับแล้วเดินจากไปทันที เยว่อิงมองตามก่อนจะเดินตามหลังไปเงียบ ๆ
“ต้าเกอมีคนห่วงใยด้วยละ” เธอกระซิบพูด
“ดีแล้วไม่ใช่เหรอ”
“อื้ม ดีมาก ๆ เลย”
ถึงจะดูห่วงใยแบบแปลก ๆ ก็เถอะ
