บันทึกการใช้ชีวิตของเยว่อิง

24.0K · ยังไม่จบ
เยว่หลง
18
บท
77
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เรื่องย่อ ตลอดชีวิตเยว่อิงรู้จักเพียงการวิจัย หญิงสาวหลงใหลในธรรมชาติของโลกบรรพกาล โลกที่ทุกพื้นที่ต่างโอบล้อมไปด้วยสีเขียว ความหลากหลายทางธรรมชาติ เธออยากรู้ว่าเมื่อก่อน บรรพบุรุษใช้ชีวิตแบบไหน อาหารมีรสชาติยังไง แม้วิทยาการในสมัยนี้จะสามารถจำลองรสชาติที่ควรจะเป็นออกมาได้ ทว่าวัฒนธรรมมากมายกลับสูญสลายไปนับตั้งแต่หลายพันปีก่อน หญิงสาวเอาจริงเอาจังกับการวิจัย ค้นคว้าสิ่งที่ต้องการอยากรู้ด้วยความกระตือรือร้น แม้ผลตอบแทนจะไม่ได้มากมายตามความมุ่งมั่นตั้งใจ แต่เพราะเป็นงานที่ชื่นชอบเธอจึงมีความสุขกับมันเสมอ ใครจะคาดคิดว่าความชอบนั้นจะทำให้เธอสูญเสียตัวตน และตื่นขึ้นมาในสภาพแวดล้อมไม่คุ้นเคย “แจ้งเตือนถึงเยว่อิง ดูเหมือนร่างกายของคุณจะไม่เหมือนเดิม กำลังทำการตรวจสอบ” “สามารถบอกให้ว่าร่างกายและจิตวิญญาณไม่ต้องกัน อ้างอิงตามข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกฝนกำลังภายในของโลกในอดีต ตามบันทึกที่หลงเหลือสามารถบอกว่า จิตวิญญาณของคุณกับร่างกายนี้ไม่สัมพันธ์กัน ร่างกายนี้ไม่ใช่ร่างกายของคุณ ตอนนี้กำลังเริ่มกระบวนการปรับสภาพให้ตรงกัน การซิงค์ข้อมูลอยู่ที่ 0.1% จากความเร็วนี้ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ ร่างกายและจิตวิญญาณถึงจะประสานกันอย่างสมบูรณ์”

นิยายผจญภัยเกิดใหม่ในนิยายนิยายจีนโบราณนักรบนักล่าพระเอกเก่งนางเอกเก่งข้ามมิติแฟนตาซี พึ่งพาตัวเอง

ตอนที่ 1 คนจากโลกอนาคต [1]

“ต้าเกอช่วยวิเคราะห์ข้อมูลธรรมชาติของโลกโบราณให้หน่อยสิ จากนั้นช่วยแสดงออกมาเป็นรูปแบบสามมิติด้วยนะ”

“ต้าเกอรับทราบสิ่งที่อิงอิงต้องการ กำลังทำการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ รวมถึงข้อมูลที่ได้จากการแทรกแซงข้อมูลซึ่งหลงเหลืออยู่จากเครือข่ายในอดีต คาดว่าข้อมูลจะเสร็จสมบูรณ์ในอีกห้านาที”

“ต้าเกอเก่งที่สุด สมแล้วที่เป็นคู่หูยอดอัจฉริยะของฉัน” หญิงสาวเอ่ยตอบ สายตาเหลือบมองเอไอมีชีวิตอัจฉริยะซึ่งไมโครชิพสำหรับใช้งานถูกฝังอยู่ในหัวสมองของเธอ

ความทันสมัยของเทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้เธอสามารถพูดคุยกับสิ่งที่อยู่ในสมองได้ไม่ต่างจากการพูดคุยกับมนุษย์ด้วยกันเอง ทุกการกระทำของต้าเกอจะสะท้อนเข้าสู่สายตาของเธอ และต้าเกอก็สามารถมองเห็นทุกอย่างที่เธอเห็น เป็นการรับรู้ที่รู้กันแค่สองคน คนอื่น ๆ ไม่สามารถมองเห็นการกระทำของต้าเกอได้ ยกเว้นเพียงว่าผู้เป็นเจ้าของจะเปิดสิทธิ์การมองเห็นให้คนอื่นรับรู้

เอไออัจฉริยะ ที่ไม่ว่าจะพังเสียหายเพราะระบบขัดข้อง หรือจะหมดสิ้นพลังงานก็สามารถซ่อมแซมและเติมพลังงานเข้าไปได้ด้วยตัวเอง เป็นสิ่งที่ผู้คนในยุคสมัยนี้ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย และให้ความสำคัญไม่ต่างจากแขนขาของตัวเอง

เยว่อิงก็เป็นหนึ่งในคนมากมายเหล่านั้นที่มีต้าเกอเป็นเพื่อน แถมยังถือเป็นเพื่อนที่สนิทสนมมากที่สุด เพราะเวลาส่วนใหญ่ของเธอมักอยู่ในห้องวิจัยเป็นส่วนใหญ่ หมกมุ่นอยู่กับการศึกษาเกี่ยวกับพืชวิทยา ธรณีวิทยา ธรรมชาติในอดีต และการมีอยู่ของโลกในยุคบรรพกาล

อดีตอันน่าหลงใหลของบรรพบุรุษที่ไม่อาจสัมผัสได้ในยุคสมัยนี้

และด้วยความหลงใหลในเรื่องราวจากอดีตกาลทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนให้พูดคุยเรื่องนี้มากมายเท่าไรนัก ด้วยสาเหตุนี้เธอจึงมักตัวคนเดียวเสมอ

นับตั้งแต่ภัยพิบัติปรากฏขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อน มนุษย์ได้หนีออกจากถิ่นที่อยู่เดิมซึ่งถูกเรียกว่าโลกแล้วมองหาที่อยู่ใหม่ เพียงเพื่อต้องการดำรงเผ่าพันธุ์ให้คงอยู่

หลังผ่านพ้นไปหลายพันปี ในที่สุดการทดลองและการเสียสละมากมายของผู้คนก็บังเกิดผล เมื่อพวกเขาสามารถตัดแต่งพันธุกรรมระดับยีนส์ได้สำเร็จ โดยการผสมยีนส์ของสัตว์เข้ากับยีนส์ของมนุษย์ ส่งผลให้ผู้คนในสมัยนี้มีชีวิตอยู่ได้ยาวนานขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น จนสามารถต่อกรกับสิ่งประหลาดจากอวกาศซึ่งเคยคิดว่ามีเพียงแค่ในเรื่องเล่า

ปัจจุบันมนุษย์ในยุคสมัยนี้จึงสามารถกลายร่างเป็นสัตว์ตามแต่ยีนส์ที่อยู่ในตัวของตัวเอง แม้จะมีผลข้างเคียงเล็กน้อยในการแลกเปลี่ยนกับพละกำลังอันมหาศาล ทว่าคนในจักรวรรดิต่างภาคภูมิใจในความสำเร็จนี้

เมื่อมนุษย์แข็งแกร่งขึ้นพัฒนาด้านเทคโนโลยีก็ถูกยกระดับขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนกลายเป็นเทคโนโลยีอย่างเช่นในปัจจุบัน

เอไอมีชีวิต ทำงานได้เองโดยไม่ต้องพึ่งกำลังจากมนุษย์ ความสามารถในการวิเคราะห์อันยอดเยี่ยม สามารถซ่อมแซมและปรับปรุงตนเองได้อย่างน่าอัศจรรย์เกินกว่าจะสามารถอธิบายความสามารถอันยากจะหยั่งถึงออกมาในเชิงวิชาการได้

“อิงอิงข้อมูลทุกอย่างถูกวิเคราะห์ออกมาแล้ว อิงอิงจะดูเลยไหม?”

“รบกวนด้วยนะ” หญิงสาวคนเดิมเอ่ยกับผู้ช่วยของตน เธอขยับมานั่งลงบนเก้าอี้อัตโนมัติที่พอนั่งลงจะมีเก้าอี้ปรากฏขึ้นมา นัยน์ตาของหญิงสาวจ้องมองโต๊ะกลมโล่ง ๆ ตรงหน้า จากนั้นภาพผืนแผ่นดินในอดีตพลันปรากฏขึ้น

นับตั้งแต่เรียนรู้เกี่ยวกับโลกบรรพกาล เยว่อิงได้ตกหลุมรักและหลงใหลโลกในยุคก่อนอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

ธรรมชาติที่ในตอนนี้ไม่มี พื้นดินโล่งกว้างเต็มไปด้วยสีเขียว สิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่แหวกว่ายไปมาในน้ำสีฟ้าระยิบระยับ ทุกอย่างที่ได้เรียนรู้มาจากห้องเรียนประวัติศาสตร์ ล้วนพรรณนาให้เห็นถึงความงดงามของโลกในสมัยก่อน โลกที่เธอไม่แม้แต่จะเคยเห็นด้วยตาตนเอง

เพราะความหลงใหลที่มีทำให้เธอเลือกจะเป็นนักวิจัยวิทยา ศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโลกในยุคก่อน รวมทั้งมีความฝันเล็ก ๆ ที่ต้องการฟื้นฟูทุกอย่างให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม แม้ความฝันที่ว่าจะยากมากก็ตาม

สาเหตุที่ฝันของเธอเป็นไปได้ยากเพราะข้อมูลทางประวัติศาสตร์ซึ่งถูกส่งต่อมาจนถึงยุคสมัยนี้หลงเหลืออยู่น้อยมาก