บทที่ 3 ผู้บังคับบัญชา คุณแย่มาก
“ไปเถอะ อย่าทำให้ตำรวจกับพวกสื่อตกใจ แล้วลบวิดีโอกล้องวงจรปิดด้วย ปลอบประโลมอารมณ์ผู้โดยสารบนเครื่องให้สงบก็พอแล้ว เดี๋ยวเครื่องบินลงจอด จะมีคนมารับตัวผู้ก่อการร้ายลัทธิสัจธรรมพวกนั้นไปเอง”
เย่เฉิงเฟิงเก็บบัตรประจำตัวใส่กระเป๋า แล้วโบกมือให้
ประมาณยี่สิบนาที เครื่องบินก็ลงจอดสนามบินนานาชาติเมืองหลวงประเทศหัวเซี่ยอย่างราบรื่น
ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ เกิดเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายปล้นจี้เครื่องบินเช่นนี้ ไม่ว่าเครื่องบินจะลงจอดอย่างปลอดภัยหรือไม่ ก็จะดึงดูดนักข่าวและตำรวจจำนวนมาก
แต่ครั้งนี้ เพราะคำสั่งของเย่เฉิงเฟิง จึงถูกปิดข่าวทั้งหมด สงบเงียบราวกับไม่เคยเกิดอะไรขึ้นเลย
“วันนี้ขอบคุณคุณมากเลย ฉันชื่อตงฟางเสวี่ย ไม่ทราบว่าผู้มีพระคุณชื่ออะไรคะ?”
ขณะที่เย่เฉิงเฟิงก้าวลงเครื่อง เสียงหนึ่งที่ไพเราะราวกับดนตรีบนสรวงสวรรค์ พร้อมกับกลิ่นหอมชื่นใจลอยโชยมา
เย่เฉิงเฟิงหันกลับไปมอง ปรากฏว่าเป็นขาเรียวยาวสวยงามคู่หนึ่งที่ห่อหุ้มด้วยถุงน่องสีดำ ปล่อยเสน่ห์น่าดึงดูดจนอยากเอื้อมมือไปสัมผัส
นอกจากสาวสวยผู้เย็นชาที่นั่งข้าง ๆ เขาแล้ว จะมีใครที่ขาโคตรสวยแบบนี้อีก?
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ คงไม่ได้เจอกันอีก”
เมื่อเย่เฉิงเฟิงได้ยินชื่อตงฟางเสวี่ยสามคำนี้ รอยยิ้มสดใสในทีแรกก็พลันแข็งทื่อ ฝ่ามือกำหมัดโดยไม่รู้ตัว
แต่ไม่นานเขาก็คลายหมัดออก ยิ้มใหม่อีกครั้ง แล้วก้าวเดินออกไปอย่างมั่นใจ
ที่ห้องรับรองวีไอพีของสนามบิน เย่เฉิงเฟิงได้พบกับผู้หญิงสามคนที่สวมหมวกเบเร่ต์สีแดง ใส่เสื้อกล้ามสีดำพร้อมกับกางเกงขาสั้นลายพรางสีเทาอ่อน
พวกเธอแต่ละคนหุ่นเซ็กซี่ หน้าตาสวยงาม
แค่ยืนอยู่ตรงนั้น โดยไม่ต้องทำอะไรเลย ก็เป็นภาพที่น่ามองแล้ว
โดยเฉพาะขาเรียวสวยขาวผ่องนั้น ยิ่งน่าดึงดูดใจ กระตุ้นให้คิดไปไกล
“สวัสดีค่ะผู้บังคับบัญชา!”
ขณะที่เย่เฉิงเฟิงเข้าไปใกล้ สาวหุ่นแซ่บทั้งสามก็แสดงความเคารพอย่างพร้อมเพรียง ดูนอบน้อมอย่างยิ่ง
“ทำไมเป็นพวกเธอมารับ? ตาเฒ่าล่ะ?”
เย่เฉิงเฟิงมองซ้ายแลขวาสักพัก ก่อนกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจนิดหน่อย
“ร...รอคุณที่โรงแรมค่ะ”
หัวหน้าหญิงลอบเหงื่อซึม ในใจคิดว่าทั้งประเทศหัวเซี่ย คงมีผู้บังคับบัญชาเย่คนเดียวที่กล้าเรียกผู้นำสูงสุดของมังกรแฝงหงส์เร้นแห่งหัวเซี่ยว่าตาเฒ่าล่ะมั้ง?
ถึงแม้ชายชราผู้นั้นจะอายุไม่น้อย ผมหงอกเต็มหัว แต่ความจริงแล้วอำนาจที่ควบคุมอยู่เป็นรองแค่ผู้นำสูงสุดของประเทศหัวเซี่ยเท่านั้น
ในบางครั้ง ผู้นำสูงสุดของประเทศหัวเซี่ยยังต้องเปิดใจฟังคำแนะนำจากเขาเลย
ตัวตนระดับสุดยอดขนาดนี้ กลับถูกเย่เฉิงเฟิงเรียกว่าตาเฒ่าโดยไม่เกรงใจสักนิด!
“โอเค นำทางได้!”
เย่เฉิงเฟิงไม่ได้เจอคนที่อยากเจอในทันที จึงพึมพำด้วยความขุ่นเคืองอย่างอดไม่ได้ “ตาเฒ่านี่ยิ่งดำรงตำแหน่งก็ยิ่งถอยหลังกลับ ความปลอดภัยบนเครื่องบินทำไมถึงห่วยขนาดนั้น? พอฉันกลับประเทศก็เจอการปล้นเครื่องบินเลย เจอกันคราวนี้ก็จงใจเลือกโรงแรมอีก กำลังเล่นอะไรอยู่เนี่ย? หรือจะให้สามสาวสวยจากหน่วยหงส์เร้นมาค้างคืนกับฉัน?”
พอคิดถึงจุดที่ขำ เย่เฉิงเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะโอบเอวคอดเซ็กซี่ของหัวหน้าหญิง ฝ่ามือเลื่อนลงแล้วบีบบั้นท้ายกลมกลึงเด้งงอนของเธอ “เสี่ยวเยว่เยว่ ช่วงนี้กินดีอยู่ดีไปหรือเปล่า? ก้นใหญ่ขึ้นเยอะเลยนะ คราวก่อนเจอที่ลอสแอนเจลิสยังไม่ใหญ่ขนาดนี้เลย”
“ผู้บังคับบัญชาเย่!”
หญิงสาวสุดแซ่บที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวเยว่เยว่ ใบหน้าสวยแดงวาบขึ้นมา ทว่าไม่กล้าสลัดหลุดออกมาจากอ้อมกอดเย่เฉิงเฟิง “ฉันชื่อเหยียนอี๋เยว่ ไม่ใช่เสี่ยวเยว่เยว่ แล้วก็มือของคุณ...เลิกทำแบบนี้จะได้ไหมคะ? ถูกคนอื่นเห็นเข้ามันน่าอายนะคะ”
“เอ่อ ขอโทษนะ คราวหน้าฉันจะทำในที่ที่ไม่มีใครเห็นก็แล้วกัน”
เย่เฉิงเฟิงหัวเราะเจ้าเล่ห์
“ผู้บังคับบัญชา~”
เหยียนอี๋เยว่ลากเสียงยาว พลางกระทืบเท้า เง้างอนไม่เลิก
“ก็ได้ ไม่ล้อเธอเล่นแล้ว”
ทันใดนั้นเย่เฉิงเฟิงก็ทำหน้าจริงจัง “คราวนี้ตาเฒ่าจงใจสั่งให้ฉันกลับประเทศมาตั้งไกล มีภารกิจใหม่อะไรใช่ไหม?”
“ได้ยินว่าเป็นการคุ้มกันซีอีโอสาวสวยคนหนึ่ง” เหยียนอี๋เยว่กล่าว “แต่เรื่องรายละเอียด ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ”
“ปิดบังกับเธอด้วยเหรอ?” เย่เฉิงเฟิงขมวดคิ้ว สุดท้ายก็พูดขึ้นว่า “เรื่องนี้คงจะไม่ธรรมดา”
“ใช่ค่ะ ตาเฒ่า...เอ้ย ผู้บังคับบัญชาอาวุโสบอกว่า สำหรับผู้บังคับบัญชาเย่แล้ว น่าจะเป็นภารกิจที่ยากที่สุดตั้งแต่เคยมีมาเลยค่ะ”
“เสี่ยวเยว่เยว่ เธอเรียกเขาว่าตาเฒ่าแล้วนะ”
เย่เฉิงเฟิงชี้หยอกล้อเหยียนอี๋เยว่ทันที แล้วยิ้มตาหยีพลางพูดขึ้น “ฉันขอสั่งเธอ ติดสินบนฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันฟ้องแน่”
“ผู้บังคับบัญชาเย่!”
เหยียนอี๋เยว่ทำท่าน่าสงสารขึ้นมาทันที
ในใจกลับบ่นตำหนิไม่หยุดว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะนายเอาแต่พูดว่าตาเฒ่าซ้ำ ๆ ฉันจะเสียคนเพราะนายไหม?”
“ก็ได้ ครั้งนี้จะยกโทษให้เธอละกัน”
เย่เฉิงเฟิงตบ “เพี้ยะ” เข้าที่บั้นท้ายกลมกลึงเด้งงอนของเหยียนอี๋เยว่ ทำให้เหยียนอี๋เยว่กระโดดขึ้นมาอย่างขวยเขิน สีหน้าแดงขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับปูต้มสุก
“ผู้บังคับบัญชาแย่เกินไปแล้วนะคะ ฉันจะฟ้องว่าคุณลวนลามลูกน้องผู้หญิง”
“ถ้าเธอฟ้อง เดี๋ยวฉันจับเธอกินแน่”
เย่เฉิงเฟิงหัวเราะร้ายกาจ ก่อนจะมองไปที่พื้นที่จอดรถวีไอพีของสนามบินในขณะนี้ มีเพียงแลนด์โรเวอร์ เรนจ์โรเวอร์รุ่นใหม่ติดป้ายทะเบียนทหารคันหนึ่ง แถมยังเป็นรุ่นตัวท็อปฐานล้อยาว สีทองชายหาดอีปาเนมา
เขาจึงยิ้มพลางยื่นมือออกไป “เอากุญแจรถให้ฉันหน่อย ไม่น่าเชื่อว่าตาเฒ่าจะรู้ใจฉัน ดูท่าเรนจ์โรเวอร์คันใหม่ราคาเกือบสี่หลานคันนี้ ตั้งใจจะให้ฉันชัวร์”
“ผู้บังคับบัญชาเย่! จริง ๆ แล้วนี่...คือ...คือรถของหน่วยหงส์เร้นค่ะ”
เหยียนอี๋เยว่เอ่ยอย่างไม่ค่อยมั่นใจ
“แล้วของฉันล่ะ?”
“คุณไปถามผู้บังคับบัญชาอาวุโสเองดีกว่า”
หลังจากเหยียนอี๋เยว่ยื่นกุญแจรถให้เย่เฉิงเฟิง ก็ไม่กล้ามองเขาอีก
เรื่องนี้เธอทราบดี ถึงแม้ผู้บังคับบัญชาอาวุโสจะเตรียมรถประจำตำแหน่งสำหรับภารกิจกลับประเทศให้เย่เฉิงเฟิงโดยเฉพาะ แต่ความจริงแล้ว...เป็นแค่รถกระบะคันหนึ่ง แถมไม่รู้ว่าผ่านมากี่มือแล้ว
เธอพยายามอย่างมาก กว่าจะได้มาจากตลาดรถยนต์มือสองในราคา 4800 หยวน แถมเป็นเกียร์กระปุกอีกต่างหาก!
ถ้าเย่เฉิงเฟิงรู้ ต้องโมโหแน่นอน เธอจึงไม่กล้าพูดตอนนี้
“ก็ได้ เดี๋ยวกลับไปถามดู”
หลังจากเย่เฉิงเฟิงขึ้นรถ พลันนึกขึ้นได้เรื่องหนึ่ง จึงรีบพูดกับสมาชิกหน่วยหงส์เร้นอีกสองคนว่า “พวกเธอไปหาตำรวจอากาศที่ชื่อว่าหยางกั๋วตง แล้วจัดการพวกผู้ก่อการร้ายจากลัทธิสัจธรรมที่ฉันทำร้ายจนสลบบนเครื่องบินอย่างลับ ๆ ด้วย”
พูดจบ เย่เฉิงเฟิงก็ชื่นชมการตกแต่งภายในรถแลนด์โรเวอร์ เรนจ์โรเวอร์รุ่นใหม่คันนี้อย่างมีความสุข เอ่ยชมไม่หยุดปากเลย
จากนั้น เขารอเหยียนอี๋เยว่ขึ้นรถแล้วก็สตาร์ทรถ แล้วเหยียบคันเร่งแล่นออกมาจากพื้นที่จอดรถวีไอพีของสนามบินทันที
เมื่อถึงถนนนอกทางด่วน เย่เฉิงเฟิงก็พุ่งทะยานด้วยความเร็วเกือบสองร้อยไมล์ต่อชั่วโมง ขับแซงรถคันอื่นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางจราจรที่แออัด
ไม่ต้องพูดถึงเหยียนอี๋เยว่ที่นั่งเบาะข้างคนขับ แม้แต่เจ้าของรถคันอื่นที่ถูกแซงบนถนน ก็ยังหวาดกลัวใจหวิว
แต่โชคดีที่เย่เฉิงเฟิงมีทักษะขับรถยอดเยี่ยมมาก ตอบสนองรวดเร็วเกินคาด นับว่าตื่นตกใจแต่ไม่เกิดอันตรายมาตลอดทาง
ดังนั้นเมื่อถึงโรงแรมห้าดาวแห่งนั้นแล้วลงจากรถ เหยียนอี๋เยว่ก็รับกุญแจในมือเย่เฉิงเฟิงมาทันที แอบตัดสินใจว่าต่อไปจะไม่ให้ไอ้หมอนี่ขับอีก
ไม่อย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นใบสั่งปรับขับเร็วเกินกำหนดเอย ฝ่าไฟแดงเอย เธอต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
ประมาณห้านาที เหยียนอี๋เยว่ก็พาเย่เฉิงเฟิงมาถึงห้องชุดเพรสซิเดนเชียลสวีทของโรงแรม
“ตาเฒ่า คราวนี้เล่นบ้าอะไรฮะ?”
พอเย่เฉิงเฟิงเปิดประตู ก็ตะโกนใส่ทันที “เรื่องอะไรที่จัดการไม่ได้ ถึงขั้นต้องให้ผมกลับประเทศมาตั้งไกล?”
