EP24
หลายวันต่อมา… มหาลัย
"คิดอะไรอยู่หรอ" เสียงหยางพูดขึ้นข้างหูทำให้ฉันหลุดจากห้วงความคิดของตนเอง มันมีอะไรให้คิดในหัวเต็มไปหมด ทั้งเรื่องกระดาษที่แปะอยู่หน้าประตูห้อง หลังจากวันนั้นฉันก็ระวังตัวเองมาตลอดแต่ก็ยังไม่เกิดอันตรายอะไรขึ้น
"เปล่า นายเรียนเสร็จแล้วหรอ"
"เสร็จแล้ว ไปกัน"
"วันนี้เกลไปด้วยนะ"
"ได้ดิ" หยางพยักหน้าตอบ แล้วเป็นจังหวะเดียวกันกับเกลที่เดินลงมาจากตึกเรียนพอดี เราสามคนมีนัดไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันที่โรงอาหาร อาจารย์ปล่อยเซคของฉันกับหยางก่อนเลยได้มานั่งรอเกลที่ใต้ตึกเรียน
"หวัดดีเกล" หยางทักทายมิเกล ทั้งสองเคยเจอกันมาก่อนหน้านี้แล้ว
"หวัดดี"
"ไปกันเถอะ" ฉันบอกแบบนั้นแล้วพวกเราก็เดินมาที่โรงอาหาร พอมาถึงเกลก็เป็นคนอาสาเดินไปสั่งข้าวให้และรอเอา ฉันกับหยางเลยนั่งรออยู่โต๊ะ
"เมื่อวานพี่โย่วมาหาฉันที่บ้าน" ระหว่างความเงียบของเราหยางก็พูดขึ้น
"เกี่ยวกับเรื่องคุณพ่อคุณแม่หรอ"
"ใช่ รู้แล้วนะว่าท่านอยู่ที่ไหน" พอได้ยินคำนั้นใจฉันก็ชื่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก หูรอฟังในสิ่งที่หยางกำลังจะบอกต่อไป
"คุณพ่อกับคุณแม่ อยู่ที่ไหนหรอ"
"ซาอุดีอาระเบีย"
"แล้วรู้ไหมว่าอยู่ที่ไหนของซาอุ" น้ำเสียงฉันสั่นด้วยความตื่นเต้น ได้แต่ภาวนาให้พวกท่านมีชีวิตอยู่
"ไม่รู้อ่ะ พี่โย่วบอกแค่ว่าอยู่ที่นั่น แฝงกับประชากรของที่นั่น"
"ขอบคุณนะ ขอบใจจริงๆ" ฉันทำตัวไม่ถูก มันดีใจไปหมด ดีใจจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ ขอให้วันหนึ่งได้เจอกับพวกท่านสักที
"ดีใจล่ะสิ"
"มากๆเลย ขอบคุณนายกับพี่โย่วจริงๆนะ ถ้าไม่ได้นายกับพี่ชายเราคงไม่รู้ที่อยู่ของคุณพ่อกับคุณแม่แน่ๆ" ปากพูดแต่คำว่าขอบคุณแล้วจับมือหยาง เขาก้มมองมันแล้วยิ้มออกมา
"ไม่เป็นไร" เขายิ้มมองหน้ากัน แต่เสียงจานแตกที่อยู่ไม่ไกลนักก็ดังขึ้น เราสองคนหันไปมองก็เห็นแผ่นหลังของผู้ชายหนึ่งคนที่เดินหันหลังไป ฉันจำได้ว่าใคร…
…
คฤหาสน์ของชีลีน…
มือเรียวสวยลูบไล้ปกหนังสือสีดำที่สลักตัวหนังสือสีเงินเป็นรูปมังกรอย่างประณีต อยู่ข้างกันคือกล่องเหล็กที่มีกุญแจล็อกเอาไว้ รวมถึงรหัสในการเปิดกล่องวางอยู่บนที่นอนข้างกายหญิงสาว ชีลีนเปิดหนังสือขึ้นมา ข้างในไม่ใช่เนื้อกระดาษแต่เป็นซิมม่อนที่ถูกแกะสลักด้วยเพชรหายาก ราคาของเพชรที่แพงมหาศาลจนตีค่าไม่ได้ เพชรถูกสลักอย่างสวยงามมันเป็นตราสัญลักษณ์ของมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลมากอันดับต้นๆ ของโลก มันถูกสืบถอดกันมาเนิ่นนานผู้ครอบครองคือผู้มีอำนาจสูงสุด
"แน่ใจหรอคะว่าจะขนย้ายซิมม่อนไปไว้ที่อื่น" ชะชาที่มองการกระทำของเธออยู่ห่างๆเอ่ยถาม เธอเป็นคนที่ชีลีนไว้ใจมากที่สุดในระยะเวลาอันสั้น
"หากอยู่กับฉันนานกว่านี้ ซิมม่อนจะถูกขโมยไป"
"ชีลีนไม่ไว้ใจคู่หมั้นของตนเองหรอคะ"
"มนุษย์ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น" เธอตอบแล้วค่อยๆ ไล่ปลายนิ้วลูบไล้ ในเมื่อถูกมอบหมายให้ดูแลของมีค่ามากมายมหาศาลขนาดนี้ เธอก็จะดูแลมันเป็นอย่างดีแม้จะแลกด้วยชีวิตก็ตาม
"ได้ค่ะ ดิฉันจะทำตามที่ชีลีนสั่ง เราจะเก็บซิมม่อนไว้ให้ปลอดภัยที่สุด"
"ทำทุกอย่างให้เงียบที่สุด อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้" ชีลีนเอ่ยยํ้าอีกทีก่อนจะปิดหนังสือเอาไว้แล้วค่อยๆวางมันไว้ในกล่อง เธอกดรหัสปิดเอาไว้ก่อนจะใช้กุญแจล็อกอีกชั้นโดยการกระทำทุกอย่างอยู่ในสายตาของชะชาผู้ดูแลส่วนตัวของเธอ
"ได้ค่ะ"
"ฉันไว้ใจเธอได้ใช่ไหม" หลังจากเก็บซิมม่อนไว้ในกล่องแล้วดวงตาคู่สวยก็ปรายมองชะชาที่ยืนสอดประสานมือกันเอาไว้อยู่
"ตลอดระยะเวลาหลายเดือน ดิฉันรับใช้ชีลีนด้วยชีวิตและจิตใจค่ะ"
"ฉันไว้ใจเธอ รีบจัดการให้เสร็จแล้วมารายงานฉัน"
"รับทราบค่ะ" รักคำสั่งจากเจ้านายเสร็จชะชาก็เดินมาอุ้มกล่องอย่างระวังก่อนจะเดินมายังหน้าคฤหาสน์ที่ตอนนี้คนของชีลีนราวสิบคนกำลังเตรียมตัวรอ เพื่อขนย้ายซิมม่อนไปไว้ในที่ที่ปลอดภัยมากที่สุด
…
บริษัทในนามของเอ็มเจ…
"ซิมม่อนถูกขนย้ายแล้วครับ" ภายในห้องลับของบริษัท อาโปเอ่ยขึ้นหลังมีสายรายงานมาว่าชีลีนได้ขนย้ายซิมม่อนไปไว้ที่อื่นแล้ว
"ขนไปไว้ที่ไหน"
"ยังไม่ทราบครับ โดนสับขาหลอก ตอนนี้คล้ายกับว่าเธอรู้แล้วว่ามีคนต้องการซิมม่อน"
"ยังไม่รู้ใช่ไหม ว่ามึงเป็นคนของกู"
"ยังครับ ไม่มีใครรู้ว่าผมรับใช้คุณอยู่"
"อย่าให้ใครรู้โดยเฉพาะชีลีน ตามหาซิมม่อนให้เจอโดยเร็วที่สุด กูขี้เกียจจะรอแล้ว"
"ได้ครับคุณเอ็มเจ" อาโปรับคำสั่ง ก่อนที่ร่างของเอ็มเจจะลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกมาจากห้องพร้อมกับเทสล่า ชายหนุ่มยังคงสวมชุดนักศึกษาเหมือนกับทุกครั้งที่มาที่นี้
"ผมว่าเธอกำลังสงสัยพี่อยู่" ในขณะที่ทั้งสองอยู่ในลิฟต์เทสล่าก็พูดขึ้น
"สงสัยและหมายหัวแต่ก็ยังไม่รู้ความจริง"
"แต่เธอทำทุกอย่างเงียบมาก ทั้งที่เราก็คอยสังเกตเธออยู่เหมือนกัน"
"กูเคยบอกแล้วว่าชีลีนฉลาด" พูดจบก็เป็นสัญญาณกับที่ลิฟต์เปิดออกมาพอดี บทสนทนาระหว่างทั้งสองคนจึงเงียบ
…
"เกล เกลเคยมีแฟนมั้ย" ในช่วงเย็นของวันภายในร้านกาแฟ หลังจากที่ทั้งสองทำงานเสร็จแล้วเตรียมตัวกำลังจะกลับ สองสาวก็มานั่งคุยกันเพื่อพักเหนื่อย
"ถามทำไม" เกลทิ้งผ้าเช็ดโต๊ะ แล้วทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้ตัวที่ว่าง
"เราแค่อยากรู้ ว่าคนที่เขาชอบเรา เขามีอาการแบบไหน"
"ผู้ชายหรอ?"
"ใช่"
"แล้วแต่คนละมั้ง บางคนรักก็แสดงออกมาว่ารัก ชอบก็แสดงออกมาว่าชอบ แต่บางคนก็แสดงออกมาไม่เป็น" มิเกลอธิบายส่วนคนถามก็ตั้งใจฟังแล้วพยายามนึกถึงเอ็มเจ เพราะเขาไม่มาเจอเธอหลายวันแล้วตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น ทำไมถึงต้องสนใจเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน
"แสดงออกมาไม่เป็น คือแบบไหนหรอ"
"ปากพูดอีกอย่าง การกระทำอีกอย่าง"
"เขาพูดตรงข้ามกับการกระทำตัวเองใช่ไหม ที่เรียกว่าแสดงออกไม่เป็น"
"เคยรักใครไหม เธอจะทำแบบนั้นกับเขา ลองสังเกตดูว่าคนคนนั้นทำเหมือนกันรึเปล่า" พูดแค่นั้นมิเกลก็ลุกขึ้นทำให้มุกดานั่งคิด คนเราการกระทำมันสำคัญกว่าคำพูด บางคนพูดว่ารักออกมาไม่เป็นแต่การกระทำแสดงออกมา แล้วเอ็มเจล่ะหรือว่าเขาเป็นคนที่แสดงออกไม่เป็น…
