EP17
ชีลีนเดินออกจากห้องครัวไปแล้ว เอ็มเจถอนหายใจออกมาแล้วยกมือขึ้นเสยผมหน้าตนเอง ก่อนที่เขาจะเดินออกมานอกบ้านแล้วเปิดประตูขึ้นไปบนรถที่เทสล่ากำลังนั่งรออยู่
"ไหนบอกจะนอนค้างไงครับ"
"กูบอกถ้าเกินสามสิบนาทีคือค้าง ถ้าไม่ถึงแปลว่าไม่ค้าง"
"ตอนนี้ยังไม่เกิน"
"ก็แปลว่าไม่ค้างไงไอ้โง่" เทสล่าสะดุ้งกับคำด่าของเอ็มเจ ก่อนที่เขาจะเริ่มสตาร์ทรถและขับออกมา ชายหนุ่มเริ่มชินกับตัวเองที่เป็นเหมือนสนามอารมณ์
"ทำไมสีหน้าดูเคร่งเครียดจังเลยครับ เกิดอะไรขึ้นหรอ"
"เหมือนชีลีนกำลังคอยระวังตัวและจับผิดกูอยู่"
"คงเป็นเรื่องปกติของเธอนะผมว่า"
"ตอนนี้อย่าพึ่งเคลื่อนไหวอะไร"
"แต่ดูเหมือนว่าเธอรักพี่จริงๆ นะครับถึงยอมหมั้นด้วย" ชีลีนชอบเอ็มเจจริงๆ แต่มันก็ยังมีความระแวงอยู่ เพราะเธอถูกสอนมาให้ไม่ต้องใจมนุษย์คนไหน
"รักมากตอนเกลียดก็เกลียดมาก ยิ่งถ้าโดนคนที่ตนเองรักหักหลังก็เหมือนปลุกปีศาจขึ้นมาในตัว"
"ก็จริงอย่างที่พี่พูด"
"ส่งคนคอยคุ้มกันเด็กนั้นด้วย แล้วให้รายงานฉันตลอด"
"กลัวคุณชีลีนรู้หรอครับ ว่าพี่มีเด็กอีกคน"
"กูทำเพราะไอ้คินขอ"
"แต่พี่จะส่งเธอให้ใครก็ได้นิครับ ไม่เห็นจะต้องเอาอยู่ใกล้ตัวเองแบบนี้ เพราะความจริงแล้วยิ่งอยู่กับคุณยิ่งเสี่ยงอันตราย"
"อย่าพูดมากแล้วขับรถไป"
"หรือความจริงแล้ว เพราะชอบเธอหรอครับ?" คำถามนั้นทำให้เอ็มเจนิ่ง เขาลองคิดทบทวนคำถามของเทสล่า มือซ้ายที่เหมือนลูกพี่ลูกน้อง ชอบแบบนั้นหรอ ไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกชอบรึเปล่า เห็นครั้งแรกก็รู้สึกไม่เหมือนที่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหน ติดกลิ่น ติดสัมผัสและติดเธอ ไม่อยากให้ไปไหนไกลแล้วก็ไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่ง แต่คนแบบเขาจะชอบใครบางคนจริงๆหรอ คงแค่เพราะว่ากำลังสนุกกับของเล่นชิ้นใหม่อยู่ยังไม่ถึงคราวที่ต้องเบื่อ
"กูไม่ได้ชอบเด็กนั้น"
"ผมจะรอดู ว่าเป็นอย่างที่พี่พูดรึเปล่า"
"ถ้ากูชอบ มึงเอาตีนเตะปากกูได้เลย"
"…" คำพูดของเอ็มเจทำให้เทสล่ากลั้นขำ แต่เขาก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไปและตั้งใจขับรถ
…
@หอพักมิเกล
"จะเล่าได้รึยังว่ามีเรื่องอะไร" มิเกลถามคนข้างกายที่เอาแต่นั่งเงียบตั้งแต่มาถึง ไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วมุกดาโทรถามหอพักของเธอแล้วบอกว่าจะมาหาเพราะมีเรื่องจะคุยด้วย ซึ่งเป็นเวลาเลิกงานของมิเกลพอดี เธอเลยมารับมุกดาตรงจุดนับพบแล้วกลับมาที่ห้องด้วยกัน
"เราอยากทำงานอ่ะ เกลช่วยเราหางานหน่อยได้มั้ย"
"จะรอดหรอ ลูกคุณหนูแบบเธอ"
"ลองสอนเดี๋ยวเราก็ทำเป็น เราอยากมีเงินเยอะๆ เพราะมีสิ่งจำเป็นจะต้องใช้"
"เดี๋ยวลองคุยกับผู้จัดการร้านให้"
"ขอบคุณนะ" มุกดาฉีกยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เธออยากทำงานเพื่อเก็บเงิน เพราะต้องใช้จ่ายในการตามหาพ่อและแม่ และพี่ชายของหยางเองก็รับปากว่าจะช่วย เพราะงั้นเธอต้องหาเงินให้ได้เยอะที่สุดแล้วเร็วที่สุด อีกอย่างเงินเก็บที่ภาคินให้มา มันเยอะก็จริงแต่มันก็มีหลายอย่างที่ต้องใช้
"เธอดูเศร้าอีกแล้วนะ"
"เรา คิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่อ่ะ"
"ถามได้มั้ย ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้อยู่กับครอบครัวแบบนั้นหรอ"
"ไม่อ่ะ คุณพ่อกับคุณแม่หายตัวไปได้หลายเดือนแล้ว"
"เธอถึงต้องการใช้เงินใช่ไหม"
"ใช่ เรากำลังตามหาท่าน" พอได้รู้เรื่องคร่าวๆ มิเกลก็เข้าใจเธอทันที หญิงสาวเลื่อนมือมาแล้วบีบมือมุกดาเบาๆ เหมือนให้กำลังใจ
"ขอให้เจอเร็วๆนะ มีอะไรบอกฉันได้ ถ้าช่วยได้จะช่วย"
"อื้อ" ใบหน้าหวานพยักหน้าตอบ แล้วส่งยิ้มอ่อนๆ ให้มิเกล อย่างน้อยๆ เธอก็เจอเพื่อนถึงสองคนที่ดีกับเธอ
…
@วันต่อมา
"มุกดา" ในขณะที่มุกดากำลังเดินเข้ามาในคณะ เสียงเรียกของหยางก็ดังขึ้น เธอหันไปมองก็เห็นหยางรีบวิ่งเข้ามาหา
"มีอะไรหรอ"
"ฉันซื้อนํ้าเต้าหู้มาฝาก" หยางพูดพร้อมกับยกถุงนํ้าเต้าหู้ขึ้น
"ขอบคุณนะ" เธอยิ้มให้แล้วยื่นมือออกไปรับ แล้วหยางก็มาเดินข้างกายเธอเข้าไปคณะพร้อมกัน
"เป็นยังไงบ้าง"
"หมายถึงเรื่องอะไร"
"เรื่องคุณพ่อกับคุณแม่เธอไง"
"เรากำลังทำงานอ่ะ ต้องใช้เงินในการตามหา"
"เอางี้ไหม ถ้าฉันแข่งรถชนะ ฉันจะช่วยเธอครึ่งหนึ่ง"
"มันมากเกินไป แค่นี้ก็รบกวนมากแล้ว"
"ยืมก่อนก็ได้ ไว้เธอเจอคุณพ่อกับคุณแม่ค่อยเอามาคืนฉัน โอเคไหม~~" หยางพูดแล้วยกมือขึ้นยีผมมุกดาเล่นด้วยความเอ็นดู และการกระทำของทั้งสองก็อยู่ในสายตาของเอ็มเจตลอด เขามองทั้งสองคนอยู่หลังเสาขนาดใหญ่ใต้ตึกเรียน
พอลับร่างของสองคนนั้นไปภายในใจมันก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เจ็บจนอยากจะสั่งสอนคนที่มันกล้ามายุ่งกับของของเขา เอ็มเจกำหมัดแน่นก่อนที่ร่างหนาจะเดินมาที่ชมรม ซึ่งตอนนี้มีแค่เมฆากับฟีฟ่านั่งอยู่ พอเข้ามาฟีฟ่าก็ทักทายก่อนใคร
"มึงเป็นเหี้ยไรวะ หน้าเหมือนหมาโดนเจ้าของทิ้ง" คำทักทายนั้น ทำให้เอ็มเจขมวดคิ้วยุ่งหงุดหงิดกว่าเดิมก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา
"…"
"กูถามมึงหูหนวกรึไง" ฟีฟ่าสงสัยเลยถามออกไปอีกครั้ง แต่เอ็มเจที่กำลังใช้ความคิดอยู่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับกดอะไรบางอย่างในโทรศัพท์ ไม่นานเขาก็ได้ข้อความตอบกลับมา ก่อนจะกดส่งให้ฟีฟ่า
Line!
"นั่งอยู่ด้วยกันมึงจะส่งไลน์มาทำควยไร" ฟีฟ่าสบถออกมาแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอ่านข้อความ
"ไอ้เหี้ยนี้คือคนที่มึงเห็นวันนั้นใช่ไหม"
"เออ ทำไมวะ"
"หาอะไรทำสนุกๆ ดีกว่า"
"มึงจะทำอะไร"
"ไปดูกูเล่นอะไรเสียวๆ ไหม" คำพูดของเอ็มเจทำให้ฟีฟ่าเริ่มปะติดปะต่อเรื่อง ก่อนจะส่ายหัวเอือมระอากับความคิดเพื่อนตนเอง
"มึงจะทำอะไรน้องหน้าตี๋"
"ไม่มีอะไรหรอก แค่จะหยอกเล่นนิดหน่อย" เอ็มเจพูดออกมาแล้วนึกสนุกอยู่ในหัว ก่อนที่รอยยิ้มชั่วร้ายจะผุดขึ้นบนใบหน้า ทำให้ฟีฟ่าที่มองอยู่รู้ว่าเพื่อนตัวเองกำลังคิดจะทำอะไรชั่วร้ายแน่ๆ แต่แค่ไม่รู้ว่าอะไรแค่นั้นเอง
"หยอกเล่นเหี้ยอะไรของมึง ฆ่าคนไม่ได้เรียกว่าหยอกเล่นนะ"
"ใครบอกกูจะฆ่า บอกไปแล้วแค่เล่นอะไรสนุกๆ เท่านั้นเอง" อะไรสนุกๆ กับแววตาของเอ็มเจตอนนี้มันขัดกันอย่างชัดเจน ฟีฟ่ารู้สึกว่าชะตาของหยางอี๋คงใกล้จะขาดเต็มทนแล้ว เพราะคนอย่างเอ็มเจเขาไม่เคยหยอกเบาๆแน่นอน…
