2 ท่านหญิงกำมะลอ (3)
แม่นมลีนาร่าร้องไห้หนักกว่าเดิม อีกทั้งรั้งตัวราอีสเข้าไปกอดไว้ “ข้าเสียใจ... ข้าขอโทษ อภัยให้ข้าด้วยท่านหญิง ที่ข้าดูแลท่านไม่ดี”
“ไม่ร้องไห้นะขอรับ ข้าเป็นเด็ก ยังไม่ร้องไห้เลยท่านเป็นผู้ใหญ่แล้วอย่าขี้แยสิ”
แม่นมยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อได้รับคำปลอบใจ
“เจ้ามันพูดจาฉอเลาะนักราอีส”
“ท่านต้องเรียกข้าว่าท่านหญิงสิท่านแม่นม ข้าจะเป็นท่านหญิงซาเนียร์ให้ท่านนะเจ้าคะ” เด็กน้อยยิ้มบางพยายามปลอบใจ
“เจ้าค่ะท่านหญิง”
แม่นมกอดเด็กชายตัวน้อยเอาไว้ แต่ราอีสก็ดิ้นขลุกขลักเพื่อประท้วง
“ท่านกอดข้าบ่อย ๆ ข้าเขินเป็นนะขอรับ”
แม่นมยิ้มอย่างเอ็นดูในความน่ารักของเด็กชายตัวน้อย ซึ่งนางยอมปล่อยตัวเด็กน้อยให้เป็นอิสระแต่โดยดี
“เอาล่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว ท่านควรเข้านอนเพื่อพักผ่อนได้แล้วนะเจ้าคะ พรุ่งนี้ข้าจะได้พาท่านเข้าพบท่านชีคอีกครั้ง”
“เจ้าค่ะ” ราอีสรับคำ
ก่อนลุกขึ้นไปจากตักอุ่นของแม่นมแล้วรีบไปล้มตัวบนเตียงนอนอย่างว่าง่าย ซึ่งแม่นมลีนาร่าได้ลุกขึ้นมาห่มผ้าให้กับเด็กน้อย แล้วก็อดอมยิ้มให้กับความน่ารักของราอีสอีกไม่ได้
แสงแดดอ่อนอุ่นที่ส่องผ่านเข้ามาในกระโจมปลุกให้เด็กชายตัวน้อยที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มขนแกะแสนนุ่มตื่นขึ้นมา ราอีสรู้แค่ว่าชีวิตของเขาได้เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
วันนี้ไม่มีอะไรเหมือนเมื่อวาน อย่างน้อย ๆ เขาก็ไม่ต้องนอนหนาวในคอกสัตว์เหมือนเมื่อคืนก่อนและที่สำคัญเขาไม่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อช่วยน้าเขยขนฟืน และนำเครื่องรางที่น้าสาวทำขึ้นไปขายในตลาดอย่างเคย นอกจากนี้เขายังมีอาหารเลิศรส ขนมที่แสนอร่อย อีกทั้งยังมีเสื้อผ้าที่งดงามไว้สวมใส่
ราอีสรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันเลยทีเดียว เพราะการอยู่ที่นี่ช่างสุขสบายเสียเหลือเกิน
แต่นั่นล่ะ ทุกอย่างจะลงตัวและดีกว่านี้มาก หากเขาไม่ต้องปลอมตัวเป็นท่านหญิงคนนั้น...เด็กน้อยอ้าปากหาวหวอด พลางบิดขี้เกียจไปมาเพื่อไล่ความเมื่อยขบ พอก้าวลงจากที่นอนเท่านั้นแม่นมลีนาร่าจึงยกอ่างทองเหลืองใส่น้ำสะอาดมาให้ล้างหน้า
“เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ ให้ข้าทำเองก็ได้ท่านแม่นม”
“ไม่ได้เจ้าค่ะ นี่เป็นหน้าที่ของข้า ท่านหญิงรีบล้างหน้าเถอะ เดี๋ยวข้าจะเตรียมอาหารเช้าให้”
“เจ้าค่ะ” ราอีสรับคำและปฏิบัติตามคำสั่งอย่างว่าง่าย
พออิ่มท้องกับอาหารเช้าเลิศรสแล้ว เด็กชายตัวน้อยจึงถูกแม่นมจับแต่งตัวด้วยชุดพื้นเมืองที่งดงามอีกครั้ง ซึ่งชุดที่ราอีสต้องสวมในเช้าวันนี้เป็นชุดพื้นเมืองสีเขียวใบไม้
ตัวเสื้อเป็นรูปคอวี แขนสั้นปักลูกปัดเม็ดเล็ก เผยให้เห็นหน้าท้อง และสะดือ ส่วนกระโปรงสีเดียวกับตัวเสื้อและยาวถึงตาตุ่มเด็กชายตัวน้อยต้องสวมผ้าคลุมศีรษะ และคงไว้ซึ่งความรุ่มร่ามเฉกเช่นเคย
“ทำไมผู้หญิงถึงต้องพิถีพิถันเลือกเสื้อผ้าด้วยล่ะแม่นม?”
ราอีสอดสงสัยไม่ได้ เพราะเขาต้องสวมเสื้อผ้าหลายชิ้นในเวลาเดียวกันนั่นเอง อีกทั้งต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อยเกินความจำเป็นอีกด้วย
นางลีนาร่าอมยิ้มกับความช่างสงสัยของเด็กน้อย
“นี่คือชุดพื้นเมืองที่พวกเราควรภาคภูมิใจนะเจ้าคะ”
“แต่จำนวนชิ้นมากมายเหลือเกิน แค่เสื้อตัวนอกไม่พอ ยังต้องมีเสื้อคลุมอีก ทั้ง ๆ ที่ผ้าคลุมก็มีอยู่แล้ว”
เด็กชายตัวน้อยไม่วายบ่นอุบ
“เรื่องความสวยความงามเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้หญิงอย่างเราเจ้าค่ะ ท่านเองก็เช่นกันควรใส่ใจกับเรื่องนี้ให้มาก ๆ เพราะการที่เราสวย ดูดีอยู่ตลอดเวลา จะทำให้เรามีคุณค่า”
“เฮ้อ... เป็นสตรีช่างยุ่งยากนัก” เด็กชายตัวน้อยบ่นอุบ
“อีกหน่อยท่านก็จะชินไปเอง”
ราอีสส่ายหน้าไม่เห็นด้วย
“ข้าไม่ชอบเสื้อผ้าเหล่านี้เลย เคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวก”
ด้วยว่าเด็กชายตัวน้อยคุ้นชินกับเสื้อผ้าตัวหลวมโคร่งซึ่งได้รับมาจากเพื่อนบ้านมากกว่า อีกอย่างการสวมใส่ชุดพื้นเมืองของผู้หญิง ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับราอีส เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เด็กชายตัวน้อยต้องมาแต่งกายเป็นหญิงนั่นเอง!
“เสื้อผ้าพวกนี้มีความสำคัญมากนะเจ้าคะ นอกจากเสื้อผ้าจะช่วยปกปิดร่างกายแล้ว เสื้อผ้าพวกนี้จะทำให้เด็กผู้หญิงอ่อนหวานและน่ารักขึ้น เพื่อให้สมฐานะว่าท่านคือบุตรีของท่านชีคฮาเหม็ด บายูดาผู้ยิ่งใหญ่”
แม่นมบอกยิ้ม ๆ พลางรูปแก้มเด็กน้อย จากนั้นนางจึงหันไปหยิบเครื่องประดับชิ้นน้อยในหีบไม้มาบรรจงสวมให้กับราอีส“สวมเครื่องประดับด้วยนะเจ้าคะ”
ราอีสมองเครื่องประดับในมือของแม่นมลีนาร่า พลางย่นคิ้วเข้าหากัน “ข้าไม่สวมของพวกนี้ได้มั้ย?”
“ไม่ได้เจ้าค่ะ เครื่องประดับจะทำให้ท่านสง่างาม”
“เสื้อผ้าก็ทำให้ข้างดงามแล้ว”
แม่นมลีนาร่าส่ายหน้าช้า ๆ “ท่านต้องใส่เจ้าค่ะ”
“แต่ข้ากังวลว่าจะทำให้มันหล่นหาย”
“เช่นนั้นท่านหญิงควรเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น และรักษาสิ่งนี้ให้ดี”
ราอีสหลุบตามองสร้อยข้อมือซึ่งประดับด้วยทับทิมงดงามอีกครั้ง พลางถอนหายใจเบา ๆ ถึงเครื่องประดับจะงดงาม แต่เขาก็ไม่ชอบใจอยู่ดี
“เป็นผู้หญิงช่างยากลำบากแท้”
แม่นมลีนาร่าอมยิ้มด้วยความเอ็นดู
