ตอนที่ 7 ไม่พอใจก็กลับไป
หลายวันผ่านไป
ช่วงสายเวรวันหยุด
ถุงแป้งรู้สึกปวดท้องเบา ๆ ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ หลังจากปัสสาวะเสร็จก็ใช้ทิชชูเช็ดทำความสะอาดกำลังจะทิ้งทิชชูลงถังขยะเห็นทิชชูมีเลือดติดอยู่ ถุงแป้งตาสว่างมองชัด ๆ แล้วหยิบทิชชูแผ่นใหม่มาเช็ดก็มีเลือดติดออกมาอีก ถุงแป้งหน้าเครียดใจคอไม่ดีรีบล้างหน้าแปรงฟันแต่งตัวไปหาหมอแต่ปวดท้องหนักขึ้นขับรถไม่ไหว ดูเวลาคิรินน่าจะออกไปทำงาน ถุงแป้งหน้าซีดหายใจเข้าออกลึก ๆ พยายามตั้งสติโทรหาเพื่อนตัวเองและน้ำรินก็ไม่มีใครรับสายเลยตัดใจโทรไปหาพาทิศให้มารับพาไปส่งโรงพยาบาล
ภายในห้องตรวจ
หลังจากการตรวจครรภ์ คุณหมอให้พาทิศเข้ามาฟังการวินิจฉัยด้วยกันว่าถุงแป้งเสี่ยงภาวะแท้งคุกคาม พยายามอย่าเครียดและเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุดนอนนิ่ง ๆ ทั้งวันได้ยิ่งดีอดทนอย่างน้อยอีกสี่สัปดาห์
ถุงแป้งหน้าซีดยิ่งรู้ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่ งานก็ต้องทำยังลาคลอดไม่ได้ให้นอนนิ่ง ๆ จะเอาเงินที่ไหนกิน พาทิศจับมือถุงแป้งส่งสายตาให้กำลังใจ
ระหว่างรอยาบำรุงครรภ์ ถุงแป้งนั่งนิ่งหน้าตาอิดโรยน้ำตาไหลทำไมถึงมีแต่เรื่องแย่ ๆ ถาโถมเข้ามาช่วงเวลาเดียวกันจนแทบแบกรับไว้ไม่ไหว พาทิศมองนั่งเศร้าแล้วสงสาร
“ขอให้ทิศทำหน้าที่สามีและพ่อนะ ทิศจะดูแลแป้งกับลูกเอง” พาทิศพูดอย่างประหม่ากลัวถุงแป้งจะไม่อนุญาต
“..............” ถุงแป้งนั่งนิ่งเงียบไม่พูดจาทุกอย่างตีกันอยู่ในหัวสับวนคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงกับชีวิตต่อไป
หลายวันผ่านไป
ห้องพักคอนโดของถุงแป้ง
พาทิศนอนบิดขี้เกียจบนโซฟาแคบ ๆ ชะเง้อมองผ่านกระจกกั้นเห็นถุงแป้งนอนหลับสบายอยู่ในห้องนอน เขาลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปซื้อโจ๊กกับน้ำเต้าหู้และอาหารจากหน้าปากซอยมาเตรียมไว้ถุงแป้งตอนตื่น เมื่อจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยก็นั่งทำงานออนไลน์ที่ห้องนั่งเล่นมีแค่บางครั้งที่ต้องเข้าออฟฟิศ ส่วนถุงแป้งทางที่ทำให้ลาคลอดก่อนล่วงหน้าเพราะมีความเสี่ยงช่วงลาหลังคลอดของเธอเลยเหลือแค่สองเดือนถือว่ายังดีที่บริษัทอนุโลมให้ ถุงแป้งอยู่แต่ในห้องนอกจากลุกเข้าห้องน้ำแล้วเธอมักจะนอนอยู่บนเตียงเป็นหลักไม่ค่อยขยับเขยื้อนไปไหนดูซีรี่แก้เบื่อให้ผ่านพ้นไปวัน ๆ
เย็นวันหนึ่ง
พาทิศออกไปที่ออฟฟิศตั้งแต่ช่วงกลางวันและคิดว่าจะกลับมาช่วงเย็นซื้ออาหารมาฝากถุงแป้งแต่วันนี้การจราจรติดขัดพาทิศติดแง็กอยู่บนถนนรถเคลื่อนได้ทีละนิด ๆ ยังไม่รู้ว่าจะถึงคอนโดเมื่อไหร่เลยสั่งอาหารเดลิเวอร์รี่ผ่านแอพให้เอาไปส่งที่คอนโด
หน้าห้องของถุงแป้ง ร่างอวบท้องโตกำลังก้าวเดินอย่างระวังออกมาจากห้องเพื่อลงไปเอาอาหารที่ชั้นล่างหน้าคอนโด พอดีกับคิรินที่เพิ่งเดินเอาถุงขยะไปทิ้งแล้วเดินกลับเจอถุงแป้งพอดี
“ออกมาทำอะไรพี่?”
“ไปเอาอาหารหน้าคอนโด”
“ไม่โทรบอกผมล่ะ เดี๋ยวไปเอาให้ เข้าไปนอนพักเลยเดินออกมาทำไมก็ไม่รู้” คิรินบ่นอุบช่วยประคองถุงแป้งเข้าไปในห้อง
“พี่ไม่รู้ว่าวันนี้เคนหยุด ขอบใจนะ” ถุงแป้งหันมองคิรินแล้วยิ้ม ๆ ไม่เจอหนุ่มน้อยจอมกวนมาหลายวันตั้งแต่พาทิศมาอยู่ด้วยคิรินก็ไม่มาหาอีกเลย
เกือบสองทุ่ม
พาทิศกลับมาที่คอนโดเมื่อเปิดเข้าไปในห้องเห็นคิรินนั่งคุยเล่นอยู่กับถุงแป้งก็เกิดอาการไม่พอใจ
“เข้ามาห้องคนอื่นตอนผัวเขาไม่อยู่ได้ไง”
“เมียคุณชวนผมเข้ามา” คิรินลุกขึ้นยืนเลิกคิ้วหน้าตายียวน พาทิศจ้องหน้าชายหนุ่มที่ทำหน้าตากวนประสาทน่าโดนจัดสักหมัด
“เคนไปเอาอาหารข้างล่างให้เลยชวนกินข้าวด้วยกัน” ถุงแป้งพูดแทรกรู้ว่าคิรินไม่ชอบพาทิศ อาจกวนโมโหกันจนเป็นเรื่องเป็นราว
“ผมกลับก่อนนะพี่” คิรินพูดกับถุงแป้งแล้วเดินกวน ๆ ออกไปจากห้อง
“ทีหลังอย่าพามันเข้ามาอีก” พาทิศหันมาฉุนเฉียวใส่ถุงแป้งต่อ
“ที่นี่ห้องแป้ง ถ้าทิศไม่พอใจก็กลับไป” ถุงแป้งลุกขึ้นมองเคืองแล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปในห้องนอน พาทิศได้แต่ข่มความโมโหและอึดอัดเพราะสิ่งที่เขาเคยผิดพลาดทำให้ทำอะไรไม่ได้สักอย่างแม้แต่หึงหวงเมียตัวเอง.....
หนึ่งเดือนผ่านไปอายุครรภ์ครบเก้าเดือน
โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
ถุงแป้งคลอดลูกสาวตาโตบ้องแบ๊วผิวขาวใสน่าเอ็นดูชื่อน้องอันนา ญาติและเพื่อน ๆ ต่างมาเยี่ยมต้อนรับสมาชิกใหม่ ถุงแป้งรับสีหน้าอ่อนเพลียไม่ได้พักผ่อนแต่ก็ใจสู้ต้อนรับแขกเอาของมีค่ามารับขวัญหลาน อันนาจะได้มีขวัญถุงเก็บไว้ตั้งแต่เด็ก
แม่ของถุงแป้งเดินทางช่วยเลี้ยงหลาน ทว่าที่อยู่อาศัยเป็นคอนโดห้องติด ๆ กันไม่ค่อยเก็บเสียงเวลาเด็กเล็กร้องงองแงได้ยินชัดจนถูกเพื่อนร่วมชั้นร้องเรียนไปยังนิติบุคคล
“พ่อกับแม่มาอยู่กรุงเทพได้ไหม เดี๋ยวแป้งหาเช่าบ้านเป็นทาวเฮ้าส์ให้อยู่” ถุงแป้งปรึกษากับแม่หาทางออกที่จะทำให้ทุกอย่างลงตัว
“พ่อเขาอยู่กรุงเทพ มลพิษมันเยอะโรคหอบจะกำเริบ ถ้าให้อยู่ที่โน่นคนเดียวแม่ก็ห่วง” แม่หน้าเครียดห่วงสองทางไม่ว่าจะลูกหลานหรือสามี
“แป้งต้องทำงานที่นี่ กลับไปอยู่บ้านก็ไม่รู้จะทำมาหากินอะไรที่จะได้เงินเยอะพอเลี้ยงทุกคน”
“เอาหลานไปอยู่บ้านแม่สิ แม่จะเลี้ยงหลานให้แป้งไปหาลูกเดือนละครั้งก็ได้”
“แป้งอยากอยู่ใกล้ลูกทุกวัน ไม่อยากเป็นเหมือนพ่อแม่คนอื่นที่เอาลูกไว้ต่างจังหวัดพอเจอหน้ากันทีลูกก็ไม่ค่อยเข้าใกล้”
“แล้วจะทำยังไงจ้างคนเขาเลี้ยงเหรอ?”
“ไม่อยากฝากเลี้ยง มีข่าวว่าเด็กถูกทำร้ายบ่อย ๆ” เธอถอนหายใจยาวสีหน้าคร่ำเคร่งตลอดเวลา พาทิศนอนเล่นอยู่กับลูกได้ยินการสนทนาเลยเดินออกมาเสนอทางออกอีกทาง
“พาลูกไปให้แม่ทิศเลี้ยงได้นะ ย่ากับทวดช่วยเลี้ยงได้ แป้งจะได้ทำงานไม่ต้องกังวล ถ้าแป้งไม่อยากอยู่บ้านทิศเลิกงานก็ไปรับลูกกลับมานอนที่นี่ก็ได้” พาทิศคิดวางแผนให้เป็นฉาก ๆ เพราะมองจากสีหน้าถุงแป้งแล้วรู้ว่าเธอไม่อยากอยู่บ้านนั้นอีก ถุงแป้งครุ่นคิดหากให้ย่าเลี้ยงก็ไว้ใจได้ค่าเลี้ยงก็ไม่แพงอีกอย่างบ้านอยู่ไม่ไกลกับคอนโดสามารถไปรับไปส่งทุกวันได้ ถุงแป้งนั่งคิดสักพักก็ตอบตกลงนั่นทำให้พาทิศยิ้มกว้างดีใจอีกหน่อยทุกอย่างจะเป็นความเคยชินแล้วถุงแป้งก็จะกลับไปอยู่กับเขาเหมือนเดิม
ค่ำคืนวันนั้น
ถุงแป้งส่งข้อความบอกคิรินเรื่องที่จะพาลูกไปฝากเลี้ยงไว้บ้านสามี
ข้อความจากคิริน “พี่จะกลับไปคืนดีกับเขาเหรอ”
ข้อความจากถุงแป้ง “ยังไม่รู้เลยต้องดูความประพฤติก่อน ลูกสองขวบค่อยคิดอีกทีว่าจะให้อภัยไหม”
ข้อความจากคิริน “โชคดีนะพี่..........ผมจะบอกว่าผมลาออกแล้วนะ ได้งานที่ใหม่คงไม่ได้เจอกันอีก”
ข้อความจากถุงแป้ง “โชคดีเหมือนกันนะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา”
ถุงแป้งกับคิรินส่งสติกเกอร์ร่ำลากันสักพักก็วางโทรศัพท์ไว้ข้างกายรู้สึกใจหายเรื่องคิริน ความผูกพันที่มีคิรินคอยช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ ทำให้รู้สึกหวิวเมื่อรู้ว่าคิรินจะหายไป…………
