บทย่อ
น้ำตาสุดท้าย* เมื่อการแต่งงานไม่ใช่จุดสิ้นสุด หากแต่มันคือจุดเริ่มต้นของหายนะ คนที่เคยบอกรักทำร้ายใจเจ็บแสนสาหัสเหมือนตายทั้งที่หายใจด้วยน้ำมือของสามีที่ฉันเคยรัก....... “ป๊า ต้องไปขอลูกสาวบ้านนั้น เขาอยากให้แต่งงานเพื่อรับผิดชอบ”พ่อสามีหนักใจที่ต้องพูดคำนี้กับลูกสะใภ้ที่แต่งงานจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายและมีลูกเล็กวัยสองขวบต้องมีสถานะเมียหลวงเพราะลูกชายมีเมียน้อยกำลังท้องสามเดือน ทางบ้านเมียน้อยต้องการให้ไปสู่ขอเข้าพิธีแต่งงาน ทางบ้านสามีเลยต้องไปสู่ขอเมียน้อยที่เป็นเพื่อนสนิทของลูกชาย ถุงแป้งน้ำตาไหลเพียงแค่ได้ยินประโยคเดียวที่เฉือนหัวใจให้แหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี เธอหันไปโอบกอดลูกสาววัยสองขวบแล้วซบหน้าร้องไห้ อดทนกับคนเจ้าชู้สารเลวไร้จิตสำนึกทำร้ายจิตใจกันไม่พอเขายังไปมีอะไรกับเพื่อนสนิทจนท้องแล้วอ้างว่าเธอไม่ให้มีอะไรด้วยเพราะเขาเคยนอกใจ สุดท้ายความเหน็ดเหนื่อยพยายามประคับประคองก็ไม่มีค่า เขาพาเมียน้อยเข้ามาเย้ยถึงในบ้านไร้ซึ่งความเกรงใจ ถุงแป้งกระชับกอดลูกแน่นแววตาแข็งกร้าวจุกแน่นในอกเต็มไปด้วยความเจ็บแค้นและไม่มีทางอโหสิกรรม รวมสองเรื่องค่ะ น้ำตาสุดท้าย...แด่คุณที่เคยรักและเรื่องเธอสุดที่เกลียด *เธอสุดที่เกลียด* เธอทำผมเจ็บ เธอต้องเจ็บยิ่งกว่าและผมจะไม่มีทางรักเธออีก
ตอนที่ 1 เหนื่อยเหลือเกิน
ในวันแต่งงาน
ถุงแป้งสวมชุดเจ้าสาวกระโปรงฟูฟ่องประดับด้วยคริสทัลแวววาว เธอยืนยิ้มมีความสุขน้ำตาปริ่มดีใจได้แต่งงานกับชายที่รักและฝากชีวิตไว้กับเขา มือเรียวลูบหน้าท้องที่เริ่มใหญ่ขึ้นด้วยอายุครรภ์ห้าเดือนถึงจะแต่งงานกันเพราะท้องต้องกู้หนี้ยืมสินมาจัดงานแต่งงานก็ยินดีเป็นหนี้เพื่อมีวันชื่นคืนสุขและหลังจากนี้คาดว่าจะมีลูกอีกสองคนให้เป็นเพื่อนกัน ลูก ๆ จะโตมาในครอบครัวที่อบอุ่นอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกนั่นคือความฝันเล็ก ๆ ของผู้หญิงคนหนึ่ง
“เรียบร้อยหรือยังจ๊ะ” พาทิศสวมชุดเจ้าบ่าวสีขาวหล่อเนี้ยบเข้ามาโอบกอดข้างหลังเจ้าสาว
“เรียบร้อยแล้ว...” ถุงแป้งพลิกตัวไปยิ้มกว้างจนตาหยีอิ่มเอมกับความสุขที่มีในวันนี้
“สวยจัง” นัยน์ตาคมเป็นประกายยกนิ้วเกลี่ยปอยผมลอนข้างแก้มเนียนอย่างอ่อนโยน
“ตัวเองก็หล่อมากเลย” มือเรียวจับแต่งเสื้อสูทของเจ้าบ่าวมองเขาด้วยความรักสุดหัวใจ พาทิศเป็นคนรูปหล่อมากถึงมากที่สุดมีสาว ๆ มาคอยอ่อยทอดสะพานอยากชิดใกล้ชายคนนี้แต่เขาก็เลือกเธอทั้งที่ตอนคบกันเธอเป็นเพียงหญิงสาวต่างจังหวัดเข้ามาทำงานในกรุงเทพด้วยเงินเดือนไม่ถึงหมื่น แต่พาทิศก็รักและดูแลเธอมาเสมออีกทั้งยังให้เงินครอบครัวเธอที่ต่างจังหวัดเพราะรู้ว่าถุงแป้งเงินไม่ค่อยพอใช้ จนเมื่อถุงแป้งได้รับการแนะนำจากรุ่นพี่ให้ไปทำงานด้วยกันเลยทำให้มีคอมมิชชั่นมากมายซื้อรถเก๋งปลดหนี้ได้หลายทางและเมื่อชีวิตดีขึ้นไม่นานก็ตั้งท้อง ถุงแป้งวาดฝันครอบครัวแสนสุขกับสามีและลูกในทุกวัน และด้วยความดีของพาทิศทำให้ถุงแป้งทั้งรักเชิดชูสามีมากตั้งแต่คบกันเขาไม่เคยที่จะ.....นอกลู่นอกทาง
“อย่าบอกนะว่าจะร้องไห้ ขี้แยจังคุณแม่” พาทิศเอ่ยแซวเมื่อเห็นเจ้าสาวแก้มแดงขึ้นน้ำตาคลอเบ้า
“อื้ม........ดีใจ” เธอเหลือบตาขึ้นเพดานกะพริบตาถี่ไม่ให้น้ำตาไหลกลัวเครื่องสำอางย้อยเลอะเทอะ พาทิศลูบผมเธออย่างเอ็นดูโอบกอดเจ้าสาวให้เธอรับรู้ถึงความรักที่เขามีให้เธอ
“พร้อมนะ เราออกไปต้อนรับแขกกันเถอะ” เขาผละออกแล้วกุมมือเจ้าสาว ถุงแป้งพยักหน้ายิ้มหวานเดินเคียงคู่ออกไปจากห้องแต่งตัวพร้อมกับเจ้าบ่าวสุดที่รัก
ภายในงานเลี้ยง
ญาติทั้งสองฝ่าย รวมถึงเพื่อนที่ทำงานเพื่อนเรียนของเจ้าบ่าวต่างมาร่วมแสดงความยินดีให้เจ้าบ่าวเจ้าสาว ช่วงเวลาพิธีบนเวทีผ่านพ้นไป เจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินถ่ายรูปกับแขกภายในงานจนมาถึงโต๊ะของกลุ่มเพื่อนเรียนของเจ้าบ่าวสาขาที่เขาเรียนเป็นสาขาบัญชีทำให้มีเพื่อนผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพื่อนผู้ชายมีคชาและพลวัต เพื่อนผู้หญิงมีน้ำริน ใยไหม อุ้มและปราง ซึ่งเจ้าสาวเองรู้จักสนิทสนมเป็นอย่างดีเพราะเคยไปทั้งกลางผับบาร์และเที่ยวทะเลต่างจังหวัดด้วยกันบ่อย เพื่อน ๆ บางคนลุกขึ้นยืนมาขนาบข้างเจ้าบ่าวและเจ้าสาวอีกส่วนหนึ่งนั่งอยู่ การถ่ายรูปเจ้าบ่าวเจ้าสาวร่วมกับแขกที่มาร่วมงานแสนธรรมดาและเป็นกันเองในตอนนั้น มันไม่ธรรมดาเลยสำหรับอนาคตหากย้อนดูรูปวันแต่งงานเมื่อเวลาผ่านไปสองปีจะรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติซึ่งตอนนั้นเธอมองข้าม หากไม่เกิดเรื่องถุงแป้งคงไม่รู้ว่าตัวเองโง่มานานแล้ว........
หลายวันผ่านไป
ถุงแป้งทำงานห้างสรรพสินค้าที่ร้านแบรนด์เนมแห่งหนึ่งส่วนพาทิศเปิดบริษัทปรึกษาบัญชีร่วมกับคชาและพลวัต ถุงแป้งเลิกงานเวลาสองทุ่ม ซึ่งปกติพาทิศเลิกงานหกโมงเย็นแต่จะนั่งทำงานต่อจนเกือบสองทุ่มเพื่อมารับถุงแป้งกลับบ้านพร้อมกัน ในช่วงแรกพาทิศมารับปกติ แต่ระยะหลัง ๆ เขาจะมารับตอนสามทุ่มและช่วงเวลาตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงสามทุ่มเขามักจะไม่รับโทรศัพท์บอกว่าทำงานจนลืมดูเวลาและไม่ได้อยู่ใกล้มือถือตลอด
ห้างสรรพสินค้า
ถุงแป้งเลิกงานเดินอุ้ยอ้ายออกจากห้างสรรพสินค้าที่กำลังจะปิดมานั่งรอสามีที่ป้ายรถเมล์แทบทุกวันอากาศที่ร้อนอบอ้าวนั่งคลุกฝุ่นเหงื่อไหลไคลย้อยหิวก็หิวทำให้หงุดหงิดหน้าบึ้งตอนที่พาทิศมารับ
“ทำหน้าให้ดี ๆ หน่อย” เขาเสียงเหวี่ยงเมื่อหันมาเห็นภรรยาหน้าบึ้งกระฟัดกระเฟียด
“เหนื่อย ร้อน!” ถุงแป้งกระแทกเสียงหงุดหงิด
“นี่ก็ทำงานเหนื่อย อารมณ์เสียเป็นเหมือนกันนะโว้ย!” พาทิศขึ้นเสียงมองตาขวางกระทืบเบรกจนเธอหน้าเกือบทิ่มดีที่คาดสายนิรภัยไว้
“ก็บอกให้มารับเร็วขึ้นหน่อย แบ่งงานให้เพื่อน ๆ ช่วยทำสิเกินเวลามาหลายชั่วโมง เห็นเพื่อน ๆ โพสกลับบ้านแต่งตัวเตรียมไปเที่ยวผับกัน ไม่เห็นต้องทำงานหนักแบบทิศเลย” ถุงแป้งตัดพ้อตาแดงน้ำตาหยดหันมองออกไปทางกระจกกลั้นเสียงสะอื้นร้องไห้เงียบ ๆ ยกมือปาดน้ำตาเป็นระยะ เธอไม่ได้อยากงี่เง่าก็แค่อยากให้เขาสละเวลามารับเร็วสักนิดคุยกันมาหลายครั้งก็ยังเป็นเหมือนเดิม ทีเพื่อน ๆ เขาที่เป็นหุ้นส่วนกันโพสว่าไปเที่ยวกลางคืนแต่สามีเธอต้องทำงานงก ๆ ทั้งที่เมียกำลังท้องแก่ ยิ่งคิดยิ่งน้อยใจช่วงนี้อารมณ์แปรปรวนตั้งครรภ์เจ็ดเดือนต้องแบกหนึ่งชีวิตทำงานทั้งวันเหนื่อยและอึดอัดกว่าปกติ อยากจะหยุดพักก็ทำไม่ได้เพราะทุกอย่างต้องใช้เงินไหนจะต้องรับผิดชอบครอบครัวและจะมีสมาชิกเพิ่มในอนาคตต้องอดทนฝืนทำงานจนกว่าจะใกล้คลอดแต่สามีกลับไม่เข้าใจ
“เออ วันหลังจะมาเร็ว” พาทิศรับปากแบบขอไปทีขับรถเร็วฉวัดเฉวียนเบรกแรง ๆ ด้วยความโมโหเอาอารมณ์ตัวเองเป็นใหญ่ไม่สนใจว่าผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ กำลังตั้งครรภ์ ถุงแป้งเบื่อหน่ายกำมืออดกลั้นกับความรู้สึกกลัวและเสียใจกับท่าทางของสามี เขาช่างไม่เข้าใจอารมณ์คนท้องและหงุดหงิดเหวี่ยงใส่เธอเป็นประจำ
เมื่อถึงบ้านทาวเฮ้าส์สองชั้นค่อนข้างเล็กมีคนอาศัยอยู่เจ็ดชีวิตพ่อสามี แม่สามี ยายสามี ตาสามี น้องสาวสามี พาทิศและถุงแป้งและสมาชิกอีกหนึ่งคนกำลังอยู่ในท้อง ถึงบ้านจะคับแคบด้วยจำนวนคนแต่ก็อบอุ่นมีความสุข ถุงแป้งได้รับการดูแลจากครอบครัวสามีอย่างดี ประตูบ้านเปิดออกแม่ผึ้งนั่งอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่นหันไปมองลูก ๆ ที่เพิ่งกลับเข้ามาในบ้าน
“มาถึงกันแล้ว กินอะไรมาหรือยังลูก”
“กินแล้วแม่” พาทิศลากเสียงเบื่อหน่ายหน้าบึ้งตึงเดินตรงเข้าไปในห้องนอนชั้นหนึ่งที่อยู่ติดห้องครัว ถุงแป้งยกมือไหว้แม่สามี
“หนูไม่ได้แวะซื้อของกินมา มีอะไรกินบ้างคะแม่”
“แม่ทำน้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด แป้งไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวแม่เตรียมของกินไว้ให้” แม่ผึ้งลุกขึ้นยิ้มให้ลูกสะใภ้ที่สีหน้าเหนื่อยล้าแล้วกำลังจะเดินเข้าครัวเตรียมของอาหารมาวางที่โต๊ะกินข้าวให้ลูกสะใภ้เพราะรู้ว่าคนท้องเหนื่อยง่ายต้องทำงานทุกวันยิ่งอ่อนเพลีย
“ขอบคุณค่ะแม่” ถุงแป้งลากเสียงแผ่วเบา เดินจะเอากระเป๋าสะพายไปเก็บแล้วหยิบผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าในห้องนอนออกมาอาบน้ำที่ห้องน้ำใกล้กับห้องครัว เธอเดินยังไม่ทันถึงห้องนอน พาทิศก็เดินสวนออกมาจากห้องเปลือยท่อนบนพันผ้าขนหนูตรงไปเข้าห้องน้ำทันที นั่นหมายถึงว่าเธอต้องรอให้เขาอาบน้ำก่อนอีกหลายนาที
“ไม่ให้แป้งอาบก่อนล่ะลูก”
“ท้องแล้วรอไม่ได้เหรอแม่” พาทิศมองตาขวางปิดประตูห้องน้ำเสียงดัง
“อ้าว ไอ้นี่ คนท้องเหนื่อยกว่าเดิมสองเท่าให้เมียก่อนมันจะเป็นอะไร!” แม่ผึ้งเท้าเอวบ่นลูกชาย ถุงแป้งถอนหายใจเฮือกใหญ่เดินเข้าห้องทิ้งตัวลงนอนหงายบนเตียงแผ่นหลังที่ได้สัมผัสที่นอนนุ่มรู้สึกผ่อนคลาย ดวงตาสวยมองฝ้าเพดานอย่างเลื่อนลอย เหนื่อยเหลือเกินชีวิตถึงจะเหนื่อยยังไงแม่ก็จะสู้เพื่อหนู หนูจะไม่ลำบากจะมีชีวิตที่ดี กินอิ่มนอนหลับ....... แม่สัญญา

