ตอนที่ 5 เด็กมันยั่ว
ภายในห้องนอน
ถุงแป้งนั่งหน้าบึ้งมองพาทิศที่นั่งอยู่โต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ตรงข้ามออกอาการประหม่าไม่รู้จะพูดอะไรก่อนรู้ดีว่าตัวเองผิดเต็ม ๆ อยากให้เมียลุงโทษอะไรก็ได้จะยอมทำตามทุกอย่างขอแค่อย่าเลิกกันก็พอ
“ถ้าไม่มีอะไรคุย จะไปเก็บของแล้วนะ” ถุงแป้งแววตาสั่นไหวเหนื่อยล้าเต็มที
“ขอโทษที่ทำให้แป้งผิดหวัง ทิศแค่เผลอไม่ได้จริงจังกินฟรีไม่กี่ครั้งเอง” พาทิศส่งสายตาออดอ้อน ถุงแป้งยิ่งหัวร้อนเมื่อได้ยินคำพูดสามีไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นเลย
“มึงเอากับมันหลายครั้ง ตอนทำมึงคิดถึงใจกูบ้างไหม ไอ้เวร!”มือเรียวคว้ากรอบรูปตรงหัวนอนปาใส่สุดแรง พาทิศเอนตัวหลบทัน
“เด็กมันยั่ว ของฟรีใครก็เอา แต่ถึงยังไงทิศก็รักแป้งคนเดียว”
“ตอแหล! ถ้ามึงรักกูจริง มึงจะไม่นอกใจ .......มึงรู้ไหมที่กูเจ็บขนาดนี้เพราะมึงบอกว่ารักกูแต่มึงก็หักหลังทั้งที่รู้ว่ากูต้องเสียใจ.................” ถุงแป้งยืนขึ้นหน้าแดงก่ำตัวเกร็งกัดฟันด่าไปน้ำตาไหลไป
“ทิศพลาดไปแล้วจะไม่ยุ่งกับน้องเขาอีกโอเคมั้ย” พาทิศหน้าเศร้ารู้ตัวว่าผิดพยายามพูดให้เธออภัย
“กูไม่โอเคห่าเหวอะไรทั้งนั้น กูจะเลิกกับมึง!”
“ลูกจะกำพร้าพ่อนะแป้ง!”
“พ่อสารเลวอย่างมึง อย่ามีเสียดีกว่า” ถุงแป้งเสียงแข็งจ้องตาเขม็งกำมือแน่นหมดความอดทนที่จะคุย
“อย่าใช้แต่อารมณ์ คุยกันดี ๆ ” พาทิศพ่นลมหายใจหนักค่อย ๆ เดินเข้าใกล้ ถุงแป้งก้าวเท้าถอยหลังมองอย่างรังเกียจ
“ถ้ากูใช้แต่อารมณ์จริง ๆ กูจ้างคนมากระทืบมึงแล้วไอ้ทิศ!”
“ให้โอกาสทิศแก้ตัวนะ นี่เป็นครั้งแรกเอง ทำผิดก็ขอโทษแล้วไง ถ้าแป้งเครียดลูกก็เครียดไปด้วยนะ” เสียงทุ้มอ่อนลงพยายามตะล่อมเมียให้ใจอ่อน แต่ตอนนี้จิตใจบอบช้ำเกินกว่าจะให้อภัย
“ที่เครียดก็เพราะมึงเป็นคนทำให้กูทุกข์....กูเบื่อจะคุยแล้ว ไปเจอกันวันหย่าเลยทีเดียว” ถุงแป้งลากเสียงยาวเหน็ดเหนื่อยทั้งกายใจ หันไปคว้ากระเป๋าสะพายแล้วเดินไปเอาทองที่เก็บไว้ในลิ้นชักหัวเตียงกับเงินสดเผื่อฉุกเฉินยัดใส่กระเป๋าก่อนจะเดินไปเก็บเสื้อผ้าในตู้ พาทิศรีบคุกเข่าขวางทางไม่ให้เดิน
“ไม่เอานะแป้ง ไม่หย่านะ ทิศขอโทษ ขอโทษจริง ๆ” พาทิศส่งสายตาอ้อนวอนน้ำตารื้น ถุงแป้งก้มมองนำ้ตาคลอแล้วทำเป็นไม่สนใจเดินเบี่ยงตัวไปทางช่องแคบ ๆ พาทิศรีบคลานกอดขาเมียร้องไห้รั้งเมียอย่างไม่อาย
“ให้โอกาสทิศนะ ขอร้อง ทิศรักแป้งกับลูก ขอโอกาสให้ทิศแก้ตัวนะ”
“มึงไม่สำนึกหรอกอีกหน่อยก็ทำอีก กูเสียใจตรงนี้แล้วจบดีกว่า” ถุงแป้งกัดฟันพูดน้ำตาไหลสายตาพร่ามัวหายใจไม่เต็มปอด เธอพยายามดึงขาออกจากการถูกกอดรัดแน่น
“ไม่เอา ไม่ให้ไป ไม่ให้ไป......ฮือ ๆๆๆ” เขาก้มหน้าก้มตาร้องไห้กอดรัดไม่ยอมปล่อย ถุงแป้งเริ่มหน้ามืดตัวเบาคล้ายลอยเคว้งใจหวิวแล้วภาพก็ตัด พาทิศรู้สึกว่าถุงแป้งกำลังงอขาทิ้งน้ำหนักไปข้างหลังเลยพุ่งตัวขึ้นโอบประคองเมียไม่ให้หงายหลังแป้งทิ้งตัวไม่ได้สติ พาทิศเซตามน้ำหนักของภรรยาท้องแก่ค่อย ๆ ประคองเธอวางบนพื้นห้องอย่างระวัง
“แป้ง ๆ .........” พาทิศเขย่าตัวเรียกภรรยาอย่างตื่นตระหนกเมื่อถุงแป้งนิ่งไปหายใจอ่อนลงเลยตะโกนเรียกคนในบ้านให้เข้ามาช่วยพาถุงแป้งส่งโรงพยาบาล
ห้องพิเศษโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
คุณหมอให้ถุงแป้งนอนโรงพยาบาลดูอาการก่อนสองวัน ถุงแป้งสีหน้าซีดเซียวนั่งกินข้าวต้มโรงพยาบาลอย่างอ้อยอิ่งเบื่อรสชาติอาหาร สักพักเสียงประตูห้องกำลังเปิดออกพาทิศเดินเข้ามาสองมือเต็มไปด้วยถุงอาหาร
“ทิศซื้อโจ๊กร้านโปรดกับเป็ดย่างเจ้าประจำมาให้กิน” พาทิศยิ้มกว้างรีบเดินไปจัดแจงอาหารใส่จานแล้วถือมาวางให้บนโต๊ะกินข้าว ถุงแป้งมองโจ๊กร้านโปรดกลิ่นหอมจนต้องกลืนน้ำลาย
“กินเพราะเบื่ออาหาร ไม่ได้ให้อภัย”
“ทิศเข้าใจ อยากกินอะไรก็บอกนะทิศจะไปซื้อมาให้” พาทิศอมยิ้มดีใจที่เธอยอมพูดดีด้วยไม่เอาแต่ด่าอย่างเดียว ถุงแป้งยังงอนตักโจ๊กกินทีละคำอย่างเอร็ดอร่อยจนอิ่มท้อง พาทิศช่วยเลื่อนโต๊ะอาหารออกเก็บชามไปล้างที่ระเบียง ถุงแป้งกำลังปรับเตียงคนไข้จะเอนหลัง ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาในห้องเลยนั่งอยู่ท่าเดิม
“เป็นไงบ้างแป้ง” น้ำรินสีหน้าห่วงใยถือกระเช้านมกระป๋องมาเยี่ยมคนไข้
“ดีขึ้นแล้วแต่หมออยากดูอาการก่อน” ถุงแป้งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร น้ำรินคือเพื่อนสามีที่สนิทกันเหมือนเป็นเพื่อนของตัวเองมากกว่า
“ดีนะไม่เป็นอะไรมาก ไอ้ตัวปัญหามันหายหัวไปไหน” น้ำรินเสียงเหวี่ยงมองหาพาทิศรอบห้อง หงุดหงิดที่เพื่อนทำผิดแล้วยังทิ้งเมียไว้คนเดียวไม่ใส่ใจดูแล
“อยู่นี่!” พาทิศหน้ามุ่ยมาจากทางระเบียงถือชามอาหารที่ออกไปล้างเข้ามาเก็บ น้ำรินหันมองไม่สบอารมณ์
“ดีกันแล้วเหรอ” ปรางรีบเอ่ยถามอยากรู้อยากเห็นออกนอกหน้า
“เปล่า ยังไงก็เลิก...” ถุงแป้งเสียงอ่อนไม่สบตาพาทิศ ปรางได้ยินคำตอบก็นิ่งไปไม่พูดอะไรแล้วปรายตามองพาทิศที่กำลังเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาให้เพื่อน ๆ
“เลวแบบนี้อย่าไปให้โอกาสมัน” น้ำรินยังกระแหนะกระแหนหมั่นไส้
“เป็นเพื่อนใครกันแน่วะริน” พาทิศเสียงขุ่นไม่พอใจแทนที่จะช่วยคุยให้ถุงแป้งยอมอภัยกลับสนับสนุนให้ไม่ยกโทษให้เสียอย่างนั้น
“ก็มึงมันเลว”
“เออน่า อย่าเถียงกันให้แป้งนอนพักผ่อนเถอะ” ปรางรีบพูดแทรกเมื่อเห็นเพื่อน ๆ กำลังจะเปิดฉากต่อหน้าคนไข้ท้องแก่ น้ำรินกับพาทิศเลยหยุดเถียงมองหน้ากันเคือง ๆ
“คชาส่งนักศึกษาฝึกงานกลับสถาบันแล้ว คงโดนฝึกงานใหม่ปีหน้ายังไงปีนี้ก็ไม่จบ” ปรางนั่งลงข้างเตียงอัปเดตข่าวสารให้ถุงแป้งฟัง
“พวกแกทำอะไรน้องเขาเยอะหรือเปล่า” ถุงแป้งเอ่ยถามไม่รู้เรื่องราวหลังจากที่เธอออกมาจากออฟฟิศ
“ฮึ แค่เอาลิปสติกทาหน้ามันเพิ่ม แกล้งให้กลัวนิด ๆ ไม่ได้ลงไม้ลงมือ” ปรางกับน้ำรินหันไปยักคิ้วสะใจให้กัน พาทิศนั่งฟังเงียบ ๆ ไม่ออกความคิดเห็นอะไรพูดไปตอนนี้โดนรุมด่าแน่ แม้แต่เพื่อนของเขาเองก็เข้าข้างเมียกันหมด........
ช่วงค่ำ
เพื่อนที่ทำงานของถุงแป้งชวนกันมาเยี่ยมหลังเลิกงาน ถุงแป้งได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ แล้วสบายใจขึ้นมาบ้างแต่เธอไม่บอกถึงสาเหตุของการเข้าโรงพยาบาล คิรินนั่งมองถุงแป้งปากยิ้มแต่แววตาไม่สดใสเหมือนเดิม เขาหันมองพาทิศที่ยืนนอกระเบียงสูบบุหรี่หน้าตาอมทุกข์พอจะเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้นกับถุงแป้ง
เมื่อเพื่อน ๆ ที่ทำงานลากันกลับบ้าน คิรินทำเป็นหยิบกระเป๋าเดินช้า ๆ อย่างอิดออด พอคนอื่นเดินออกไปหมดเขาก็หันไปถามถุงแป้ง
“เจอตัวแล้วใช่ไหมพี่?”
“อื้ม นักศึกษาฝึกงานที่บริษัท”
“มีอะไรให้ผมช่วยก็บอกนะ” คิรินเห็นใจเสนอตัวช่วยเหลือไม่ว่ายังไงเขาก็จะอยู่ข้างพี่สาวแสนดีคนนี้
“ช่วยหาห้องพักรายเดือนให้พี่หน่อย ขอแบบปลอดภัย” ถุงแป้งเสียงอ่อนเหลือบมองพาทิศที่ยืนอยู่ริมระเบียง
“ได้พี่ ไว้พรุ่งนี้ผมโทรหา....พี่บอกสามีด้วยนะว่าสูบบุหรี่ใกล้ ๆ มันไม่มีดีกับลูกในท้อง” คิรินไม่วายแอบบ่นไม่ชอบที่พาทิศไม่ระวังเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะกระทบลูกในท้อง
“ขอบใจมากนะเคน” ถุงแป้งอมยิ้มขำคิรินที่ใส่ใจทุกรายละเอียดขนาดเธอทุกข์อยู่เขายังรู้แต่สามีตัวเองกลับไม่เคยรู้อะไรเลย
