ตอนที่ 4 มนุษย์ป้า 2
"ไม่คุยไม่ได้แล้วนะ หรือจะแต่งงานกันก่อนก็ได้แล้วค่อยศึกษากันไป เหลือเวลาไม่เท่าไรแล้วนะ ถ้าเราแต่งงานไม่ทัน มันจะเรื่องใหญ่นะ ป้าไม่ได้อยากได้สมบัติของพ่อเราหรอก" ไม่ได้อยากได้แต่คนที่แนะนำมาให้เธอ ก็หัวอ่อนยิ่งกว่าอะไร ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าป้าพิมพ์กำลังจะทำตัวเป็นพระนางฮองเฮาที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง
"แต่ถ้าหนูไม่ชอบพี่ทศ ป้ามีคนแนะนำให้นะ"
นี่คงเป็นเรื่องเดียวที่ป้าสองคนจะมองตากันแบบขุ่นๆ อย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อต่างฝ่ายต่างอยากให้คนของตัวเองแต่งงานกับเธอ
"พวกพี่สองคนไม่ต้องหาใครมาแนะนำยายศิหรอกครับ หลานคุณพี่แอบมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแทบจะคลอดลูกก่อนแต่งงานแล้วครับ"
อัศวินขี่ม้าขาวของเธอมาช่วยแล้ว แต่เรื่องที่อาพัฒน์ปดกลางโต๊ะอาหารก็ทำเธอวางสีหน้าแทบไม่ถูก
และหลังจากนั้นก็มีคำถามอีกไม่รู้กี่สิบคำถามที่เธอตอบไม่ได้ และก็เป็นอาพัฒน์ที่เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอาเอง
"เอาเถอะๆ พวกพี่เลิกถามเยอะแยะได้แล้ว ไว้คราวหน้าถ้ามากินข้าวที่บ้าน ผมจะให้ยายศิชวนแฟนมากินข้าวด้วย"
"เอ่อ…ค่ะ"
เธอได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ส่งให้ทุกคน คำขานรับอาพัฒน์จึงแผ่วเบาตามไปด้วย
"ขอบคุณนะคะอาพัฒน์ ที่ช่วยปฏิเสธคุณป้าให้ แต่..."
"ก็ต้องพูดแบบนั้นแหละ ไม่งั้นก็ยัดเยียดญาติข้างผัวให้เราไม่เลิกสักที อาเห็นแล้วก็รำคาญแทน"
ศิศิราเดินไปส่งอาพัฒน์ที่รถ เมื่อไร้ผู้คนของป้าเธอถึงได้มีโอกาสเอ่ยขอบคุณอาพัฒน์
อาหารมื้อค่ำฝีมือชาวเหนือแท้ๆ เธอแทบไม่ได้ลิ้มชิมรสถนัดปาก เพราะเรื่องราวบนโต๊ะอาหารมันชวนให้แทบจะกลืนอาหารไม่ลง
"แล้วนี่จะกลับหรือนอนบ้านล่ะ"
"กลับโรงแรมค่ะ"
ศิศิรากลับมาถึงโรงแรมเกือบจะสามทุ่ม แค่เธอจอดรถที่หน้าโรงแรมสายตาก็เหลือบไปเห็นสถาปนิกหนุ่มหล่อที่กำลังนั่งดื่มเบียร์อยู่ที่เก้าอี้สนาม เพราะไฟรถทำให้เขาหันมามองและเห็นว่าเป็นเธอ
"ในตัวอำเภอมีร้านเหล้าหลายร้านนะคะ"
ธันย์เงยหน้ามองหญิงสาวเจ้าของโรงแรมคนสวย อากาศเย็นสบายๆ แต่เจ้าหล่อนก็ชอบเหลือเกินไอ้เสื้อคอเต่าเนี่ย พลันคำพูดบางคำของพี่ชายก็ทำให้เขาเกือบหลุดขำออกมา คำสาปแช่งกลายๆ เมื่อครั้งที่เขาเคยแกล้งซื้อชุดโป๊ๆ ให้ว่าที่พี่สะใภ้
'ขอให้แกได้เมียใส่แต่คอเต่าเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวแล้วกันแกจะได้ค้นหานานๆ หน่อย'
เขายังจำหน้าตาขึงขังหงุดหงิดของพี่ชายได้ดี
รอยยิ้มมุมปากจางๆ จึงยังคงหลงเหลือตอนที่เขาเอ่ยตอบเธอออกไป
"ไว้คุณพาผมไปหน่อยซิ"
"ฉันแค่แนะนำค่ะ กลัวคุณจะเบื่อบรรยากาศเงียบๆ แบบนี้" เจ้าตัวปฏิเสธเสียงแข็ง จากรอยยิ้มบางๆ จึงกลายเป็นธันย์หัวเราะออกมาเต็มเสียง
"อ้าว นึกว่าจะพาไป"
"มันเป็นร้านคาราโอเกะ แบบมีผู้หญิงนั่งอยู่หน้าร้าน เขาจะให้ฉันเข้าไปไหมล่ะ"
"ทำไมจะเข้าไปไม่ได้ล่ะ" ธันย์หัวเราะอีกครั้งเมื่อเห็นเธอแอบกลอกตาใส่เขา
"ไว้คุณชวนคุณเมที หรือพวกลูกน้องคุณไปเถอะค่ะ ฉันแค่แนะนำ"
"โอเค น่าสนใจดี แล้วคืนนี้คุณนอนไหนล่ะ"
"ห้องทำงาน ยังไม่มีห้องว่าง"
"หรือจะมานอนที่ห้องผมไหมล่ะ" ธันย์รีบเอ่ยแก้ต่างทันทีเมื่อเห็นสีหน้าขึงขังของเธอ "ผมหมายถึงเดี๋ยวผมจะกลับไปนอนที่ออฟฟิศผมเอง"
"ขอบคุณค่ะ แต่ออฟฟิศฉันน่าจะสบายกว่าออฟฟิศคุณ"
"ก็จริง ผมนอนอยู่สองคืนปวดหลังฉิบหาย"
"ค่ะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ ถ้าเผื่อขาดอะไร..."
"ให้ผมบอกคุณหรือ"
"บอกพนักงานได้เลยค่ะ"
ธันย์หัวเราะขึ้นอย่างไม่เกรงใจคนที่กำลังเดินห่างออกไปอย่างรวดเร็ว คล้ายกำลังหนีเขาอย่างนั้นแหละ
"เหนื่อยกับมนุษย์ป้ามาแล้ว ยังต้องมาเหนื่อยกับไอ้บ้านี่อีก ไหนคุณปกรณ์บอกว่าดี เก่ง ปากดีปากเก่งน่ะซิไม่ว่า" ศิศิราได้แต่แอบพึมพำคนเดียวตอนที่เดินห่างออกมา และเธอก็ต้องกลอกตาอีกครั้งเป็นรอบที่เท่าไรของวันก็จำไม่ได้
