บ้าที่สุด
20.00น.
ริมชายหาด
เมื่อถึงช่วงอาหารเย็นหนุ่มสาวลงมารวมกันยังหน้าริมหาดเพื่อทานข้าวเย็น แต่ทว่าดวงตาคู่คมยังคงจ้องมองมายังคนพี่ที่ทำเป็นไม่สนใจเขาเช่นเคย ตั้งแต่เรื่องตอนกลางวันที่เขาก่อเรื่องขึ้น
อาการปวดศีรษะเมื่อตอนกลางวันดีขึ้นจนแทบหายไปเป็นปลิดทิ้ง วาวายังคงนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คนเดียวกับหน้าจอมือถือ พลางความคิดถึงเรื่องของใครบางคนวนไปวนมาในหัว ในช่วงจังหวะที่เธอหันไปมองสบตากับหมอหนุ่มรุ่นน้องเข้าเต็มๆ
"โอ๊ย!! ถ้าจะมองกันขนาดนี้ไปเย็ดกันเลยค่ะอีดอก!!"
"ตลกอีหยก มองอะไรใครมอง?"
วาวารีบปฏิเสธเพื่อนขึ้นทันที โดยที่ใบหน้ายังคงอมยิ้มระเรื่ออยู่
"อ่อยขนาดนี้ไม่จัดไม่ได้แล้วปะแม่?"
"กูถามจริง มึงไม่อยากได้น้องจริงดิ ดูแซ่บขนาดนั้นอะ อุ้ยเขินอะ!!"
รอยยิ้มกว้างเผยออกมาจากเรียวปากอวบอิ่มของวาวา เมื่อจบประโยคนั้นของโบตั๋น ก่อนที่มือเล็กจะรีบคว้าแก้วน้ำในมือกระดกเข้าปากด้วยความหิวกระหาย
"เอาดีๆ อย่ามาทำแดกน้ำกลบเกลื่อนอีชะนีแก่"
"เออ ก็อยากได้อยู่แหละ แต่ไม่เอาดีกว่า!!"
"ทำไมวะ?"
รถเมล์เอ่ยถามขึ้นด้วยท่าทางงุนงงกับคำตอบที่ย้อนแย้งของเพื่อนสาว
"ไม่มีอะไร ไม่ต้องมาอยากรู้เรื่องของกูนักเลย!!"
"ที่ไม่บอกเพราะมึงหลงรักน้องไปแล้ว กลัวได้จ่ายค่าที่พักที่อังกฤษใช่มั้ยละอีวา!!"
"ใครบอกมึง ถึงกูจะชอบจะอยากได้แค่ไหนนะ คนอย่างกูนะไม่หลงรักใครง่ายๆหรอก!!"
"จ้าแม่คุณ!! แม่คนไม่หลงรักใครง่ายๆ แต่ก็อย่าลืมเรื่องที่เดิมพันบาร์โฮสไว้กับพวกกูแล้วกัน"
สิ้นสุดประโยคนั้นจากโบตั๋น ใบหน้าของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มในคราแรกแปรเปลี่ยนเป็นความกังวลอย่าเห็นได้ชัดเจน เธอไม่รู้จะเริ่มยังไงกับคนน้องดี เมื่อคิดถึงเรื่องราววุ่นวายที่ตัวเองต้องพยายามเล่นสงครามประสาทกับธีร์กวินแล้วก็พานทำให้เธอปวดหัวเอาซะเปล่าๆ
"โน้น!! น้องมาจากห้องน้ำแล้วไปเลยค่ะ ชะนี!!"
"เอาไว้ก่อนละกัน!!"
"โอ๊ย!! กูเบื่อมึงจริงๆ เลยืไปพวกเรา!!"
ท่าทางเบื่อหน่ายของใบหยกแสดงออกมาอย่างชัดเจน ก่อนจะรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวยาวของโต๊ะอาหาร พร้อมกับอีกสี่สาวที่กำลังเตรียมตัวลุกจากเก้าอี้
"เอ้า!! แล้วพวกมึงจะไปไหน?"
"ไปร้องเกะไง ไปปะละ!!"
"ตามสบายเลยถ้างั้น!!"
ทันทีที่ใบหยกลุกขึ้น สามสาวที่เหลือรีบเดินตามกันเข้าไปยังห้องคาราโอเกะในส่วนของโรงแรม เหลือเพียงวาวาคนเดียวที่ยังคงนั่งกดมือถืออยู่ที่โต๊ะอาหารริมชายหาด พลางคิดว่าจะทำยังไงดีกับการเดิมพันที่ได้วางเอาไว้ตั้งแต่เริ่มแรก
'ถ้าเราทำคะแนนเอาชนะใจน้องไม่ได้ภายในเวลาแค่ 1 เดือน ต้องได้เลี้ยงบาร์โฮส อีชะนีแก่ 3 ตัวนั้นแหงๆ'
'แต่ถ้าเข้าใกล้น้องเกินไป แล้วตัวเองเผลอรักน้องจริงๆ ละทำไงวะ ทริปอังกฤษสิ้นปีนี้จ่ายอ่วมแน่ๆ'
ยิ่งคิดคิ้วเรียวเรียงเส้นสวยยิ่งขมวดเข้าหากันเป็นปมด้วยความตึงเครียดอยู่เพียงลำพัง ปล่อยให้ความคิดสองฝั่งสองฝ่ายตบตีกันเองภายในจิตใจ จนไม่ได้สนใจสายตาคมของใครบางคนที่กำลังจ้องมองเธออยู่
"เอ๊ะ!!"
ร่างสาวสะดุ้งตัวในทันที เมื่อหมอหนุ่มหย่อนก้นลงนั่งข้างๆคนพี่ใกล้ ปล่อยให้อ้อมแขนแกร่งได้เบียดเสียดกับผิวนุ่มลื่นจากต้นแขนเธอ โดยที่ต่างคนต่างหันหน้าไปคนละฝั่ง
"พี่ไม่ไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อนหรอ?"
คำถามของธีร์กวินยังคงไร้ซึ่งคำตอบเช่นเคย มีเพียงศีรษะของคนพี่ที่ยังส่ายหัวไปมา เพื่อตอบคำถามของเขา
"เรื่องเมื่อตอนกลางวันพี่ยังโกรธผมอยู่หรือเปล่า?"
"เปล่า!!"
แม้คำตอบจากคนพี่จะบางเบา แต่เขากลับสัมผัสได้ถึงความสนใจในตัวเขาลดลงอย่างชัดเจน มือแกร่งจึงยื่นแก้วใบใสให้กับวาวา ซึ่งเธอเองก็รับเอาไว้แต่ทว่ากลับเลือกวางมันลงบนพื้นโต๊ะ มีเพียงนิ้วชี้ที่เรียวยาวบรรจงไล่เขี่ยยังขอบปากของแก้วใบหนาวนไปวนมา คลอเคลียกับดวงตากลมที่ยังจ้องมองไปยังปลายนิ้วนิ่ง ราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ
"แล้วที่ผมถามพี่เมื่อตอนกลางวัน พี่ยังไม่ตอบผมเลยนะ"
คำถามจากคนน้องเอ่ยขึ้นแทรกกลางความคิดของหญิงสาว เธอรีบชะงักนิ้วมือที่ไล่ตามขอบปากแก้วหยุดลงในทันที ขยับใบหน้าสวยหันไปมองใบหน้าหล่อใสของคนน้อง ด้วยท่าทางสงสัยคำว่าถามนั้นว่าหมายถึงอะไร
"เรื่องอะไรหรอ?"
"ก็ที่ผมถามว่าพี่โสดมานานกี่ปีแล้วอะ?"
"ถามทำไม?"
รอยยิ้มกรุ้มกริ่มและแววตาที่เย้ายวนแผ่ซ่านออกมาจากใบของหญิงสาว ยิ่งทำให้หัวใจของคนน้องเต้นสั่นรุนแรงขึ้น แต่ธีร์กวินจำใจต้องเก็บอาการและสานต่อสงครามประสาทที่ต้นเองได้ก่อเอาไว้
"ผมก็อยากรู้"
"หึ!!"
เสียงเคล้นหัวเราะออกจากลำคอของหญิงสาว ใบหน้าสวยที่จ้องมองคนน้องในตอนแรก หันกลับไปมองยังน้ำสีเหลืองทองในแก้วใบใส ที่วางอยู่ตรงหน้านิ่ง
"แล้วเธอละโสดหรือเปล่า?"
สิ้นสุดประโยคคำถามจากวาวา ดวงตาคู่นั้นของเธอหันกลับมาจ้องมองหน้าของเขานิ่ง ซึ่งธีร์กวินเองก็พอจะรู้ว่าเธอตั้งใจจะปั่นประสาทเขาเช่นกัน จึงเลือกที่จะนั่งนิ่งๆไร้ซึ่งคำตอบ แต่ทว่าดวงตาคู่คมกลับไล่มองเครื่องหน้าของคนพี่ใกล้ๆ อีกครั้ง และเป็นครั้งแรกที่เขาตั้งใจจะสำรวจความสวยของเธอใกล้ ไล่มองตั้งแต่ดวงตากลม จมูก และเรียวปากที่เขาพยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้เผลอจูบเธอหลายต่อหลายครั้ง แม้จะต้องการครอบครองเรียวปากนั้นไว้ในปากของตนเองจนแทบคลั่งแค่ไหนก็ตาม ใบหน้าหล่อค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ๆใบหน้าของคนพี่มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยรอยยิ้มระเรื่อเบาบางที่มุมปาก
"ผมต้องตอบพี่ว่าไงหรอครับ พี่วาถึงจะพอใจ?"
รอยยิ้มและสายตาของเธอที่สื่อออกมามันแสดงออกได้อย่างชัดเจนว่าต้องการบางอย่างจากเขา เธอยิ้มออกมาอย่างเบาบางก่อนจะปรับใบหน้านิ่งเฉย ขยับเข้ามาใกล้เขาพลางกดจมูกโด่งลงที่จมูกโด่งของหมอหนุ่มอย่างอ่อนโยน วาวาเองต่างรู้ดีและต้องการจูบเขามากแค่ไหน แต่กลับต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงเคล้นหัวเราะเบาๆออกมาจากลำคอของหมอหนุ่มแทน
"พี่นี่หลอกง่ายจริงๆ"
"หลอกง่ายงั้นหรอ?"
ใบหน้าของเธอรีบถอยห่างออกจากเขา คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเป็นเชิงคำถาม พร้อมๆกับเอ่ยทวนคำพูดของคนน้องด้วยท่าทางผิดหวัง และเสียความมั่นใจในตัวเองเอามากๆ ความโกรธและความโมโหหลั่งไหลเข้าสู่ภายในจิตใจของเธอ เมื่อคนน้องเลือกที่จะเล่นกับความรู้สึกของเธออีกครั้ง
ดวงตาคู่สวยเเปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เธอรีบคว้ามือถือขึ้นมา ก่อนจะรีบลุกออกจากเก้าอี้และเดินตรงไปยังล็อบบี้ของตัวโรงแรมอย่างรวดเร็ว
"เห้ยพี่วา ผมแซวเล่นเอง!!"
"พี่วา โกรธผมจริงๆหรอ ขอโทษ!!"
หมอหนุ่มที่เห็นใบหน้าและท่าทางของคนพี่กลับต้องตกใจเมื่อเธอเริ่มแสดงออกถึงความโกรธและไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน ธีร์กวินรีบลุกจากเก้าอี้พยายามเดินตามเธอไปแต่ทว่ามันกลับไม่ทัน
"โกรธกันจริงดิ!!"
มือทั้งสองข้างเท้าสะเอวนิ่ง แต่ดวงตายังคงจ้องมองตามแผ่นหลังคนพี่ด้วยความรู้สึกผิด เขาเองกลับรู้สึกว่าตัวเองเล่นตัวและปั่นประสาทเธอจนเกินไป ทั้งที่ความจริงแล้วจุดประสงค์ของเขาเองไม่ได้ต้องการจะทำแบบนั้นด้วยซ้ำ
เช้าวันต่อมา
ความรู้สึกผิดที่มีต่อคนพี่ทำให้หมอหนุ่มนอนไม่ค่อยหลับทั้งคืน เขารู้ดีว่าเธอต้องโกรธตัวเขาเองเอามากๆ ธีร์กวินอยากจะขอโทษเธอ อยากเจอเธอมากๆ ทันทีที่ฟ้าสว่างเขาพยายามว่ายน้ำมาหน้าระเบียงห้องของเธอ ทำเสียงดังเช่นเคยเพื่อหวังให้เธอออกมา ถึงจะออกมาด่าเขาก็ยอม แต่ทว่าก็ไร้วี่แววไม่มีใครเปิดประตูหรือผ้าม่านออกมาเลยสักคน ยิ่งทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายใจมากขึ้น
ภายในห้อง
"น้องแม่งมาอีกละอีวา มึงไม่โผล่ออกไปหาหน่อยหรอ?"
"ช่างแม่งสิ!!"
"เอ้า!! ทำไม? เมื่อวานทะเลาะกันหรอ กูเห็นน้องเรียกมึงเสียงดังเชียว"
ยิ่งฟังยิ่งทำให้โบตั๋นงงหนักกับความสัมพันธ์ของทั้งสอง ที่บางครั้งเหมือนจะดีแต่บางครั้งก็ประสาทแดกซะเหลือเกิน
"กวนตีนกูเกินไป"
"จริงปะ!!"
"เออ ช่างมันเหอะ กูไปเก็บของอาบน้ำละ"
เมื่อเห็นว่าข้างในยังคงเงียบอยู่ เขาแทบอยากจะปีนขึ้นไปเคาะประตูกระจกดังๆสักที แต่กลับไม่กล้าพอ เพราะรู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนพี่โกรธ จึงทำได้เดินคอตกว่ายน้ำกลับห้องไปด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก
Talk
สมน้ำหน้า
