บทที่8
“มีอะไร!”
จอมราชตวาดถามทันทีที่พบหน้ากัน หากจำไม่ผิดเขาเคยสั่งไว้แล้วว่าถ้าไม่มีเรื่องด่วนห้ามให้อีกฝ่ายย่างกายเข้ามาในห้องนี้ เพราะหากมีอารมณ์เขาจะเป็นฝ่ายลงไปหาหล่อนที่ห้องเอง!
“ฝะ…ฝนมีเรื่องสำคัญอยากปรึกษาคุณจอมค่ะ” อีกคนกล่าวบอกเพียงสั้นๆ หวั่นใจเหมือนกันกับสิ่งที่กำลังจะปรึกษากับเขา เพราะหากทุกอย่างเป็นจริงอย่างที่เธอสงสัย จอมราชคงไม่ยอมอยู่เฉยๆ เป็นแน่ แต่ครั้นจะให้ปิดบังต่อไปก็กลัวจะไม่ทันการ
“เรื่องอะไร”
“คะ…คือช่วงนี้คุณลินเธอมีอาการหน้ามืดบ่อยๆ แถมเมื่อเช้ายังอาเจียนอย่างหนักด้วย ฝนคิดว่าบางทีเธออาจจะ…” หญิงสาวจงใจหยุดคำพูดไว้เพียงเท่านั้น เมื่อเงยหน้าดูอาการของอีกฝ่าย ปรากฏว่าเขาเองก็ถึงกลับหน้าถอดสี ไม่นานมันก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเข้มจัด ราวกับจะรู้ว่าคนตรงหน้าต้องการจะบอกอะไร
“นี่เธอกำลังจะบอกอะไรฉัน! หรือเธอคิดว่ายัยลิน…ท้องเหรอ!” หนนี้หญิงสาวเลือกที่จะพยักหน้ารับเบาๆ แต่ไม่นานเธอก็ต้องร้องเรียกเขาเอาไว้เมื่ออยู่ๆ สามีของเธอก็ผลุนผลันออกไปจากห้อง แน่นอนว่าจุดหมายปลายทางของเขานั้น คงหนีไม่พ้นห้องนอนของน้องสาว คนที่น่าจะให้คำตอบแก่เขาได้ดีกว่าใคร
แต่แล้วคนที่หอบหิ้วเอาความโกรธมาเต็มกำลังกลับต้องชะงักเท้าอยู่ที่หน้าห้อง เมื่อกระชากประตูออกแล้วพบกับภาพที่มันทำให้เขาแทบจะก้าวขาไม่ออกไปชั่วขณะ มันเป็นภาพของน้องสาวสุดที่รัก ที่ตอนนี้กำลังโก่งคออาเจียนเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ที่ชักโครก โดยมีคนข้างๆ เขา วิ่งเข้าไปช่วยลูบหลังให้โดยไม่ต้องเอ่ยปากสั่ง ภาพที่ได้เห็นนั้นชัดเจนเสียจนเขาไม่ต้องถามอะไรต่อ
“แกจะเป็นคนบอกเรื่องนี้กับไอ้นุมันเอง หรือว่าให้ฉันเป็นคนบอก!” เสียงตวาดของพี่ชายที่ดังขึ้นจากด้านหลังนั้นทำให้ปาลินขดตัวเข้าหาปลายฝนอย่างตกใจ ซึ่งอีกฝ่ายเองก็กอดเธอเอาไว้ราวกับจะปกป้องทั้งๆ ที่ตัวเองก็แทบเอาตัวไม่รอดพอกัน
ยอมรับว่าจอมราชเวลาโกรธน่ากลัวมากเสียจนเธอหรือใครๆ ต่างก็ไม่อยากเข้าใกล้ โดยเฉพาะยิ่งถ้าเป็นเรื่องของคนที่เขารักด้วยแล้วความน่ากลัวที่มีก็เหมือนจะเพิ่มหนักมากขึ้น
“ไม่ค่ะ หรือถ้าท้องจริง ลินไม่อยากให้พี่นุรู้เรื่องลูก” ไม่นานหลังจากนั้น ปาลินก็ตัดสินใจตอบพี่ชายออกไปด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ด้วยเชื่อว่าตัวเองจะสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้จริงๆ
“แล้วแกจะทำยังไง!”
“ลินตัดสินใจแล้วค่ะ ถ้าเกิดว่าลินท้องจริงๆ ลินจะย้ายไปอยู่กับน้าปลาที่อังกฤษ” คำตัดสินใจของน้องไม่ได้ช่วยทำให้โทสะภายในใจของจอมราชลดลงเลยแม้แต่น้อย กลับกันมันยิ่งทำให้เขาโกรธเพื่อนรักมากขึ้นเป็นเท่าตัว ที่ตอนนี้มันถ่อไปดูแลเมียกับลูกของคนอื่นได้อย่างหน้าชื่นตาบาน ในขณะที่เมียกับลูกแท้ๆ ของมันนั้น กำลังผจญอยู่กับปัญหาใหญ่ที่พากันแก้ไม่ตก
“รู้ใช่ไหมว่าการหนีไม่ใช่การแก้ปัญหา”
และเขาก็ไม่เห็นด้วยเลยสักนิดกับการหนีปัญหาที่น้องคิดจะทำ เพราะไม่ว่าจะดูยังไง เรื่องนี้น้องสาวของเขาก็ไม่ใช่คนผิด ปาลินไม่จำเป็นต้องไปไหนทั้งนั้น แต่เป็นไอ้ตัวต้นเรื่องเสียมากกว่า ที่ต้องไสหัวไปให้ไกลจากชีวิตน้องกับหลานของเขา หากมันยังยืนยันว่าจะเลือกคนอื่น แทนที่จะเป็นครอบครัวของตัวเอง!
“ลินรู้ค่ะ แต่ลินไม่อยากใช้ลูกเป็นเครื่องมือในการยื้อใครไว้ ถ้าวันนี้ใจเขาไม่ได้คิดอยู่ที่ลิน ให้ลินไปเถอะนะคะพี่จอม ลินสัญญาค่ะ ว่าจากนี้ลินจะเข้มแข็งให้มาก จะดูแลเขาเป็นอย่างดี พี่จอมให้เราไปเถอะนะ…“ เกิดกลายเป็นความเงียบงันขึ้นกลางใจเมื่อน้องเลือกที่จะขอร้องกันทั้งน้ำตา แน่นอนว่ามันยิ่งจะทำให้ใจคนเป็นพี่ยิ่งรู้สึกโกรธทุกๆ คน ที่เป็นต้นเหตุของน้ำตาพวกนี้
“ตามใจแกก็แล้วกัน…”
หลังจากไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้วพบว่าตอนนี้ตัวเองตั้งท้องได้สองสัปดาห์ น้องสาวของเขาก็เดินทางไปต่างประเทศทันที เพราะไม่อยากให้เรื่องของลูกรู้ไปถึงหูของอีกคนเข้า ในขณะที่เขากับภรรยาเองนั้น ก็ทำในสิ่งที่ตกลงกันเอาไว้ตั้งแต่ก่อนแต่งงาน
นั่นคือหย่าร้างกันทันทีที่ครบเวลาหนึ่งปี!
แม้ว่ามันจะค่อนข้างผิดไปจากที่คิดไว้ เมื่ออีกคนไม่ได้มีท่าทีหวงแหนทะเบียนสมรสอย่างที่เคยนึกกลัว แต่กระนั้นเขาก็ยังยืนกรานคำเดิมว่าต้องการหย่าขาดจากหล่อนตามกำหนดเดิมที่วางไว้อยู่ดี เพราะคิดว่าชีวิตของเขานั้นมันคงมีความสุขมากกว่านี้ ถ้าไม่มีแม่ตัวดีคอยวุ่นวายอยู่ใกล้ๆ แต่ทว่ามันกลับไม่ใช่เลย
วินาทีที่เห็นคนที่นอนอยู่ในอ้อมกอดทุกคืนวันจรดชื่อลงบนใบหย่านั้น หัวใจเจ้ากรรมมันกลับรู้สึกวูบหล่นอย่างน่าใจหายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็ยังปั้นหน้าเย็นชาใส่ จวบจนทุกอย่างเสร็จสิ้น ถึงเดินนำอดีตเมียมาที่รถพร้อมกับหันไปสั่งเสียงแข็ง ตามนิสัยส่วนตัวที่ให้แก้ยังไงก็คงแก้ไม่หาย
“ขึ้นรถสิ! เดี๋ยวฉันไปส่ง” แม้บ้านหล่อนกับบ้านของตัวเองจะอยู่คนละเส้นทาง แต่กระนั้นก็ไม่ได้คิดจะใจร้ายให้เธอกลับเอง
“ฝนกลับเองดีกว่าค่ะ…” อวดดี! ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรให้อวด!
“ก็ตามใจ!” เขาตอบก่อนจะกระโดดขึ้นรถแล้วขับออกไป ทิ้งแต่อีกคน ที่มองตามเขาค่อยๆ หายไปจากสายตาจนสุดทาง
จนเมื่อแน่ใจว่าเขาไปไกลมากพอแล้ว ร่างบอบบางของปลายฝนถึงค่อยๆ ทรุดลงกับพื้นราวกับคนหมดสิ้นเรี่ยวแรง น้ำตามากมายที่กลั้นไว้ ก็พาลไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ แต่ถึงจะร้องไห้จนน้ำตาหมดตัวไป ก็คงไม่มีประโยชน์ ไม่มีเลยจริงๆ
ไม่ว่าเธอจะพยายามสักแค่ไหน สุดท้ายเธอก็เป็นได้เพียงแค่กาฝาก ที่เขาอยากจะผลักไสออกไปให้ไกลจากชีวิตเท่านั้น
เจ็บเสียให้พอวันนี้ เพื่อที่วันพรุ่งนี้จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่…
