บท
ตั้งค่า

บทที่3

เพราะเมื่อคืนแทบไม่ได้หลับพักผ่อน จึงไม่แปลกเลยที่ปลายฝนจะรู้สึกหน้ามืดเมื่อต้องมายืนตากแดดเป็นเวลานานๆ

“เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ!” และหากไม่ได้เพื่อนสามีที่อาสาเข้ามาช่วยพยุงแขนเอาไว้เธออาจล้มหน้ากระแทกไปแล้ว

“ฉะ…ฉันแค่หน้ามืดนิดหน่อยค่ะ ขอบคุณนะคะ” เพราะอย่างนั้นเธอถึงได้เอ่ยขอบคุณเขา ก่อนจะส่งยิ้มบางเบาให้ไปด้วยเพราะเห็นว่าเขาไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน แต่เป็นเพื่อนสามี

“สำออยสิไม่ว่า ขึ้นไปรอที่รถไป!” เพราะถูกตวาดเธอจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องรีบพาตัวเองขึ้นมารถเขาบนรถ ไม่นานร่างสูงก็ตามขึ้นมาติดๆ หลังจากใช้เวลาคุยกับเพื่อนของเขาอยู่พักใหญ่ ถึงเรื่องมากมายที่เขาอยากให้อีกฝ่ายเข้ามาช่วยดูแลให้

“นี่สรุปใจคอเธอจะไม่อ่อยผู้ชายสักวันมันจะลมแดงตายรึไงห๊ะ!” คำถามที่มาพร้อมแรงกระชากอย่างแรงนั้น ทำให้คนที่เริ่มมีอาการคั่นเนื้อคั่นตัว เหมือนจะเป็นไข้สั่นไหวไปมาอย่างรุนแรง

“คุณจอม…ฝนเจ็บค่ะ”

“ก่อนมาที่นี่ก็ไอ้มืดนั่น มาถึงตอนนี้ก็ยังให้ท่าเพื่อนของฉันอีก ทำไมไม่เลือกไปสักคน หรือว่าข้างในมันร้อนจัด จะเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น!” หนนี้เธอเลือกที่จะเงียบเพราะพูดไปก็คงไม่มีประโยชน์

เขาตัดสินเธอไปแล้ว ตัดสินเธอด้วยอคติในใจตัวเอง ต่อให้เธอจะพยายามทำดี หรือแก้ตัวให้ตัวเองสักแค่ไหนก็ไร้ผลอยู่ดี!

เพราะอย่างนั้นเมื่อเธอเลือกที่จะเงียบ อีกฝ่ายจึงขยับไปนั่งประจำที่ของตัวเอง จากนั้นไม่นานรถคันใหญ่ก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปพร้อมๆกับความเงียบงันที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กันไปตลอดทาง

“หายไปไหนกันมาค่ะ รู้ไหมว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว!” กระทั่งเมื่อกลับมาถึงบ้าน ประโยคแรกที่ดังขึ้นก็เป็นของแม่บ้านใหญ่ที่เฝ้ารอการกลับมาของนายน้อย อย่างใจจดใจจ่อนานร่วมชั่วโมง

“ทำไมครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“คุณท่านค่ะ…”

ด้วยการขับรถที่แทบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนของจอมราชทำให้เธอและเขา มาถึงโรงพยาบาลได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ซึ่งภาพที่ได้เห็นก็ทำให้เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อพบว่ามารดาที่อยู่ๆ ก็หมดสติไปนั้น ไม่ได้เป็นอะไรมากอย่างที่เขาและคนข้างกายนึกกลัว

“แม่เป็นยังไงบ้างครับ” เพียงเห็นหน้าลูก ความทรมานจากโรคร้ายก็ทุเลาลงราวปาฏิหาริย์ นั่นเองที่มันทำให้คนที่รู้ตัวว่าตนเองเหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว ตัดสินใจเอ่ยบางสิ่งออกมาเบาๆ

“แม่ไม่เป็นไรแล้ว แม่อยากคุยกับน้องตามลำพัง จอมออกไปรอข้างนอกก่อนได้ไหมลูก” หากไม่พูดเสียตอนที่ยังมีเรี่ยวแรงจะพูด นางก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะมีโอกาสแบบนี้อีกทีเมื่อไหร่

“ครับ” แม้จะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ที่มารดาให้ความสนใจคนอื่นมากกว่าเขาที่เป็นลูกแท้ๆ ของท่าน แต่กระนั้นจอมราชก็ยอมที่จะทำตามคำขอของท่านแต่โดยดี กระทั่งเมื่อลูกชายเดินออกไปจากห้องแล้ว เสียงแผ่วปลายของคนป่วยถึงได้เอ่ยขึ้น

“ทำไมหน้าถึงซีดแบบนี้ หรือถูกตาจอมแกล้งเอาอีกแล้ว”

“ไม่ใช่หรอกค่ะ ฝนแค่ไม่สบายนิดหน่อย คุณจอมไม่ได้ทำอะไรฝนจริงๆ นะคะ” ถึงต่อให้เขาจะทำจริง เธอก็ไม่คิดบอกให้ผู้มีพระคุณรู้อยู่ดี เพราะรู้ว่าสุดท้ายแล้ว ท่านจะต้องต่อว่าลูกชายเหมือนอย่างที่ทำมาตลอดทุกครั้ง ที่ได้รู้ว่าเขาหาเรื่องแกล้งกัน

ท่านอาจไม่รู้ว่าทุกครั้งที่ท่านเข้าข้าง หรือแม้แต่พยายามที่จะปกป้องเธอจากทุกสิ่ง ความเกลียดที่จอมราชมีต่อกันนั้นก็เหมือนว่าจะยิ่งเพิ่มขึ้นไปทุกวัน เพราะอย่างนั้นเธอจึงพยายามไม่สร้างปัญหา เพราะไม่อยากถูกเขาเกลียดไปมากกว่านี้อีกแล้ว

“ถ้าเราว่าแบบนั้นฉันก็จะเชื่อ ชีวิตคนเราน่ะนะมันสั้นนิดเดียว ตอนมีชีวิตอยู่อยากทำอะไรก็รีบทำเถอะ ไม่ต้องสนใจว่าผลที่ได้มันจะดีหรือร้าย แค่ไม่คิดทรยศหัวใจตัวเองเป็นพอ เธอเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม” ปลายฝนทำได้เพียงพยักหน้ารับด้วยความเข้าใจ คำสั่งสอนของท่านเธอไม่เคยลืม และจะไม่มีวันลืมไม่ว่าเมื่อไหร่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel