บทที่2
“จานไหน”
“คะ”
“จานไหนที่ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนทำ”
“เอ่อ ทะ…ทั้งหมดนี่เลยค่ะ” ช้อนในมือถูกรวบลงที่เดิมทันทีที่ได้รับคำตอบ ความอยากอาหารที่มีก่อนหน้าก็ลดทอนลงเกือบครึ่ง ทันทีที่ได้รู้ว่าอาหารหน้าตาน่ากินตรงหน้าเป็นฝีมือใคร
“คุณจอมจะไปไหนคะ แล้วอาหารเช้า…” กระทั่งเมื่อเห็นเจ้านายขยับลุกรันจวนสาวใช้ถึงได้เอ่ยถามไล่ตามหลังออกมา
“เอาไปเททิ้งให้หมด ฉันกินไม่ลง!” นั่นคือคำตอบที่เขามอบให้อีกฝ่าย ก่อนที่ร่างสูงจะเดินตรงไปยังรถแล้วขับมันออกไปจากบ้านด้วยความเร็วสูง ทิ้งไว้ก็แต่สาวใช้ ที่ได้แต่ยืนมองอาหารบนโต๊ะ ด้วยความรู้สึกสงสารปนเห็นใจคนทำอยู่ไม่น้อย
ภาพแรกที่ได้เห็นทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในออฟฟิศคือภาพของแม่ตัวดีที่ตอนนี้กำลังยืนส่งยิ้มระรื่นให้ไอ้เปรมชัย หนึ่งในพนักงานบัญชีที่เขาเพิ่งจะรับเข้ามาทำงานได้เพียงสองเดือน แต่ทว่าภาพความสนิทสนมของทั้งสองคนนั้น กลับมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ
“ขอบคุณมากเลยนะฝน นี่ถ้าไม่ได้ฝนช่วย เราคงแย่แน่ๆ ถ้ายังไงเดี๋ยวกลางวันนี้ไปทานข้าวด้วยกันนะ มื้อนี้เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง” คำขอบคุณที่มาพร้อมคำชวนของเพื่อน ทำให้ปลายฝนได้แต่ยิ้มรับด้วยความเต็มใจ เพราะอีกฝ่ายไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนร่วมงานเท่านั้น แต่เขายังเป็นเพื่อนสมัยมัธยมที่ไม่ได้เจอกันมานานของเธอด้วย เพราะฉะนั้นเธอจึงสนิทกับเขามากกว่าคนอื่นๆ
“ก็ได้ ถ้างั้นเราไปทำงานก่อนนะ” เสียงหวานตอบก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง กระทั่งเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นใครอีกคนเข้าถึงได้เงยหน้าเพื่อสบตากับเขา
“ตามมา! จะไปรอที่รถ!” เป็นจอมราชที่เอ่ยขึ้น ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินออกมารอที่รถ ไม่นานคนที่รออยู่ก็เดินตามกันออกมา
“เรากำลังจะไปไหนกันเหรอคะ”
“นั่งหุบปากไปเงียบๆ ถึงแล้วเดี๋ยวก็รู้เอง!” เมื่อเขาว่ามาแบบนั้น แล้วจะให้เธอพูดอะไรได้อีกนอกจากจะต้องเงียบเสียงลง
สถานที่ที่จอมราชพาขับรถมานั้นเป็นที่รกร้างว่างเปล่าแห่งหนึ่ง ซึ่งปลายฝนจำได้ดีว่ามันเป็นที่ดินผืนสุดท้ายของครอบครัวที่เพิ่งจะถูกเขายึดไปเพราะผู้เป็นพ่อขาดส่งดอกที่เอาไปค้ำประกันเงินกู้ติดกันหลายเดือน เรื่องนี้แม้จะเสียดายแต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก และเขาเองก็ไม่ได้ใจร้ายถึงขั้นไม่ให้เวลา
“เรามาทำอะไรกันที่นี่เหรอคะ”
“ฉันตั้งใจว่าจะทำรีสอร์ทเพิ่ม แต่แม่บอกให้มาถามเธอก่อนว่าโอเคไหม” แม้ว่าเขาจะได้ที่ดินผืนนี้มาครอบครองอย่างสมบูรณ์ถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ตาม แต่มารดาก็ยังยื่นคำขาดให้เขามาถามความเห็นกับเจ้าของเดิม ก่อนที่คิดจะทำอะไรบนที่ดินผืนนี้แทบจะทุกครั้ง เพราะอย่างนั้นเขาถึงต้องพาเธอมาที่นี่ในวันนี้ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้เริ่มทำอะไรที่คิดอยากจะทำกันพอดี
“ฝนยังไงก็ได้ค่ะ แล้วแต่คุณจอมเลย” ความจริงเขาไม่ต้องมาถามเธอก็ได้ เพราะยังไงเสียที่เดินผืนนี้มันก็เป็นของเขาไปแล้ว
โชคดีที่เธอไม่ใช่คนยืดติดกับสิ่งของ จึงรู้สึกเพียงแค่เสียดาย ที่ไม่โอกาสเก็บรักษาสมบัติของบรรพบุรุษของตัวเองไว้
“ถ้าแม่ถาม เธอก็ตอบไปตามนี้ก็แล้วกัน” เขารวบรัดเสร็จ ก็เดินตรงเข้าไปหาประมุข เพื่อนสนิทที่ตอนนี้ทำอาชีพรับเหมาก่อสร้างต่อจากครอบครัว ซึ่งอีกฝ่ายก็ยินดีที่จะช่วยทันทีที่เขาเอ่ยปากขอร้องให้บริษัทของมันรับงานนี้ ในส่วนเรื่องเงินนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย ขอแค่งานออกมาดีและเสร็จทันกำหนดเท่านั้นเป็นพอ อีกอย่างเขาไม่ไว้ใจให้คนอื่นทำ จะมีก็แต่เพื่อนนี่แหละที่เขาไว้ใจ
“คนนั้นเหรอ เมียแก เขาก็ดูน่ารักดีนี่หว่า”
คำถามของเพื่อนทำให้เขาต้องหันกลับไปมองอีกคนอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งถ้าถามว่าเธอน่ารักจริงไหม ก็ต้องตอบว่าน่ารักจริงอย่างที่เพื่อนเขาว่านั่นแหละ แต่แค่ความน่ารักคงไม่ได้ช่วยทำให้เขานึกพิศวาสอะไร เพราะในชีวิตก็เจอผู้หญิงน่ารักมามาก แต่กลับไม่มีใครเลย ที่จะกล้าเอาตัวเข้าแลกเพื่อหวังเงินทองมาก่อน
คนแบบนี้ล่ะที่เขาเกลียดเสียจนไม่อยากเข้าใกล้ แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถสลัดหล่อนออกไปจากชีวิตได้เสียที หรือไม่เขาก็ต้องอดทนรอไปจนกว่าวันหย่าร้างจะมาถึง!
