6 หากชาติหน้ามีจริง 2
ขณะเดียวกันจิ่นเสียนขยับตัวหนีกลุ่มมือสังหาร ซึ่งแม้ในยามนั้นโต้วเหวยถานได้ปรากฏตัว แต่คนของหมี่เจามีกำลังมาก และล้วนเป็นพวกที่เหี้ยมโหด
“ท่านแม่ทัพ ข้าจำได้ว่าเรื่องหลังบ้านทั้งหมด ท่านมอบให้ข้าดูแล เหตุใดถึงยื่นมือมาขัดขวาง”
“อนุหมี่ นับแต่นี้ สิ่งใดที่เจ้าเคยทำ ข้ายกเลิกทั้งหมด รวมถึงตำแหน่งอนุของข้า”
“โต้วเหวยถาน หลายปีที่ผ่านมา ข้าเฝ้ารอตำแหน่งฮูหยินแม่ทัพ แต่ท่านไม่เคยเห็นใจ ตระกูลข้ามิใช่คนต่ำต้อย อีกทั้งยังเกี่ยวพันถึงคนในราชวงศ์ แต่ตัวท่านยังพยายามทุกวิถีทางที่จะตัดแข้งขาไม่ให้ข้าเท่าเทียบกับสตรีคนอื่นๆ ดูเอาเถิด ทั้งที่สามีก็เป็นขุนนางระดับขั้นที่สอง แต่ข้ายังต่ำต้อยเพียงนี้”
“หากเจ้าถามหาเหตุผล ข้าจะบอกให้ นั่นเป็นเพราะเจ้าไม่เคยซื่อสัตย์ อยากเป็นใหญ่ในตระกูลโต้วเพราะต้องการอำนาจของกองทัพสนับสนุนตน”
“รู้ตอนนี้ก็สายเสียแล้ว ข้าทำลายทุกชีวิตในตระกูลท่านจดหมดสิ้น ข้อหากบฏคือสิ่งที่โต้วเหวยถานควรได้รับ เพราะท่านหักหลังข้า ฮิ ๆ ๆ”
หมี่เจากล่าว และนางเตรียมระดมกำลังคนของตนปิดฉากตรงหน้าลงเสีย ซึ่งอย่างไร ฝ่ายของนางได้เปรียบ อีกทั้งโต้วเหวยถานมีราชโองการให้จับตัวเขากลับเมืองหลวง หากจับเป็นไม่ได้ก็ให้จับตาย พร้อมส่งศีรษะเขาให้แก่ฮ่องเต้
“เรื่องบัดซบทั้งหลายที่เกิดขึ้นข้าไม่เคยเสียใจสักนิด และสมเพชเจ้าที่ อยากให้สกุลเคอ และสกุลหมี่สมหวังได้ครอบบัลลังก์ต้าเหลียงต่อไป โดยยอมแลกชีวิตผู้บริสุทธิ์มากมาย”
หมี่เจาส่ายหน้า และส่งเสียงแหลมสูงจัด
“มิได้ หากใต้หล้านี้ไม่มีหวังจิ่นเสียน เรื่องเลวร้ายทั้งหมดนี้ไฉนจะเกิดขึ้นเล่า”
“นั่นเป็นเพียงข้ออ้าง พวกเจ้าแค่ต้องการหาแพะรับบาป จิ่นเสียนคือองค์หญิงตกยาก และไร้ที่พึ่งตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาดูโลก มารดาก็ผลักไส ทั้งยังไม่อาจให้บิดานางล่วงรู้ว่า จิ่นเสียนมีตัวตนด้วย”
“ฮิๆ ๆ อย่าพล่ามเรื่องอื่นให้มาก พิษที่สะสมในร่างกายท่าน คงกำเริบอีกแล้ว ซึ่งข้ารู้ดีว่า หากท่านไม่รีบหาวิธีข่มพิษเอาไว้ ร่างกายย่อมเกินต้านทานไหว แม่ทัพโต้ว... ท่านมิใช่เทพสงครามอย่างผู้อื่นขนานนาม ให้ดีก็คือชายผมขาว ใกล้ตายผู้หนึ่ง”
โต้วเหวยถานหัวเราะเสียดังลั่น หมี่เจาเป็นลูกหลานขุนนางชั่ว และนางสนใจใคร่รู้เรื่องการใช้เล่ห์เหลี่ยมทั้งทางการค้า และเรื่องเจรจากับมิตรสหายที่พร้อมวางแผนก่อกบฏได้ทุกเมื่อ นางมีพี่ชายที่คอยเป่าหูฮ่องเต้ ทั้งคนในวังหลวงกึ่งหนึ่งอยู่ข้างสกุลหมี่ กระนั้นบารมีไม่อาจเทียบได้กับสกุลเคอ เนื่องจากฝ่ายนั้นคือผู้ก่อตั้งแคว้นต้าเหลียง เลยต้องร่วมมือกัน
เมื่อโต้วเหวยถานหัวเราะจบ เสียงจิ่นเสียนก็ดังขึ้น
“ต้าเกอ... ขะ ข้าต้มน้ำแกงดื่มอย่างที่ท่านบอกแล้ว ไว้ใจได้ ขะ ข้าหายป่วย และพร้อมรับใช้ท่านเสมอ”
สิ่งที่จิ่นเสียนกล่าว ทำให้คนที่ได้ยินต่างฉงน และคิดไปต่างๆ นานา กระทั่งหมี่เจาหัวเราะอย่างคนบ้าคลั่ง
“หวังจิ่นเสียนคือสตรีแพศยาโดยแท้ แม่ทัพโต้วท่านกับนางช่างไม่ละอายต่อสิ่งที่ทำ”
แล้วจู่ๆ ร่างของจวิ้นซีที่เหมือนจะแน่นิ่งไปได้หยัดตัวขึ้น แล้วดีดกระสวยเงินที่ซ่อนเอาไว้ในปาก เข้าใส่เหนือหัวไหล่จิ่นเสียน
“ข้าจะเป็นคนปลิดลมหายใจนางเอง เรื่องทั้งหลายนี้จะได้จบสิ้นเสียที”
สิ่งที่จวิ้นซีกระทำสร้างความโกรธแค้นต่อหมี่เจามาก นางเลยไม่รอช้า สั่งให้คนของตนสังหารนางโดยไม่ให้มีโอกาสฟื้นขึ้นมาอีก
“ทะ ท่านพ่อ ชีวิตนี้ข้าไม่เคยขอสิ่งใดท่านเลย ลึก ๆ ก็รู้ว่า ท่านมิใคร่เอ็นดูข้า ถึงอย่างนั้น ข้าบังอาจ ขอร้องท่าน ให้ช่วยเหลืออาเสียน... ภรรยาของข้าด้วย”
เซี่ยหมิงกล่าวจบ ก็อักเลือดเป็นสาย อาการเช่นนั้น ไม่นานคงได้ตามมารดาของเขาไป
“ลูกชาย... ข้าเรียกเจ้าเช่นนี้ ก็หมายความจริงตามนั้น แต่จิ่นเสียน ไม่ว่าในชาตินี้ หรือชาติหน้า เจ้าก็ไม่อาจครอบครองนาง เรื่องนี้ข้ามิอาจโกหกคนใกล้ตาย อีกอย่าง... เจ้ามิใช่ลูกชังของข้า และนับแต่จวิ้นซีอุ้มท้องเจ้า ข้าไม่เคยปฏิเสธที่จะรับผิดชอบชีวิตของทายาทสหายที่สละชีพเพื่อรับใช้บ้านเมือง”
“ทะ ท่านหมายความเช่นไร”
“เจ้ามิใช่สายเลือดของโต้วเหยวถาน ด้วยเหตุนี้เจ้าถึงได้ มีความหยิ่งผยอง และดื้อรั้นเสมอ สุดท้ายผิดพลาดเข้าร่วมมือกับพวกเร่ร่อนจนทำให้ตนพบจุดจบเช่นนี้ หมิงเอ๋อร์... ข้าต้องการทำหน้าที่บิดาให้เจ้า ผิดแต่จวิ้นซีเป็นฝ่ายพาเจ้าหลบหนีจากข้าเอง”
เซี่ยหมิงไม่อยากรับรู้สิ่งใดอีก เขาเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ ยามนั้นจึงหัวเราะเสียงขื่นด้วยความน่าสงสาร
และหมี่เจาที่มีนิสัยลอบกัดไม่เปลี่ยน คิดอาศัยจังหวะนั้นฆ่าเซี่ยหมิงไปอีกคน แต่โต้วเหวยถานก็ไว เขาใช้ระเบิดที่ได้มาเขวี้ยงเข้าใส่มือสังหาร ก่อนถีบพื้นสูงเพื่อไปหาจิ่นเสียน ส่วนหมี่เจานั้น ได้รับบาดเจ็บจากหน่วยเหยี่ยวไฟซึ่งส่งลูกปักเข้าที่ร่างกายนางหลายจุด
อึดใจต่อมา คือช่วงเวลาที่แสนบีบหัวใจเหลือเกิน
“ต้าเกอ... ชะ ชาติหน้ามีจริงหรือไม่”
“ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว เสียนเสียน ใจคิดอย่างไร ย่อมสมหวังเช่นนั้น”
“ดี เช่นนั้น ข้าขอให้ท่าน เป็นแม่ทัพสงครามที่แสนโหดเหี้ยม เผด็จการ หากมีใจเดียวต่อสตรีผู้หนึ่ง อีกทั้งไม่ว่านางจะอยู่แห่งหนใด ขอให้ท่านตามหาให้พบ และรักษานางเอาไว้”
ชายหนุ่มยิ้ม และยกหลังมือนางขึ้นจุมพิตด้วยความห่วงใย
“เสียนเสียน... สิ่งที่เจ้าต้องรู้ไว้ ข้าไม่ชอบให้สัญญาแก่ผู้ใด แต่สำหรับเจ้า บุรุษผู้นี้จะไม่มีวันปล่อยเจ้าให้หลุดจากมือเป็นอันขาด”
ชายหนุ่มบอกนาง ทว่าจิ่นเสียในชาติภพนี้ไม่อาจได้ยิน
