บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 งานมงคล (2/2)

เสียนเจิ้นหลง หรือเสียนอ๋อง คือบุรุษรูปงาม สมกับเป็นโอรสของฮ่องเต้ เส้นผมสีดำสนิทถูกรวบสูงแล้วสวมด้วยกวานทองของท่านอ๋องสูงศักดิ์ ใบหน้าของเขาได้รูปสมส่วนราวกับถูกสวรรค์ปั้นแต่งมาเป็นอย่างดี กรามนูนเด่นชัด คิ้วเรียวคมเข้มเรียงเส้นสวย ดวงตายาวรีได้รูปประดุจดวงตาเหยี่ยว นัยน์ตาสีนิลแวววาวทอประกายราวกับดวงดาวระยิบระยับในยามค่ำคืน มีแพขนตาหนางอนงามสร้างความอ่อนโยนให้กับดวงตาในบางครั้งคราว จมูกโด่งเชิดรั้นทรงสวย ริมฝีปากหยักนั้นแดงก่ำสุขภาพดี

ลำคอยาวเป็นสัดส่วนรับกับหัวไหล่กว้าง แผงอกใหญ่เด่นหราออกมาจากอาภรณ์สีแดง หลังตรงผึ่งผาย ร่างกายกำยำล่ำสัน สูงสง่าด้วยความสูงราวแปดฉื่อ เป็นความงดงามราวกับหยกแกะสลักชั้นดี

หลิวเซี่ยนเหยารีบเปลี่ยนสายตา เมื่อเสียนอ๋องหันกลับมามอง นางยอมรับเลยว่าหลังจากที่เห็นใบหน้าของเขา ความรู้สึกหวั่นไหวก็แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ บุรุษผู้นี้ฝังอยู่ภายในใจของนางมานานหลายปี แต่นางก็จำต้องข่มใจ เมื่อความหล่อเหลาของเขาเป็นเพียงสิ่งล่อลวงให้นางเข้าไปติดวังวนความทุกข์ทรมาน

หลังจากพิธีคำนับฟ้าดินจบลง นางก็ถูกส่งตัวเข้าไปในเรือนหลังใหญ่ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับชายาเอก นางเดินตามนางกำนัลผ่านเสียงดนตรีที่เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ จากฝีมือของนักสังคีตที่ถูกส่งมาจากรั้ววังหลิวเซี่ยนเหยาหาได้สนใจ ก่อนจะเดินเข้าไปในเรือนแห่งนั้นด้วยจิตใจที่ว่างเปล่า

หลังจากที่นางกำนัลออกไป หลิวเซี่ยนเหยายังคงนั่งนิ่งอยู่บนเตียงกว้าง เมื่อเข้ามาอยู่ในสถานที่ที่คุ้นเคย ความทรงจำอันแสนเลวร้ายก็ค่อย ๆ ไหลเข้ามาในภวังค์ความคิด

‘ครั้งก่อน...’

นางคิดในใจพาตัวเองย้อนกลับไปในอดีต วันนั้นนางรอคอยเสียนอ๋องอยู่ภายในเรือนด้วยความตื่นเต้น หัวใจของนางเต้นแรงราวกับจะปะทุออกมาจากอก ไม่กล้าแม้จะเปิดผ้าคลุมหน้า เพราะกลัวว่าจะไม่เป็นมงคลหากผู้เป็นเจ้าบ่าวไม่ได้เป็นคนเปิดมันออกด้วยตัวเอง

ตลอดเวลาหลายชั่วยามที่ผ่านไป นางยังคงรอคอยด้วยความหวังและไม่ย่อท้อ และไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทว่าไม่มีแม้แต่การเคลื่อนไหวของเขา แต่นางก็ยังใจสู้นั่งรอผู้เป็นสามีอยู่บนเตียงด้วยความมุ่งมั่น แม้จะสัปหงกไปอยู่หลายครั้งหลายครา

จนกระทั่งในที่สุด เสียนอ๋องก็เดินเข้ามาในเรือนหอเสียที หลิวเซี่ยนเหยายิ้มกว้างผ่านผ้าคลุมหน้า นางรู้สึกดีใจจนเหงื่อผุดพรายบนฝ่ามือ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาสร้างความเขินอายให้แก่นางจนต้องกัดริมฝีปากแก้เขินเมื่อเขายื่นฝ่ามือเข้ามาสัมผัสผ้าคลุมหน้าของเจ้าสาว

ก่อนที่ร่างบางจะสะดุ้ง เมื่อฝ่ามือหยาบหาได้เอื้อมมาเพื่อเปิดผ้าคลุมหน้าด้วยความอ่อนโยนดั่งที่นางวาดฝันเอาไว้ แต่เขากลับกระชากมันออกจนมงกุฎหงส์หลุดออกมาจากศีรษะจนนางรู้สึกเจ็บ ก่อนที่เขาจะปาผ้าคลุมหน้าลงบนพื้นด้วยสีหน้าที่กราดเกรี้ยวไม่พอใจ

“ทะ...ท่านอ๋อง”

ปึก!

ท่ามกลางความเงียบงันในเรือนหอที่ยามนี้ได้ถูกบรรยากาศแห่งความกดดันห้อมล้อมเอาไว้ ก่อนที่เสียนอ๋องจะหยิบหนังสือหย่าขึ้นมาจากแขนเสื้อแล้วเขวี้ยงใส่หน้าของหลิวเซี่ยนเหยา

“โอ๊ย...” นางร้องออกมาด้วยความเจ็บ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ

ในวันนั้นหลิวเซี่ยนเหยาแทบจะไม่เชื่อสายตาในสิ่งที่เกิดขึ้น มันเหมือนฝันร้ายที่ทิ่มแทงจิตใจของนางเสมอมา ความเย็นชาที่

เสียนอ๋องแสดงออกมา ไม่มีแม้แต่คำพูดดี ๆ หรือคำพูดอธิบายใด ๆ เลยสักนิด

“ลงชื่อในหนังสือหย่าเสีย...” เสียงของท่านอ๋องดุดัน ราวกับเป็นการบังคับให้นางยอมทำตามด้วยความหวาดกลัว

“หย่า...”

หลิวเซี่ยนเหยาเอ่ยถามเสียงเบา เมื่อหนังสือหย่าบนพื้นทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา ทั้งที่นางเพิ่งจะเข้าพิธีแต่งงานกับเขาได้ไม่กี่ชั่วยามก่อนหน้า

“ใช่ หย่า...ข้าไม่ได้อยากแต่งงานกับเจ้า!”

“ไม่! หม่อมฉันไม่หย่า เหตุใดหม่อมฉันจะต้องทำเช่นนั้น...”

นางสบตากับเขาด้วยความดื้อดึง แม้หัวใจดวงน้อยของนางจะแหลกสลายเพราะท่าทางที่ไร้หัวใจของเขา แต่นางก็กัดฟันแสดงความไม่ยินยอมออกไป เพื่อหวังจะให้เขารับฟัง ทว่า

“หากเจ้าอยากเป็นชายาเอกมากนัก ก็จงอยู่ไปเพียงผู้เดียว ส่วนข้าจะไปหาความสุขจากหลินหยู่เหมย สตรีที่ข้ารัก”

เสียนอ๋องยกยิ้มขึ้นด้วยความเย็นชา ก่อนจะเอ่ยปากบอกกับหลิวเซี่ยนเหยาด้วยท่าทางไม่ใส่ใจ แล้วเดินออกไปอย่างไร้ความปรานี

หลังจากที่ท่านอ๋องเดินจากไป หลิวเซี่ยนเหยาก็ร้องไห้ออกมาแทบขาดใจ ฝ่ามือเล็กขยำหนังสือหย่าที่ตกอยู่บนพื้นด้วยใจเจ็บ นางไม่คิดว่าเขาจะเป็นบุรุษใจร้ายถึงเพียงนี้ ด้วยความดื้อดึงนางจึงเดินออกไปจากเรือนหอเพื่อดูให้เห็นกับตา

ภายในเรือนหลังเล็กกว่าที่อยู่ไม่ไกลกัน สว่างเจิดจ้าไปด้วยโคมไฟมากมาย ดวงตาคู่งามที่สั่นไหวมองผ่านบานหน้าต่างเข้าไปด้วยความเจ็บปวด บุรุษที่นางมีใจให้โอบกอดกับสตรีที่เขาเอ่ยปากว่ารัก พร้อมกับมอบจุมพิตด้วยความดูดดื่ม ก่อนที่ร่างของทั้งสองจะเอนกายลงไปบนเตียงนอนเพื่อพร่ำบอกคำว่ารัก ด้วยท่วงทำนองที่ก้องสะท้อนไปทั่วทั้งจวน ‘เหมยเอ๋อร์ ข้ารักเจ้า...’ เสียงที่นางได้ยินยังคงเคล้าคลอไปพร้อมกับคำบอกรัก

ส่วนหลิวเซี่ยนเหยาจำต้องพาร่างกายที่อ่อนปวกเปียกกลับมายังเรือนของตน ท่ามกลางสายตาดูแคลนของนางกำนัล แต่นางก็ทำใจอดทนเสมอมา เพราะหวังว่าในสักวันเขาจะเห็นใจต่อความรักที่นางมีให้

คำพูดของเขายังคงดังก้องสะท้อนในใจหลิวเซี่ยนเหยา ในตอนนั้นนางบอกกับตัวเองว่า “จะไม่มีวันยอมหย่า” จนต้องพบเจอกับการต่อสู้ที่หนักหน่วงเช่นนี้

หลิวเซี่ยนเหยามีโอกาสได้ย้อนกลับมาในจุดเดิม นางจะไม่เลือกจุดจบเช่นเดิมเด็ดขาด ครานี้นางไม่ยอมให้ผู้ใดมาทำร้ายจิตใจของตัวเองได้อีกต่อไป
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel