บทที่ 3
“จะคุยกันอีกนานไหม แกน่ะไสหัวไปส่วนเธอน่ะมานี่!”ซานต้าที่เห็นว่าฉันหยุดเดินคุยกันแจ็คพูดขึ้นเสียงเข้มก่อนจะเดินย้อนกลับมากระชากแขนฉันให้ออกเดินตามท่ามกลางเสียงแหกปากของไอ้จอมตื้อแจ็คที่ดังตามหลังมาติดๆ ฉันถูกอีตาบ้าซานต้าลากมาจนถึงมุมอับภายในตัวบ้านที่ถูกเนรมิตให้ดูเหมือนถ้ำซะมากกว่าบ้านคนเพราะมันมืดมากซะจนฉันแทบจะมองไม่เห็นทางเดินที่ตอนนี้มีผู้ชายหน้าตาดีสองคนนั่งคลอเคลียอยู่กับผู้หญิงที่ตัวเองหนีบมาด้วยอย่างมีความสุขจนลืมไปเลยว่าพวกเราเดินมาใกล้และทิ้งตัวนั่งลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“แกมาช้านะซาน...”
ผู้ชายหัวเหลืองที่นั่งฝั่งตรงข้ามฉันพูดขึ้นโดยที่ไม่ละสายตาจากผู้หญิงของตัวเองเลยสักนิด เขาดมกลิ่นเอารึไงถึงรู้ว่าเพื่อนเขามาถึงแล้วน่ะ
“ฉันมาถึงตั้งแต่สองทุ่มแล้วแต่มัวยืนรอยัยงี่เง่านี่เลยเข้ามาช้า ว่าแต่ว่าไอ้เจ้าชายล่ะไปไหน” นั่นเป็นคำถามที่ถูกใจฉันที่สุดเลยล่ะขอบอก เจ้าชายของฉันอยู่ไหนกันนะตอนนี้ๆ
และอาจจะเพราะคำตอบที่ได้รับหรือกลิ่นตัวฉันที่แปลกแหวกออกไปก็เป็นได้เลยทำให้ผู้ชายหน้าหล่อสองคนละสายตาจากผู้หญิงข้างกายหันควับมามองฉันอย่างพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
“ฉันตาฝาดไปรึเปล่าวะไนท์” นายหัวทองถามเพื่อนอีกคนก่อนจะขยี้ตาไปมามองฉันด้วยอาการงงงัน
“ถ้าแกตาฝาดฉันก็คงฝาดด้วยวะไอ้ชาโดว์” สองคนนี้ถ้าจำไม่ผิดก็คงจะเป็นไนท์เจ้าชายเจ้าเสน่ห์กับชาโดว์เจ้าชายยิ้มหวานสองหนุ่มสุดฮอตจอมเจ้าชู้ประจำแก้งซีเคร็ทสินะ
เคยได้ยินแต่ข่าวที่พวกผู้หญิงร่วมห้องพูดถึงกันเพิ่งได้มีโอกาสเห็นตัวเป็นๆ ก็คราวนี้นี่แหละ จะหล่อกันไปไหนนะสองคนนี้ คัดเลือกคนที่จะเข้าร่วมแก้งที่หนังหน้ากันรึยังไง!
“นี่มัน....”
“ยัยมนุษย์หินฟลิ้นท์สโตนส์!” และแล้วทั้งสองหนุ่มก็ร่วมใจกันประสานพลังเสียงสุดยอดใส่หน้าฉันทันที
เดี๋ยวก่อนนะ!
นี่ลับหลังฉันถูกไอ้แก้งบ้าๆ นี่เรียกด้วยฉายานี้ยังไงเหรอ!!
เกินไปแล้วนะเจ้าพวกบ้า! การที่ฉันรักสันโดษไม่ชอบสุงสิงกับใครมันผิดบาปข้อไหนกันย่ะ ให้ตายสิ หงุดหงิดขึ้นมาหน่อยๆ แล้วนะขอบอก ถ้าหงุดหงิดมากกว่านี้ฉันอาจจะเผลอพังงานหรือฆ่าใครสักคนที่บังเอิญเดินผ่านก็ได้
“แกมัน…สุดยอดไปเลยวะเพื่อน ทำได้ยังไงวะที่ควงยัย...เอ่อ น้องเมบีคนสวยมางานนี้ได้น่ะ” ไอ้หัวทองถามขึ้นพร้อมกับทำสีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่กำลังเห็น มองกันตาไม่กระพริบซะขนาดนั้นทำไมไม่ขอลายเซ็นฉันไปเก็บเอาไว้ดมด้วยซะเลยล่ะยะ
“ขอลายเซ็นต์หน่อยสิ” ว๊ากกก เอาจริงเหรอเนี่ย!
“เงียบน่าชาโดว์ มีอะไรในโลกที่คนอย่างซานต้าทำไม่ได้รึไงวะ”
ขี้คุยดีจริงๆ
“แบบนี้พวกฉันก็แพ้น่ะสิวะ แกเล่นของสูงแบบนี้”หมายความว่ายังไง นี่พวกเขากำลังคุยกันถึงเรื่องอะไรงั้นเหรอ
“ช่วยไม่ได้นี่หว่า! พวกแกอยากมาพนันทำไมล่ะว่าถ้าใครควงสาวที่สุดยอดที่สุดในโรงเรียนมางานคืนนี้ได้จะได้ตั๋วร้านมนตราสองใบที่แม่ไอ้เจ้าชายจองเอาไว้ตั้งแต่สิบปีก่อนเพื่อไปดินเนอร์กับสาวๆ”งี้เองหรอกเหรอ ฉันมีค่าเพียงแค่ทำให้เขาได้รางวัลที่อยากได้งั้นเหรอ บัดซบจริงๆ
“ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
“เธอพูดได้!” มันจะตื่นเต้นอะไรนักหนาเนี่ยเจ้าบ้าหัวทอง ฉันเป็นคนนะยะไม่ใช่มนุษย์ยาง
“ฉันด่าได้ด้วยนะ นายอยากจะฟังไหมล่ะ!!”
“ขอโทษคร้าบบบ”
“ฮ่าๆๆ ยัยนี่ดุใช่เล่นวะไอ้ต้าร์ แกเจอของหนักเข้าให้แล้ว”ไนท์พูดขึ้นมาบ้างก่อนจะตบบ่าเพื่อนรักเป็นการปลอบใจ
“ไม่ต้องห่วง ฉันเอาอยู่น่า!” ซานต้าพูดขึ้นก่อนจะแสยะยิ้มอย่างผู้ชนะมาให้ฉัน จังหวะที่ฉันจะลุกเดินและแอบหนีกลับบ้านไปอย่างเงียบนั้นเขาก็คว้าข้อมือของฉันเอาไว้ ก่อนพร้อมกับดึงฉันให้โน้มตัวต่ำลงไปหาตัวเอง เพื่อจะบอกประโยคเด็ดๆ ให้ฉันได้ฟัง
“ถ้าภายในห้านาทีไม่กลับมา พรุ่งนี้เธอได้ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์โรงเรียนแน่ๆ” พระเจ้า...หรือใครก็ได้มาลากเจ้าบ้านี่ออกไปจากชีวิตของฉันที
ก่อนที่ฉันจะเผลอลงมือฆ่าเขาด้วยสองมือของฉันเอง!
หลังจากทำภารกิจในห้องน้ำเสร็จสรรพฉันก็เดินฝ่าผู้คนและเสียงเพลงที่ดังกระหื่มกลับมาที่โต๊ะเดิมอีกจนได้ แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมในตอนนี้คือเจ้าบ้าซานต้าที่กำลังนัวเนียอยู่กับผู้หญิงอีกคนนี่สิ มันหยามหน้ากันเห็นๆ เขาพยายามทำอะไรกันแน่นะ!
ถึงจะเป็นเรื่องปกติของเขาแต่กับฉันมันไม่ใช่เลยสักนิด เพราะใครๆ ก็เห็นมาเราเดินควงคู่มาด้วยกัน แต่จู่ๆ เขาทิ้งฉันไปนัวเนียกับผู้หญิงอีกคนแบบนี้ สงสัยไม่เคยตายสินะ!
ถ้าเป็นนางร้ายเหมือนในละครที่เคยดูฉันคงหยิบน้ำส้มที่วางอยู่มาสาดใส่พวกเขาให้หายแค้นไปแล้ว แต่เผอิญว่าฉันเป็นนางเอกซะด้วยสิ ฉันเลยเลือกที่จะนั่งลงไขว้ห่างก่อนจะแสยะยิ้มมองดูพวกเขาต่อไปอย่างใจเย็น
“เธอไม่โกรธเหรอ นี่มันหยามหน้ากันเห็นๆ เลยนะขอบอก”ไนท์ถามขึ้นอย่างอดสงสัยไม่ได้ ดูเหมือนหมอนี่จะสนอกสนใจอะไรในตัวฉัน มากกว่าผู้หญิงที่เขาหนีบเอามาด้วยซะแล้วนะเนี่ย
“ก็ไม่นี่”
“เธอมีหัวใจรึเปล่าเนี่ย”
“แล้วนายคิดว่าไงล่ะ” ฉันถามก่อนจะยกน้ำส้มคั้นที่วางอยู่ขึ้นมาจิบเบาๆ
“อาจจะมีแต่คงแข็งเป็นหินไปแล้ว เป็นผู้หญิงคนอื่นป่านนี้วีนแตกไปแล้วล่ะ” เพราะฉันไม่เหมือนยัยผู้หญิงไร้สาระพวกนั้นล่ะมั้ง ตบตีกันแย่งทำไมเพียงแค่ผู้ชายคนเดียว....ถ้าเป็นเจ้าชายของฉันล่ะก็ว่าไม่อย่าง รายนั้นแม่จะขอสู้สุดใจขาดดิ้นไปเลยเชียว
“กะ...กรี๊ดดด! เจ้าชายมาแล้วๆๆ”เพราะเสียงตะโกนที่ดังขึ้นทำให้หูผึ่งตาลุกวาว รีบมองไปตามต้นเสียงแทบจะทันทีทันใด
เจ้าชายมาแล้วจริงๆ ด้วย ร่างสูงในชุดสีขาวล้วนที่มีออร่าประกายวาววับรอบตัวกำลังเดินยิ้มร่ามาที่โต๊ะของพวกเราท่ามกลางเสียงกรี๊ดของชะนีรอบด้าน เจ้าชายเดินมายืนอยู่อยู่ที่โต๊ะก่อนจะมองไปรอบๆ อย่างงุนงง
“สงสัยฉันจะมาช้าไปโต๊ะเต็มหมดเลย” เจ้าชายทำหน้าน่าสงสารจนฉันอดไม่ไหวที่จะพูดอะไรที่ไม่ควรออกไป... .
“นั่งตักฉันก็ได้นะ”
“ห๊ะ! เธอว่าไงนะ!!” กรี๊ดดดด! นี่ฉันพูดบ้าอะไรออกไปล่ะเนี่ย เพราะเห็นว่าเจ้าชายทำท่าว่าจะเดินจากไปฉันเลยอดไม่ได้
ปากมันก็เลย...
“เธอใจดีจัง แต่ฉันตัวหนักมาก
