บท
ตั้งค่า

ทำไมถึงแต่งตัวเช่นนี้

"เจ้า...ทำไมถึงแต่งตัวเช่นนี้"

นางหยุดยืนตรงหน้าท่านอ๋อง ค้อมตัวเล็กน้อยก่อนตอบ “อย่าทรงสนใจเรื่องชุดของหม่อมฉันเลยเพคะ หม่อมฉันมาเพื่อเอ่ยขอบคุณท่านที่ช่วยชีวิตเอาไว้ หม่อมฉันไม่มีอะไรตอบแทนท่านในตอนนี้ แต่หากท่านมีสิ่งใดที่ต้องการให้หม่อมฉันทำ หม่อมฉันยินดีตอบแทนความกรุณาของพระองค์เพคะ"

ท่านอ๋องนิ่งไปชั่วขณะ ดวงตาคมกริบจ้องมองนางอย่างเย็นชา ก่อนที่เขาจะถอนหายใจเบา ๆ และหันไปสั่งสาวใช้ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ "ผู้ใดแต่งตัวเช่นนี้ให้นาง เอาตัวบ่าวไร้ประสิทธิภาพผู้นั้นไปโบยเสีย !"

สาวใช้ที่รู้ตัวว่าตนเองโดนลงโทษแน่รีบก้มตัวน้อมรับความผิดอย่างรวดเร็ว "พะ เพคะ ท่านอ๋อง"

สตรีผู้เป็นต้นเหตุของปัญหาก้าวเข้ามาขวางข้างหน้าสาวใช้ที่ไม่ได้ทำอันใดผิดแต่กำลังถูกลงโทษอย่างไม่เข้าใจ นางขมวดคิ้วเล็กน้อย "ชุดนี้มันดูไม่ดีถึงขนาดนั้นเลยหรือเพคะ ไยจึงต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วยเพคะ หากหาคนที่ผิดย่อมเป็นหม่อมฉันหาใช่นาง"

"ไม่เพคะ ชุดที่ท่านสวมไม่ถูกต้องเพคะ ข้าน้อยรู้แต่ไม่สามารถห้ามคุณหนูได้ย่อมเป็นความผิดของข้าน้อย"

ท่านอ๋องหลินหยางยกมุมปากเล็กน้อย ก่อนลุกขึ้นยืนเบี่ยงหน้าหันไปมองนอกหน้าต่าง "ครั้งนี้ช่างเถอะเจ้าแต่งตัวเองเช่นนี้...ข้าคิดว่าเจ้าคงยังไม่คุ้นเคยกับเสื้อผ้าของคนที่นี่ และข้าขอชื่นชมในความกล้าของเจ้าที่กล้าทำกล้ารับความผิด"

“หม่อมฉันมีความผิดหรือเพคะ”

“โถ่ คุณหนู ได้โปรดสงบปากลงหน่อยเถอะเจ้าค่ะ”

“...” เมื่อเห็นใบหน้าใกล้ร่ำไห้ออกมาเต็มแก่ของสาวใช้ผู้นั้นจึงทำให้คนที่ไม่คิดว่าตนเองมีความผิดเพียงเพราะสวมใส่เสื้อผ้าไม่ถูกใจของใครยอมปิดปากลงไม่เอ่ยเถียงต่อไป นางเลือกจ้องเขม็งไปที่บุรุษผู้เป็นใหญ่เหนือคนที่นี่โดยไม่เกรงกลัวแตกต่างจากข้าราชบริพารคนที่เวลานี้เห็นเจ้านายของตนยืนขึ้นเอามือไพล่หลังเช่นนี้ก็รู้สึกหวั่นเกรงพากันค้อมศีรษะลงต่ำไม่กล้าสบตามองแล้ว

“เอาเถอะ ข้าไม่ถือสาคนป่วย เห็นว่าท่านหมอบอกว่าเจ้าร่างกายบอบช้ำหนัก บาดแผลลึกเต็มเรือนกายน่าจะไม่สามารถลุกเดินได้หลายวัน...” ดวงตาคมกริบกวาดสายตามองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเพื่อยืนยันสิ่งที่ตนเองได้ยินมาซึ่งชายหนุ่มเห็นผ้าพันแผลบางแห่งมีเลือดซึมโผล่ออกมาจากชุดประหลาดนี้จริงอย่างที่ได้ยินจริง ภายใต้ใบหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึกบังเกิดความสงสัยขึ้นมาทว่าเลือกปัดทิ้งไป “...แต่เจ้าคงไม่เจ็บ ดูท่าข้าคงต้องเปลี่ยนท่านหมอรักษาคนใหม่ดูแล้วล่ะ ช่างคาดเดาอาการคนไข้ของผู้ป่วยตนเองหาความแม่นไม่ได้สักนิด”

“...” ใครบอกไม่เจ็บกัน หญิงสาวที่ยืนหลังตรงเดินเหินได้ปกติเถียงออกมาในใจ

นางเจ็บแต่แค่ชินชา จำไม่ได้ว่าทำไมต้องอดทนแสดงท่าทีให้ดูเหมือนคนไม่เจ็บ แต่แค่รู้สึกว่าบาดแผลพวกนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย

"เอาเถอะ เจ้าไม่จำเป็นต้องไปเปลี่ยนชุดตอนนี้ ข้าจะมีงานต่ออีก..." เสียงของท่านอ๋องเย็นชา และตัดจบการสนทนาอย่างฉับพลัน “ข้ามีเรื่องจะพูดกับแม่นางพอดี อาการดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่”

หญิงสาวยืนนิ่งรู้สึกถึงบรรยากาศที่กดดันรอบตัว

"หม่อมฉันรู้สึกดีขึ้นแล้วเพคะ ขอบคุณท่านที่ช่วยเหลือหม่อมฉัน" นางกล่าวเสียงเบาพลางมองไปที่เขา "แต่หม่อมฉัน...ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าท่านช่วยหม่อมฉันเพราะเหตุใดพวกเรารู้จักกันหรือ"

"ข้ายังมิได้อนุญาตให้เจ้าเอ่ยถาม” ท่านอ๋องยังคงไม่หันกลับมา ดวงตาคมของเขามองตรงไปข้างหน้าน้ำเสียงยังคงเย็นชาเหมือนเดิม “เจ้ารู้สึกเจ็บปวดที่ใดอีกหรือไม่"

"หม่อมฉันไม่เจ็บปวดมากเท่าไหร่นักเพคะเพียงแค่ความจำหม่อมฉันเหมือนจะหายไป...จำไม่ได้แม้กระทั่งว่าตนเองเป็นใครมาจากไหน..."

"เจ้าจำอะไรเกี่ยวกับตัวเจ้าไม่ได้เลยหรือ"

"เพคะ หม่อมฉันจำสิ่งใดไม่ได้เลย จำได้เพียงแต่ใบหน้าของท่าน...ตอนที่ท่านช่วยหม่อมฉันไว้"

คำพูดนั้นทำให้ท่านอ๋องหลินหยางเงียบไปครู่หนึ่ง เขาหลับตาลง ราวกับกำลังครุ่นคิดสิ่งใดอยู่

“ในเมื่อเจ้าจำอะไรไม่ได้ ข้าจะตั้งชื่อใหม่ให้เจ้า" เขากล่าวเสียงเรียบเรียบ "จากนี้ไป ให้ทุกคนเรียกเจ้าว่า เฟิงฉีหลิน"

นางมองเขาด้วยความงุนงง ชื่อใหม่...เฟิงฉีหลินงั้นหรือ

นางพยักหน้าอย่างช้า ๆ

"ขอบคุณท่านอ๋องที่ประทานชื่อใหม่ให้หม่อมฉันเพคะ"

“อืม”

หลังจากนั้น นางก็ตั้งใจจะพูดในสิ่งที่นางค้างคาใจจนไม่ชอบความรู้สึกนี้มาตลอดตั้งแต่ฟื้นขึ้นมา "แล้วหม่อมฉันจะต้องตอบแทนท่านอ๋องอย่างไรหรือเพคะ"

ในความรู้สึกของนางแม้ไร้ความทรงจำทว่าสมองมักคิดอยู่เสมอว่า บนโลกนี้ไม่มีสิ่งใดได้มาโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน

ท่านอ๋องหันหน้ากลับมาทางนางในที่สุด ใบหน้าของเขายังคงเยือกเย็นแต่สายตาของเขาดูเหมือนกำลังพิจารณาบางอย่าง

อ๋องหนุ่มนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง

"ข้ามีสิ่งหนึ่งที่เจ้าอาจทำเพื่อข้าได้ แต่ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ความสมัครใจของเจ้า ข้าหาได้ต้องการบังคับใคร"

นั่นไง

เฟิงฉีหลินรู้สึกถึงความเย็นปกคลุมไปทั่วหัวใจราวกับก่อนความทรงจำเสื่อมนางเคยเผชิญหน้ากับการตอบแทนบุญคุณใครเป็นประจำอยู่แล้วจนชินชา

ซึ่งเป็นเรื่องที่นางในเมื่อก่อนคงไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก

“ตกลงเพคะ”

เฟิงฉีหลินตอบโดยไม่ได้ตริตรองก่อนเนื่องจากลึก ๆ ในใจนางไม่อยากติดหนี้บุญคุณผู้ใดเลยแม้แต่เล็กน้อยก็ตาม

“! !” ตกใจกันทั้งห้องรวมถึงคนถามด้วยเนื่องจากยังไม่ทันบอกสิ่งที่จะให้ตอบแทนเลยสักคำน่ะสิ

“หึ หึ เจ้าช่างเป็นคนประหลาดยิ่งนัก ไม่กลัวข้าสั่งให้เจ้าไปฆ่าคนเพื่อตอบแทนบุณคุณหรอกหรือ”

“...” เฟิงฉีหลินเลือกเงียบดีกว่าตอบสิ่งที่ตนเองคิดออกไป สมองอันไร้ความจำใด ๆ นี้ดันประมวลผลออกมาว่า...ไม่กลัว...เสียอย่างนั้น

จะให้นางตอบออกไปได้อย่างไรเล่า

“หามิได้เพคะ หม่อมฉันแค่ไม่คิดว่าพระองค์จะเลือกใช้สตรีบอบบางอย่างหม่อมฉันในงานประเภทนั้นต่างหาก”

“อืม ข้าถูกใจในความใจกล้าของเจ้ายิ่งนัก มองไม่ผิดที่ข้าคิดว่าเจ้าเหมาะที่สามารถทำงานนี้ได้”

“หม่อมฉันตกลงตอบแทนพระคุณพระองค์เพคะไม่ว่าจะทรงให้ทำสิ่งใดก็ตาม”

“ดี เช่นนั้นข้าจะถือว่าเจ้าตกลงแต่งงานมาเป็นพระชายาให้อ๋องอย่างข้าแล้วนะ”

“! !”

หา แต่งงาน?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel