
บทย่อ
เมื่อนักฆ่าสาวทะลุมิติมาโดยไร้ซึ่งความทรงจำใดทั้งสิ้นมีแต่สัญชาตญาณที่สร้างความตื่นตะลึงให้คนรอบข้าง ไหนจะต้องทดแทนพระคุณโดยกลายไปเป็นพระชายาของท่านอ๋องโดยไร้เกียรติอีก!!!
บทนำ
ในยุคสมัยราชวงศ์จื้อเจี้ยนที่แผ่ขยายอำนาจปกครองประเทศจีน ฮ่องเต้หลินซิงได้ครอบครองบัลลังก์ด้วยอำนาจและความเที่ยงธรรม แคว้นเฉิงฮว๋า หนึ่งในแคว้นขนาดเล็กที่อยู่ภายใต้การปกครองของฮ่องเต้หลินซิงเป็นแคว้นที่มีความเจริญรุ่งเรืองด้วยการค้าและวัฒนธรรมหลากหลาย ชาวบ้านต่างทำมาหากินตามวิถีชีวิตประจำวันของพวกเขา แต่เรื่องราวที่เป็นจุดสนใจของตลาดในช่วงนี้ไม่ได้มีเพียงสินค้าเท่านั้น เสียงนินทากระซิบกระซาบที่กลายเป็นกระแสในหมู่คนทั่วไปคือตำนานความลับของต้าอ๋องหลินหยาง ผู้ซึ่งเคยเป็นที่รู้จักในฐานะชายผู้อาจจะเป็นพวกตัดแขนเสื้อ
"ได้ยินข่าวกันหรือยัง" เสียงแม่ค้าผักเอ่ยขึ้นขณะที่ยื่นหัวไชเท้าให้ลูกค้าประจำ "ต้าอ๋องหลินหยางน่ะ ข้าได้ยินมาว่าพระองค์ค์จำใจต้องรับชายาไร้สกุลเข้าวัง !"
"หืม? เรื่องนี้จริงหรือ ข้าคิดว่าอ๋องท่านนั้นไม่สนใจสตรีเสียอีก" หญิงอีกคนหนึ่งที่ขายผ้าในตลาดเข้ามาร่วมวงสนทนา
"เขาว่ากันว่านางเป็นสตรีที่เก่งในการทอดสะพานน่ะสิ ขนาดต้าอ๋องหลินหยางที่แสนโหดร้ายและแข็งกระด้างไม่ต่างอันใดจากคมดาบจนพวกเราชาวแคว้นคิดว่าพระองค์ทรงมีความชอบไม่ปกติยังตกหลุมพลางจำใจรับผิดชอบ"
"แล้วอย่างนี้ฮ่องเต้หลินซิงจะว่าอย่างไรบ้างเล่า ต้าอ๋องท่านนั่นไปแต่งกับหญิงต่ำศักดิ์เช่นนี้" ผู้ขายผ้าส่ายหัว "เห็นทีข่าวลือว่าอ๋องหลินหยางชอบพอชายคงเป็นแค่ข่าวลวงกระมัง"
เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังไปทั่วตลาด เป็นการสนทนาที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและการนินทาที่ไม่รู้จบ เรื่องราวของเหล่าราชวงศ์เป็นที่สนใจของชาวบ้านเสมอ และเรื่องนี้ ต้าอ๋องหลินหยางที่เคยถูกเล่าลือว่าเป็นชายรักร่วมเพศ กลับต้องมาแต่งงานกับหญิงที่ไร้ชื่อเสียงและฐานะเป็นหัวข้อใหม่ที่ไม่มีใครพลาด
สิบวันก่อนหน้า
ในยามค่ำคืนเมืองเฉิงฮว๋ากล่าวถึงสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยความครึกครื้นแสงไฟสีสันจากโคมระย้า เสียงบรรเลงดนตรีครื้นเครงแม้ว่าท้องฟ้ามืดสนิท ณ สถานที่รื่นเริงทว่าผู้คนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงแม้แต่จะเดินผ่านหากไม่จำเป็น นั่นคือหลังหอนางโลมอันมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในแคว้น
หอนางโลมแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องสตรีงามล้ำ อาหารรสเลิศหาได้ง่ายดายเพียงมีเงินตำลึงมากพอภายใต้หลังม่านหลังคา ในเวลานี้ ณ สวนหลังหอนางโลมในค่ำคืนนี้ของมันกลับเงียบสงบอย่างผิดสังเกต มีเพียงร่างของสตรีร่างเพรียวบางสมส่วนในชุดดำรัดรูปกำลังนอนสลบไสลหลังสิ่งก่อสร้างเก่า สายลมพัดแผ่วเบาทำให้เส้นผมสะบัดไหวแต่ร่างสตรีปริศนานั้นก็ยังคงไม่ขยับเคลื่อนไหว ร่างเพรียวบางมองดูแล้วช่างอ่อนแรงและเหน็ดเหนื่อย เรือนร่างสาวเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์
หนึ่งในมามาแต่งหน้าจัดวัยกลางคนเดินเข้ามาพร้อมกับลูกน้องชายอีกห้าคนที่นางเรียกใช้งาน หยุดยืนมองร่างไร้สตินั้นอย่างสนใจ ใบหน้าที่เปิดเผยออกมานอกไรผมทำให้สีหน้าของมามาแสดงออกถึงความคาดหวังและโลภะเมื่อสำรวจมองใบหน้าของสตรีตรงหน้า
“งามมิเหมือนใคร เช่นนี้แหละลูกค้าข้าชอบ ฮิฮิ”
มามาก็คิดในใจทันทีว่าหากจับตัวนางผู้นี้ไปเลี้ยงไว้ที่หอนางโลมของตน สตรีผู้นี้จะกลายเป็นนางโลมดาวเด่นคนใหม่ได้ไม่ยาก ใบหน้าที่งดงามและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครของสตรีแต่งตัวแปลกประหลาดช่างดึงดูดใจมากเกินไปที่จะปล่อยให้หลุดมือ
"พวกเจ้าเข้าไปพลิกดูร่างนางให้ข้าดูดีดีซิ"
มามาออกคำสั่งพร้อมกับหันมองลูกน้องชายทั้งห้า ชายคนหนึ่งก้าวเข้าไปใกล้แล้วโน้มตัวเพื่อสัมผัสร่างหญิงสาวที่ยังคงนอนนิ่ง เมื่อปลายนิ้วสัมผัสร่างนั้นทันใดเปลือกตาของนางที่พวกเขาคิดว่าไร้สติก็เบิกโพล่งขึ้นมา
แววตาสีดำสนิทราวกับว่าพวกเขากำลังมองดูก้นเหวที่ไร้จุดสิ้นสุด ดูเยือกเย็นจนดูเหมือนกำลังจ้องมองจากจิตวิญญาณของยมทูต ความว่างเปล่าและความเย็นชาที่ปรากฏในดวงตาของสตรีตรงหน้าทำให้ชายฉกรรจ์ถึงกับสะดุ้งถอยหลังด้วยความตกใจและหวาดกลัวโดยไม่รู้ตัว
"แค่สตรีตัวเล็กแค่นี้พวกแกยังจัดการไม่ได้อีกหรือ" มามาตวาดใส่เสียงแหลม "ถ้าตื่นแล้วก็ทุบหัวนางให้สลบ แล้วแบกตัวมาเดี๋ยวนี้ !"
แต่ก่อนที่ชายทั้งหลายจะลงมือทำตามคำสั่ง สตรีในชุดดำลุกขึ้นยืนตั้งหลักอย่างรวดเร็ว แม้ว่าร่างกายของนางจะแสดงท่าทีเหนื่อยอ่อนเต็มทีแต่ใบหน้างามนั้นกลับปราศจากการแสดงว่าเจ็บปวดใด ๆ แม้ว่าจะเห็นบาดแผลที่กระจัดกระจายไปทั่วร่างกายก็ตาม
สิ่งที่ทำให้ชายตัวใหญ่กว่าสตรีชุดดำทั้งหลายรู้สึกขนลุกชันคือท่ามกลางสภาพร่างกายที่ดูราวกับกำลังเจ็บปางตายแต่พลังในสายตาของนางที่มองจ้องกลับมายังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความไม่เกรงกลัว
ชายคนหนึ่งพุ่งเข้าหมายจะจับตัวนาง แต่เพียงชั่วพริบตา สตรีชุดดำก็ก้มหลบพลางใช้มือดึงไม้แหลมที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นมาและไม่ลังเลที่จะเล็งพุ่งแทงเข้าที่คอของชายคนนั้นอย่างแม่นยำ เลือดพุ่งกระจายเต็มพื้น เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นเมื่อชายคนนั้นล้มลงกับพื้น ท่ามกลางความตกตะลึงของคนที่เหลือ
"จะ...จัดการนางเดี๋ยวนี้ !" มามาแผดเสียงอย่างเดือดดาล แต่ชายคนอื่น ๆ ที่เหลือกลับไม่กล้าเข้าหา ความหวาดกลัวปรากฏขึ้นในแววตาของพวกเขา พวกเขาถูกปลูกฝังให้กลัวสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ และตอนนี้สตรีในชุดดำคือสิ่งนั้น
หญิงสาวไม่หยุดนิ่งนางหมุนตัวอย่างชำนาญพลางใช้ทุกสิ่งรอบตัวมาเป็นอาวุธแม้เวลานี้ดูเหมือนร่างกายอ่อนล้าเต็มที แต่ความสามารถในการต่อสู้ของนางเกินกว่าที่คนธรรมดาจะรับมือได้ ทุกการเคลื่อนไหวของนางราวกับถูกฝึกฝนมาอย่างเข้มงวดและเชี่ยวชาญ ไม่นานนักร่างของลูกน้องชายทั้งห้าก็ล้มลงทีละคน จบชีวิตของพวกเขาในพริบตา
เบื้องหลังสถานที่ครึกครื้นในยามกลางคืนกลับกลายเป็นลานสังหารที่เต็มไปด้วยเลือด
มามาซึ่งยังคงยืนตะลึงอยู่กับความน่ากลัวของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัว สตรีในชุดดำเดินเข้ามาใกล้ มือนางและร่างของนางเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดของลูกน้องชายพวกนั้น แต่สายตาของนางยังคงเยือกเย็น มือข้างหนึ่งจับไม้แหลมที่เปื้อนเลือด ขณะที่อีกมือยื่นมาหานาง
"อย่า ! อย่าทำข้าเลย" มามาแผดเสียงร้องด้วยความกลัวสุดขีด เสียงของนางสั่นเครือและร่างกายก็สั่นด้วย ความตายที่กำลังคลืบคลานมาถึงทำให้นางกลัวจนสมองไม่สามารถสั่งให้ขยับตัวได้
สตรีชุดดำหยุดอยู่ตรงหน้ามามา จับจ้องมองด้วยสายตาเยือกเย็น ก่อนที่นางจะยกไม้แหลมขึ้น
ทว่ายังไม่ที่นางจะทันได้ลงมือ ความเจ็บปวดอย่างฉับพลันก็แล่นไปทั่วร่างกาย สตรีชุดดำรู้สึกวิงเวียนจนต้องหยุดนิ่ง มือที่ถือไม้แหลมสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้ สติของนางเริ่มพร่ามัวจนไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้อีกต่อไป นางสะดุดถอยหลังสองสามก้าว ก่อนจะก้มตัวลงพร้อมกับอาเจียนออกมา
มามาซึ่งยืนตะลึงอยู่เริ่มขยับตัวถอยหนีอย่างรวดเร็ว ทิ้งเสียงร้องไห้สั่นเครือไว้เบื้องหลัง
ในขณะที่สตรีในชุดดำกำลังจะล้มลง เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นในความมืด มีชายกลุ่มหนึ่งที่สวมชุดเกราะแสดงถึงความเป็นทหารกำลังเดินเข้ามาใกล้ หัวหน้ากลุ่มทหารคนนั้นเป็นบุรุษท่าทางองอาจ สวมเกราะหนักสีดำที่สะท้อนแสงไฟที่เหลือเพียงเล็กน้อยในที่นั้น ดาบยาวที่ข้างเอวของเขาสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและมีอำนาจ
"หยุดเดี๋ยวนี้ !" เขาออกคำสั่งด้วยเสียงก้องกังวาน เมื่อสตรีชุดดำเหลือบมองไปยังเขา นางจดจำใบหน้าของเขาได้ในพริบตาแม้ว่าดวงตาจะเริ่มพร่ามัวจากความเหนื่อยล้าและบาดเจ็บ แต่ใบหน้านั้นยังคงเด่นชัดในความทรงจำของนาง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงบและอำนาจและก่อนที่จะสลบส้มลงกระแทกพื้นนางจำได้ดีว่าเป็นบุรุษคนนั้นกำลังเร่งฝีเท้าก้าวเข้ามาช่วยเหลือนาง...
