บท
ตั้งค่า

หนึ่ง ตอบแทนบุญคุณท่านอ๋อง

เสียงลมแผ่วเบาพัดผ่านหน้าต่างห้อง ก่อให้เกิดเสียงคล้ายเพลงธรรมชาติบรรเลงไพเราะ ผ้าม่านผืนบางไหวกระทบกันเป็นระลอก ดวงตาของหญิงสาวบนเตียงค่อย ๆ ปรือลืมขึ้นอย่างเชื่องช้ากะพริบเล็กน้อยเพื่อปรับสายตาให้พร้อมรับแสงที่ส่องเข้ามาผ่านช่องหน้าต่างในห้อง หัวสมองของนางยังว่างเปล่าเช่นเคย ความคิดค่อย ๆ ปะติดปะต่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่นางจะเริ่มรับรู้ได้ถึงความอ่อนเพลียทั่วทั้งร่างกาย

นางพยายามขยับตัว แต่ทันใดนั้นความสับสนและความรู้สึกหวาดระแวงไหลเข้ามาท่วมท้นในจิตใจ

นี่มันที่ไหนกัน?

สายตาคมดุจเหยี่ยวมองไปรอบ ๆ ห้อง หัวของนางยังคงว่างเปล่า ไร้ซึ่งความทรงจำใดใดทั้งสิ้น นอกจาก...

“ล่าสุด ฉันกำลังเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ชายมากมาย พวกมันมาร้าย...” เสียงหวานพึมพำทั้งที่ยังไม่ลุกขึ้นจากเตียง “แล้วก็...”

ภาพใบหน้าของชายในชุดเกราะคนหนึ่ง

ชายที่หน้าตาหล่อเหลาและดูดุร้ายไม่แพ้กัน

ช่างน่าประหลาดที่นางจำใบหน้าของชายผู้นั้นได้อย่างชัดเจนราวกับแววตาและใบหน้านั้นสลักลึกลงไปในจิตใจเรียบร้อยแล้ว เขาคือผู้ที่ช่วยนางจากกลุ่มชายที่พยายามจะพานางไปที่ไหนสักแห่ง

เอาจริง ๆ คือจำไม่ได้ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นอีก

"คุณหนูฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ" เสียงนุ่มนวลดังขึ้นข้างเตียง ทำให้คนเพิ่งฟื้นหันไปเห็นหญิงสาวในชุดเรียบง่ายสะอาดตา ผู้หญิงคนนี้ดูแลนางอยู่ในห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

หญิงสาวพยายามพูด แต่เสียงที่ออกมากลับแหบพร่า "ที่นี่...คือที่ไหน?"

"ที่นี่คือจวนของต้าอ๋องหลินหยางเจ้าค่ะ ท่านอ๋องเป็นผู้ช่วยชีวิตคุณหนูเอาไว้จากพวกคนที่อ้างว่าคุณหนูเป็นคนของหอนางโลมเจ้าค่ะ"

นางขมวดคิ้ว ความจำฉากการต่อสู้เลือนลางที่พร่าเลือนค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมาทีละน้อย แต่นางยังไม่สามารถต่อภาพได้ทั้งหมด "หอนางโลม...ฉันเป็นนางโลมเหรอ...ไม่ใช่สิคนพวกนั้นไม่ได้หวังดีต่อฉัน"

"คุณหนูพูดจาแปลกประหลาดยิ่งนัก ท่านต้องมิใช่คนที่แคว้นของเราแน่ แต่คุณหนูไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ ท่านอ๋องไม่เชื่อเรื่องคุณหนูเป็นคนของหอนั้นหรอกแม้ว่ามามาผู้นั้นจะบอกว่าคุณหนูถูกลูกค้าขโมยออกมาก็ตาม ท่านอ๋องเลยตัดปัญหาโดยการจ่ายค่าตัวเพื่อช่วยคุณหนูออกมา" สาวใช้ยิ้มเล็ก ๆ พลางจัดหมอนให้นางนอนสบายขึ้น "ท่านอ๋องเป็นคนดีมากเจ้าค่ะ เห็นแบบนี้แต่ท่านมีจิตใจเมตตา"

แม้ว่าจะไม่ได้รู้สึกพิเศษใดกับคำพูดเหล่านั้นแต่ความรู้สึกบางอย่างบอกนางว่าโชคดีมากที่ได้พบกับเขา

"ท่านอ๋อง..."

นางพึมพำเบา ๆ ใบหน้าของชายคนนั้นปรากฏขึ้นอีกครั้งในหัวสมองอันว่างเปล่า

"ฉันจำอะไรไม่ได้เลย...ไม่สิข้า ข้าไม่รู้ว่าข้าเป็นใครหรือเกิดอะไรขึ้นกับข้า ข้าจำได้แค่ใบหน้าของท่านอ๋อง...เขาช่วยข้าไว้"

"ไม่ต้องกังวลไปเจ้าค่ะ คุณหนูอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ท่านอ๋องจะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายคุณหนูอีก พระองค์มีคำสั่งให้ข้าน้อยดูแลคุณหนูอย่างใกล้ชิด"

“ไม่จำเป็น เสียเวลาเปล่า” น้ำเสียงปฏิเสธอย่างเย็นชาสื่อถึงความไม่ต้องการความช่วยเหลือซึ่งท่าทีตอบสนองเช่นนั้นทำให้สาวใช้ผู้หวังดีสะดุ้งตกใจ ก่อนที่คนพูดจะรู้สึกตัวว่าตนเองเผลอแสดงท่าทีไร้มารยาทโดยไม่รู้ตัว “เอ่อ ขออภัย ข้ารู้สึกไม่ชอบที่ตนเองจำอะไรไม่ได้สักอย่างเลยพลอยน้ำเสียงไม่ดีใส่เจ้าไปด้วยแถมยังไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัว...จึงคิดว่าไม่รบกวนเจ้าดีกว่า”

สาวใช้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดด้วยเสียงอ่อนโยน "คุณหนูไม่ต้องเร่งรีบ ข้าน้อยเชื่อว่าความทรงจำจะค่อย ๆ กลับมาเอง ท่านอ๋องหลินหยางทรงให้คุณหนูพักฟื้นอยู่ที่นี่จนกว่าจะหายจากอาการป่วยเจ้าค่ะ"

“...”

แม้นางจะยังคงไม่แน่ใจว่าสิ่งใดเป็นจริงสิ่งใดควรเชื่อ แต่ความอบอุ่นจากคำพูดของสาวใช้ทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย

หญิงสาวที่เพิ่งฟื้นพยายามยืดตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ร่างกายยังคงอ่อนแรงและภาพในหัวหมุนเล็กน้อย สาวใช้เห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้ามาช่วยพยุงนาง "คุณหนูอย่าเพิ่งฝืนตัวเองเลยเจ้าค่ะ ร่างกายคุณหนูยังไม่แข็งแรง"

"ข้าไม่เป็นไร ข้ารู้สึกว่าติดหนี้บุญคุณท่านอ๋อง ข้าควรจะไปขอบคุณพระองค์หรือไม่ก็ตอบแทนพระคุณให้หายติดค้างเสียก่อน"

"ท่านอ๋องไม่ได้คาดหวังสิ่งเหล่านั้นหรอกเจ้าค่ะ"

"แต่ข้า..." นางกัดริมฝีปาก รู้สึกถึงความอึดอัดในใจ นางไม่อยากให้การช่วยเหลือนี้เป็นเพียงการกระทำที่ทำให้นางติดค้างกับผู้ใดโดยไม่มีแม้กระทั่งคำขอบคุณ นางต้องการพบเขา ต้องการเห็นใบหน้าของเขาอีกครั้งเพื่อแสดงเจตนาของนาง

"ข้าอยากเข้าเฝ้าท่านอ๋องจริง ๆ" นางเอ่ยเสียงแผ่วเบาแต่หนักแน่น น้ำเสียงนั้นสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในใจ

สาวใช้ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ถอนหายใจเบาแม้นางจะรู้ว่าคุณหนูผู้นี้ยังไม่แข็งแรงพอ แต่ก็ไม่อาจต้านทานความดื้อรั้นได้ "ถ้าอย่างนั้น ข้าน้อยจะช่วยแต่งตัวให้ท่านนะเจ้าคะ เพื่อให้ท่านพร้อมเข้าเฝ้าท่านอ๋อง"

คนฟังขมวดคิ้วเล็กน้อย หันไปมองสาวใช้อย่างไม่เข้าใจ "ทำไมต้องให้เจ้าช่วย ข้าแต่งตัวเองได้"

สาวใช้ยิ้มอย่างใจเย็น "เป็นหน้าที่ของข้าน้อยเจ้าค่ะ การเข้าเฝ้าท่านอ๋องต้องแต่งกายให้เหมาะสม ข้าน้อยจึงอยากช่วยให้ท่านแต่งตัวสะดวกขึ้น"

ถึงแม้นางจะไม่เข้าใจเหตุผลทั้งหมด แต่ด้วยความไม่อยากสร้างปัญหาจึงพยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจนัก สาวใช้จึงเดินไปหยิบชุดผ้าไหมที่ดูงดงามออกมาเตรียมพร้อมสำหรับนาง

เมื่อสาวใช้เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับชุดในมือเพื่อจะวัดขนาดตัวให้ สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นเกินกว่าที่ทั้งคู่จะคาดคิด หญิงสาวรู้สึกถึงความระแวงแล่นเตือนภัยผ่านทั่วร่างกายราวกับสัญชาตญาณบางอย่างตื่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ทันทีที่สาวใช้ยื่นมือเข้ามา มือว่องไวกลับคว้าข้อมือของสาวใช้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะบิดแขนของสาวใช้ไปด้านหลัง ล็อคเอาไว้แน่นจนร่างของสาวใช้ไม่สามารถขยับได้

"โอ๊ย ! ข้าน้อยเจ็บ ! แขนข้าจะหักแล้วเจ้าค่ะ !"

นางปล่อยมือทันทีเมื่อได้ยินเสียงร้องของอีกฝ่ายจนได้สติทำสิ่งที่ไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองทำ...

ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจที่ตนเองทำอะไรลงไปโดยไม่รู้ตัว สาวใช้ถอยห่างออกไปด้วยใบหน้าซีดเผือด ขณะที่นางนั่งนิ่งมองมือของตนเองเหมือนกับไม่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือตัวเอง

"ข้า...ข้าขอโทษ" นางพูดด้วยเสียงสั่นเครือความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาท่วมท้นหัวใจ นางยกมือขึ้นมาตีมือตัวเองเบา ๆ ด้วยความรู้สึกว่าตนเองทำผิดร้ายแรง "ข้าไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ"

สาวใช้ยืนตัวสั่นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยายามยิ้มเพื่อให้สถานการณ์คลายความตึงเครียด "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่เจ็บมากที่ร้องเพราะแค่ตกใจเท่านั้น"

"ไม่...ข้าขอโทษจริง ๆ"

หลังจากสาว ใช้เงียบไปสักพักนางก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง "ข้าคิดว่าข้าจะแต่งตัวเองดีกว่า เรื่องแค่นี้ ข้าจัดการเองได้ ไม่ต้องรบกวนเจ้าหรอก"

สาวใช้มองหน้าอย่างลังเล แต่สุดท้ายก็พยักหน้า "ถ้าเช่นนั้น ข้าน้อยจะรออยู่ข้างนอก หากท่านต้องการความช่วยเหลือเรียกข้าได้เสมอเจ้าค่ะ"

นางพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนที่สาวใช้จะเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้อยู่คนเดียวในห้องอันเงียบสงบ นางนั่งอยู่ครู่หนึ่ง มองมือของตนเองด้วยความสับสน ร่างกายของนางตอบสนองรวดเร็วอย่างที่นางไม่เข้าใจ อาการความจำเสื่อมอาจพรากความทรงจำแท้จริงไปจากนาง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนไปคือความตื่นตัวของร่างกาย สัญชาตญาณนั้นยังคงทำงานอย่างแข็งขัน แม้ว่าความคิดจะยังพร่าเลือน

คิดมากเกินไปแล้ว...นางถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ชุดผ้าไหมที่สาวใช้เตรียมไว้ มือบางหยิบมันขึ้นมา มองดูความงดงามของมันในมือ รู้สึกถึงผ้าเนื้อนุ่มลื่นที่ให้ความรู้สึกสบายเมื่อสัมผัสแม้ว่าจะไม่คุ้นเคยกับชุดทำนองนี้สักเท่าไหร่ก็ตาม

เวลาผ่านไปราวสองก้านธูป

ในห้องพักที่เงียบสงบนั้นมีหญิงสาวยืนอยู่หน้ากระจก มองตนเองในชุดผ้าไหมโบราณที่ไม่คุ้นเคย ทั้งที่พยายามแต่งตัวเองให้เรียบร้อย แต่เสื้อผ้าชุดนี้กลับทำให้นางสับสนอย่างมาก นางสวมใส่บางชิ้นผิดที่ผิดทางจนดูแปลกประหลาดไปหมด สายผ้าที่ควรจะพันเอวกลายเป็นผ้าโพกหัวอย่างงง ๆ ในขณะที่กระโปรงยาวที่ควรคลุมขากลับถูกรัดทำเหมือนกางเกง

"ทำไมต้องซับซ้อนขนาดนี้นะ..." นางพึมพำกับตัวเองพลางขมวดคิ้ว

เมื่อมั่นใจว่าตนเองแต่งตัวเรียบร้อย (แม้จะไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่) หญิงสาวหน้ากระจกสูดลมหายใจเข้า-ออกลึก ๆ ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไปพบชายผู้ช่วยชีวิตของนางเพื่อกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ ลึก ๆ ในใจคิดว่าบางทีนางอาจจะได้คำตอบเกี่ยวกับความทรงจำที่หายไปด้วยจากชายผู้นี้ด้วยก็เป็นได้

หญิงสาวเปิดประตูห้องเดินออกมาอย่างมั่นใจ แม้ไม่รู้ตัวว่าชุดที่สวมใส่อยู่จะสร้างความวุ่นวายตามมาได้เพียงใด

ทันทีที่เดินผ่านสาวใช้คนแรกเสียงหวีดร้องดังขึ้น "ว้าย ! คุณหนูเจ้าคะ ชุดนั้นมัน..." สาวใช้คนนั้นมองนางด้วยดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความตกตะลึงทว่าวสตรีที่โดนทักทำเพียงยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินต่อไป ไม่สนใจเสียงร้องตกใจรอบตัว

ขณะที่นางเดินผ่านโถงทางเดิน เสียงหวีดร้องของสาวใช้และคนงานที่เห็นนางในชุดประหลาดก็ดังขึ้นเป็นระลอก ทุกคนหันมามองด้วยความประหลาดใจ ไม่ใช่เพราะนางไม่สวย แต่เพราะชุดที่สวมใส่ไม่เข้าที่เข้าทางเอาเสียเลยต่างหาก

"คุณหนูเจ้าคะ ชุดนั้นผิด !" สาวใช้คนหนึ่งตะโกนเรียก แต่นางเพียงยักไหล่แล้วเดินต่ออย่างไม่ใส่ใจ

“เพียงแค่เครื่องนุ่งห่มทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องยุ่งยากจนเสียเวลากันด้วย ช่างเถอะ ข้าจะไปเข้าเฝ้าท่านอ๋องด้วยชุดนี้ก่อนแล้วค่อยกลับมาให้พวกเจ้าสอนสวมชุดอีกทีแล้วกัน”

สาวใช้อีกคนรีบวิ่งเข้ามาขวางหน้า "คุณหนูเจ้าคะ ท่านต้องแต่งตัวใหม่ก่อนเข้าเฝ้าท่านอ๋อง ชุดนี้ไม่เหมาะสมเลย"

"ไม่เป็นไร ข้าอยากเข้าไปขอบคุณท่านอ๋องก่อน " นางตอบเสียงเรียบ พลางเดินผ่านไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้เหล่าสาวใช้ยืนมองตามอย่างอึ้ง ๆ

ในที่สุด นางก็เดินมาถึงห้องโถงใหญ่ ที่ซึ่งท่านอ๋องหลินหยางประทับอยู่เพื่อคุยสั่งงานกับข้าราชบริพาร ทันทีที่นางก้าวเข้ามาในห้อง บรรยากาศกลับตึงเครียดขึ้นทันตา ทหารยามและข้าราชบริพารหันมามองนางอย่างไม่เชื่อสายตา ทุกสายตาจับจ้องไปที่ชุดประหลาดที่นางสวมใส่

ไม่ยกเว้นแม้แต่เจ้าของจวนแห่งนี้

ท่านอ๋องหลินหยางเงยหน้าขึ้นมองนาง ใบหน้าของเขาคลายความสงบสุขกลายเป็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยและความเคร่งขรึมแต่ยังคงรักษาความสง่างามของเขาไว้

"เจ้า...ทำไมถึงแต่งตัวเช่นนี้"
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel