บทที่ 6: หญิงในม่านแดง
กลิ่นกำยานหวานฉุนลอยคลุ้งตั้งแต่หน้าประตูไม้สลัก
ม่านผ้าสีแดงฉานพริ้วไหวตามแรงลมอ่อน ชวนให้บรรยากาศคล้ายทั้งเชื้อเชิญและข่มขู่ในคราวเดียวกัน
หอม่านแดง
ที่แห่งนี้เป็นเส้นทางลับของพ่อค้า นักฆ่า และสายลับผู้ซื้อขายความลับด้วยราคาที่สูงเกินกว่าชีวิตคนธรรมดาจะจ่ายได้
และคืนนี้ ลั่วอวิ๋นถูกนัดมาที่นี่...โดย "หญิงปริศนา" คนหนึ่ง
เขาก้าวเข้าสู่ห้องโถงเบื้องหน้า
ทุกสายตาของเหล่าหญิงสาวในชุดแดงก่ำต่างพุ่งมาหาเขา แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
เพราะเสื้อคลุมเปื้อนเลือดแห้งกรัง
และกลิ่นของ "ความตาย" ที่เกาะติดร่างเขาอย่างเหนียวแน่น
ที่กลางโถง
เบื้องหลังม่านผ้าบางเบาแผ่นหนึ่ง
มีร่างสตรีนั่งรออยู่แล้ว
เธอสวมเพียงชุดบางสีชาดที่แทบปกปิดผิวขาวซีด ใบหน้าใต้แสงตะเกียงมีผ้าคลุมบางปิดไว้ เหลือเพียงดวงตาคู่คมที่เปล่งประกายเยือกเย็น
เสียงของเธอดังขึ้นอย่างแผ่วเบา
แต่แฝงด้วยอำนาจบางอย่างที่ทำให้บรรยากาศรอบตัวเย็นเยียบลงทันควัน
"เจ้าคือศรไร้เสียง?"
"แล้วเจ้าคือใคร?" ลั่วอวิ๋นถามกลับเสียงเรียบ
เงาสีแดงในม่านหัวเราะเบา ๆ
เสียงหัวเราะนั้นทั้งเย้ายวน ทั้งเยาะเย้ย
"ข้า...คือผู้ที่ถือกุญแจสู่คอของหลี่เหยียน"
มือของนางชูขึ้นช้า ๆ
เผยให้เห็น "กำไลกระดูกขาว" ที่สลักอักขระโบราณสีเลือด
นั่นคือ “ตราประทับการควบคุมทหารอสูรระดับสูง”
สิ่งที่ราชสำนักและสายลับทุกคนล่าตามหามานานหลายปี
ลั่วอวิ๋นเหลือบตามองเพียงเสี้ยววินาที ก่อนยกนิ้วเรียกหญิงสาวในม่าน
"ออกมา"
ไม่มีการอ้อนวอน ไม่มีการอธิบาย
มีเพียงคำสั่งสั้น ๆ ดุดัน
และนาง...ก็เชื่อฟังอย่างน่าประหลาด
สตรีปริศนาก้าวออกจากม่านอย่างช้า ๆ
ร่างกายอ่อนช้อย แต่เต็มไปด้วยร่องรอยแผลเป็นจาง ๆ บนแผ่นหลัง และต้นขา
เครื่องหมายที่บ่งบอกว่าเธอเคยเป็น “ทาส” ในโครงการทดลอง
เธอหยุดอยู่ห่างจากเขาเพียงครึ่งก้าว
สายตาไม่หลบเลี่ยง แต่ตรงข้าม—จ้องมองเขาราวกับจะฉีกกะโหลกเข้าไปอ่านความคิด
"เจ้าอยากได้ตรานี้?"
"แล้วเจ้าจะแลกด้วยอะไร?"
ลั่วอวิ๋นไม่ตอบทันที
เขาเพียงเดินเข้ามาใกล้อีกก้าวจนระยะห่างแทบไม่มี
ปลายนิ้วสัมผัสชายผ้าโปร่งเบา ๆ ก่อนลากไล้ขึ้นสู่ข้อมือบอบบางที่สั่นไหวด้วยแรงอดกลั้น
เสียงเขาแผ่วเบาแต่เฉียบคม
เหมือนธนูที่กำลังดึงจนสุดสาย
"ข้าจะแลกด้วยการ...ทำให้เจ้าไม่ต้องเป็นเหยื่ออีกต่อไป"
หญิงสาวในม่านแดงยิ้ม...รอยยิ้มเศร้า
ราวกับไม่เชื่อ
แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความปรารถนาเล็ก ๆ ในใจตน
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหนักหน่วงหลายคู่ก็ดังขึ้นจากชั้นล่างของหอม่านแดง
เสียงประตูไม้บานใหญ่ถูกถีบเปิดด้วยแรงมหาศาล
หน่วยลอบสังหารของหลี่เหยียน บุกเข้ามาแล้ว!
ลั่วอวิ๋นไม่แม้แต่จะหันมอง
เพียงคว้าข้อมือหญิงสาวแล้วกระชากเธอขึ้นแนบตัวอย่างรวดเร็ว
"จับข้าไว้ให้แน่น" เขากระซิบ
และก่อนที่นักฆ่าจะพุ่งเข้ามาถึง
เขาก็เหวี่ยงร่างบางขึ้นบนบ่า
กระโดดทะลุหน้าต่างไม้เก่า ๆ ท่ามกลางเสียงตะโกนโหวกเหวกของเหล่านักฆ่า
อากาศกลางคืนเย็นเฉียบบาดผิว
เสื้อคลุมของเขาโบกสะบัดเป็นทางยาวขณะทะยานข้ามหลังคาหลังหนึ่งไปยังอีกหลัง
หญิงในม่านแดงกอดลำคอเขาแน่นด้วยแรงทั้งหมดที่มี
"บอกข้า..." ลั่วอวิ๋นพูดเสียงแข็งขณะยังคงเคลื่อนตัว
"ใครเป็นคนส่งเจ้ามา?"
หญิงสาวสั่นสะท้าน...ก่อนกระซิบเสียงแผ่วที่ข้างหูเขา
"เจ้าชายซุนเยวี่ยน..."
ลั่วอวิ๋นหรี่ตาลงอันตราย
เจ้าชายซุนเยวี่ยน...หนึ่งในพระญาติชั้นสูงของแคว้นซุนหลิง
ผู้มีอำนาจพอ ๆ กับหลี่เหยียน และมีข่าวลือว่าคือผู้อยู่เบื้องหลังโครงการทดลองอสูรตั้งแต่ต้น
การล้างแค้นครั้งนี้...ใหญ่เกินกว่าที่เขาคาดไว้เสียแล้ว