บท
ตั้งค่า

บทที่ 5: เสียงปีกแห่งความตาย

เช้าวันใหม่ในชิงหยางเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ฟ้าหม่น...

สายลมเหม็นคาวเลือด...

และท้องถนนยังคงเต็มไปด้วยเศษซากแห่งความหวาดกลัว

แต่สำหรับลั่วอวิ๋น ชีวิตได้เคลื่อนไปไกลเกินกว่าจะเรียกคืนว่า "ปกติ"

เขาเดินออกจากหอนางโลมโดยไม่หันหลังกลับแม้แต่นิด

ปล่อยให้เสวี่ยเหมยนอนฟุบแนบพื้น เย็นชาจนราวกับกลายเป็นเพียงร่างไร้วิญญาณ

ที่ตลาดชายเมือง เสียงกระซิบแพร่สะพัดว่า

"ศรไร้เสียงกลับมาแล้ว"

"สงครามเงียบจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง"

แต่ในความจริง ไม่มีเสียงใดดังพอจะเตือนพวกเขา...

ว่าศัตรูที่แท้จริงไม่ได้มาในรูปลักษณ์ของอสูร

ในตรอกลับเบื้องหลังตลาดหลัก

ลั่วอวิ๋นพบกับ “หน่วยข่าวกรองสายลับ” ที่เจ้าชายเซี่ยชิงจัดไว้ให้

แต่สิ่งที่เขาเห็นคือเศษซาก...

เศษเสื้อผ้าเปื้อนเลือด...

และเศษเนื้อที่ยังอบอุ่นอยู่

ทุกคนในหน่วยสายลับถูกสังหารหมู่

ไม่มีใครรอด...แม้แต่เด็กส่งสารวัยสิบสองปี

ลั่วอวิ๋นคุกเข่าลงข้างร่างเล็ก ๆ นั้น ใช้นิ้วไล้ตามบาดแผลที่ลากจากขมับไปถึงคอ

มันคือฝีมือของ "มีดสั้นปลายงอ" — อาวุธเฉพาะของหน่วยลับฝ่ายหลี่เหยียน

หลี่เหยียนรู้แล้วว่าเขามา

และเพื่อไม่ให้ลั่วอวิ๋นมีสายข่าวในเมือง

เขา "ทำลายทุกเบาะแสที่ยังหายใจได้"

เสียงกระพือปีกดังขึ้นเหนือหลังคา

ลั่วอวิ๋นหันขวับพร้อมยกธนู

สิ่งที่ร่อนลงมากลางลานไม่ใช่นกธรรมดา...

มันคืออสูรนกกลายพันธุ์

ขนดำหนากลืนแสง ร่างยาวเท่ามนุษย์สองคน

ที่ขาทั้งสองข้างของมันมีตราสัญลักษณ์สีเลือดสด—สัญลักษณ์ของ “นักล่าแห่งปีกโลหิต” กลุ่มนักฆ่าชั้นสูงที่สุดของแคว้นซุนหลิง

นกอสูรส่งเสียงร้องแหลมจนก้อนหินเล็ก ๆ รอบตัวแตกกระจาย

ลั่วอวิ๋นต้องเคลื่อนไหวทันที ก่อนที่แรงสั่นสะเทือนจะทำลายประสาทการทรงตัวของเขา

ศรแรก...พลาด

ศรที่สอง...เฉียดปีก

ศรที่สาม...ปักเข้ากลางหัวใจ!

แต่ก่อนที่ร่างนกจะตกลงพื้น ร่างคนสามคนในเสื้อคลุมดำก็กระโจนออกจากมุมตึก พุ่งเข้าหาเขาพร้อมมีดสั้นปลายงอในมือ!

พวกมันไม่ได้มาฆ่าอย่างเดียว พวกมันมาทรมาน

ลั่วอวิ๋นหลบการแทงอย่างเฉียดฉิว แต่ร่างหนึ่งในนั้นก็เฉือนปลายแขนเขาได้

โลหิตสาดเป็นสายบนอากาศ

ความเจ็บแล่นขึ้นสมองทันควัน

แต่แทนที่เขาจะถอยหนี...

ลั่วอวิ๋นกลับ ยิ้มบาง ๆ

เขาเอาศรแทงทะลุฝ่ามือของนักล่าคนหนึ่งอย่างไร้เสียง

หมุนตัวรวบมีดปลายงอจากมือศัตรู และแทงสวนกลับด้วยท่ารวดเร็วจนปลายมีดทะลุโหนกแก้มของอีกคน

ไม่เกินสิบอึดใจ...ร่างทั้งสามก็ล้มลงเหมือนหุ่นเชิดขาดสาย

เลือดไหลนองพื้น ผสมกับหยาดน้ำค้างที่ยังคงไม่ระเหย

ลั่วอวิ๋นหายใจถี่เล็กน้อย แต่ไม่แม้แต่จะเช็ดเลือดบนใบหน้าตนเอง

เขาเดินไปยังร่างนักล่าคนสุดท้ายที่ยังมีลมหายใจ

นั่งยองลง...และเอื้อมมือขยุ้มผมอีกฝ่ายขึ้น

"ใครส่งเจ้ามา?" เขาถามด้วยเสียงเบา ๆ

ไม่มีคำตอบ...มีเพียงเสียงขากระอักเลือด

ลั่วอวิ๋นไม่ได้รอ

เขาดึงเข็มเงินเล่มเล็กจากซองเก็บข้างเอว

เสียบมันเข้ากลางจุดชีพจรบริเวณข้อมือของศัตรู—จุดที่ต่อกับหัวใจ

ศิลาวิชาโบราณ — เข็มสลายปราณ

มันทำให้หัวใจที่ยังเต้นอยู่ “ขยายตัว” จนแตกออกเองภายในสองร้อยอึดใจ

ศัตรูดิ้นพราดเหมือนถูกเผาทั้งเป็น

ลั่วอวิ๋นเฝ้ามองโดยไร้แววตาสงสาร

และก่อนที่มันจะตาย

ศัตรูสบตาเขาแล้วเปล่งเสียงสุดท้ายออกมาแผ่วเบา:

"องค์ชาย...องค์ชาย...ซุน..."

แล้วลมหายใจก็ดับวูบลง

ลั่วอวิ๋นยืนนิ่งอยู่กลางกองศพนานนับนาที

ใบหน้าไร้อารมณ์

เหมือนกำลังสืบทอด “จิตวิญญาณของนักล่า” จากศพเหล่านี้เข้าสู่ตัวเอง

เพราะในสนามรบแห่งนี้...มีเพียงผู้ที่โหดเหี้ยมกว่าจึงจะอยู่รอด
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel