บท
ตั้งค่า

บทที่3 [นางคือคนรักของท่านจริงหรือ]

หานเยว่ปล่อยให้จิตใจจมอยู่กับความคิดของตนได้เพียงไม่นาน เยว่ซินก็ได้เริ่มถามคำถามที่นางสงสัยในทันที

“ท่านแม่ทัพ เช่นนั้นข้าขอถามท่าน เมื่อยามที่นางอยู่ ท่านได้อยู่เคียงข้างนางเช่นนี้หรือไม่” เยว่ซินถามคำถาม โดยไม่คิดที่จะอ้อมค้อมเลยแม้แต่น้อย ในเมื่อเขาเอ่ยปากออกมาแล้วว่าให้นางถามได้ เช่นนั้นนางก็จะถามในสิ่งที่ค้างคาอยู่ภายในใจของนางสักที

“ยามนั้นข้าออกรบ” หานเยว่กล่าวตอบ ในขณะที่สายตาของเขายังคงจับจ้องไปยังร่างของฮูหยินของตนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดอยู่ภายในใจอย่างท่วมท้น

“สิ่งที่ท่านกระทำไปตามหน้าที่ ฮูหยินของท่านคงเข้าใจได้ เช่นนั้นแล้ว สิ่งที่ข้าอยากรู้ก็คือ เมื่อยามที่ท่านกลับมายังจวนแห่งนี้ แล้ว ท่านปฏิบัติต่อนางเช่นไร” เยว่ซินยังคงถามคำถามต่อไป หากแต่ใบหน้าหรือน้ำเสียงของนางนั้น ไม่ได้ปรากฏถึงความอยากรับรู้ในคำตอบของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

“ขะ ข้าละเลยต่อนาง” หานเยว่กล่าวตอบพร้อมด้วยความรู้สึกละอายแก่ใจไม่น้อย

“อดีตเคยละเลย แล้วเหตุใดท่านไม่ละเลยนางต่อไปเล่า” เยว่ซินเพียงแค่ถาม หากแต่ในคำถามนี้กลับเป็นเหมือนมีดที่กรีดแทงเข้าไปที่ดวงใจของหานเยว่เข้าอย่างจัง

“ข้ายอมรับว่าในอดีตเป็นตัวข้าที่โง่เขลา ข้าละเลยนางและทำให้นางต้องเสียใจไม่น้อย แม้สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น จะเป็นเพราะข้าได้ทำความทรงจำที่เคยมีร่วมกันกับนางหล่นหายไปก็ตามที แต่ข้าก็ไม่อาจกล่าวอ้างว่าความเสียใจของนางที่เกิดจากข้านั้นไม่ได้เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำผิดก็คือผิด จะกล่าวโทษสิ่งอื่นใดไม่ได้ เช่นนั้นแล้วข้าจึงอยากที่จะชดใช้ให้แก่นาง” หานเยว่สารภาพถึงสิ่งที่อยู่ภายในใจ

“สิ่งที่กระทำลงไปแล้ว ไม่ว่าท่านจะพยายามหรือทุ่มเทมากเพียงใด ก็ไม่อาจชดเชยหรือลบล้างสิ่งที่ตนเองได้กระทำในอดีตได้ เกรงว่าท่านคงอยากที่จะทำเพื่อให้ความรู้สึกผิดที่มีอยู่ภายในใจของตนเองนั้นลดลงเสียมากกว่า” เยว่ซินรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหานเยว่จากผู้เป็นอาจารย์มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่แม้จะรู้เช่นนั้น นางก็ยังไม่คิดว่าตนเองจะต้องมีใจเอนเอียงให้แก่ชายผู้นี้

“ท่านกล่าวเช่นนั้นถูกต้องแล้ว เพราะข้ารู้สึกผิดต่อนาง รู้สึกผิดมากจนไม่อาจยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นได้ เพราะข้าอ่อนแอและโง่เขลา จึงคิดว่าหากนางตื่นขึ้นมา ไม่ว่าสิ่งใดที่เป็นความต้องการของนาง ข้าก็จะทำเพื่อนางโดยไม่มีข้อแม้”

“เช่นนั้นแล้ว หากนางไม่อยากหวนคืนเล่า หากนางอยากที่จะจากท่านไปเพื่อที่จะได้เริ่มต้นใหม่ ท่านจะยอมปล่อยให้นางจากไปได้หรือไม่” เยว่ซินเอ่ยถาม ก่อนที่แววตาของหานเยว่จะพลันไหววูบขึ้นมา

“ข้าเป็นเพียงคนขี้ขลาดผู้หนึ่ง นอกจากนี้แล้วข้ายังมีความเห็นแก่ตัวมากอีกด้วย เพราะความเห็นแก่ตัวของข้า ข้าจึงไม่อาจปล่อยให้นางจากไปได้” หานเยว่กล่าวยอมรับความจริงในข้อนี้อย่างตรงไปตรงมา

ในขณะที่หานเยว่ตอบคำถามอยู่นั้น เยว่ซินก็ได้แต่เบือนหน้าหนีเพื่อจัดการกับอารมณ์อ่อนไหวของตนเอง ก่อนที่นางจะหันมากล่าวกับหานเยว่ต่อไปเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นก่อนหน้านี้

นางไม่ได้ร้องไห้ ไม่ได้ร้องเลยสักนิด ที่เห็นว่ามีน้ำตา อาจจะเป็นแค่ฝุ่นที่ปลิวเข้าตาของนางเพียงเท่านั้น เยว่ซินคิดหาข้ออ้างให้แก่ตนเอง

“หากท่านอยากให้ข้าช่วยเหลือนาง ท่านที่นับว่าเป็นสามีของนางก็ควรพยายามที่จะช่วยเหลือนางด้วยตัวท่านเองเสียก่อน”

“ข้าต้องทำเช่นไร” หานเยว่เอ่ยถาม ในขณะที่แววตาเริ่มมีความหวังปรากฏขึ้นมาบ้างแล้ว

“ดอกไม้ที่นางชอบรวมไปถึงอาหารต่าง ๆ ให้ท่านนำมาวางไว้ข้างเตียงนาง ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะกระตุ้นให้ร่างกายนางได้รับรู้ถึงกลิ่นนั้น ตำราที่นางชอบอ่าน ท่านก็จงอ่านให้นางฟัง เพื่อกระตุ้นการรับฟังของนาง กล่าวคือ ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่นับได้ว่าเป็นความชื่นชอบของนาง ท่านจงกระทำในสิ่งเหล่านั้นเพื่อนาง เพราะนั่นจะเป็นการกระตุ้นและเรียกวิญญาณของนางให้หวนคืน ท่านทำได้หรือไม่” เยว่ซินเอ่ยอธิบาย

“ขะ ข้า” เมื่อได้ยินขั้นตอนเหล่านั้น หานเยว่ก็พลันหน้าซีดลงไปมากยิ่งกว่าเดิม

“ท่านทำไม่ได้ใช่หรือไม่” เยว่ซินเอ่ยถาม แม้ว่านางจะรู้ดีในคำตอบนั้นอยู่แล้ว

“ข้าย่อมทำได้ เพียงแต่ข้า..” หานเยว่รู้สึกผิดต่อคนรักไม่น้อย เช่นนั้นแล้วเขาจึงละอายเกินกว่าจะยอมรับว่า เขาไม่รู้สิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับตัวนางเลย

เขาไม่รู้ว่านางชอบสิ่งไหน เวลาว่างชอบทำสิ่งใด เช่นนั้นแล้ว เขาจึงไม่อาจตอบได้อย่างเต็มปากว่าตนนั้นจะสามารถทำในสิ่งที่เยว่ซินกล่าวออกมาได้หรือไม่

ยกตัวอย่างเช่น ดอกไม้ที่จัดอยู่ในแจกัน เขาเพียงเห็นแล้วเกิดความรู้สึกชื่นชอบมันก็เท่านั้น จึงได้นำมาใส่แจกันไว้ให้นาง หากแต่นางชอบหรือไม่ชอบนั้น หานเยว่กลับไม่อาจล่วงรู้ได้เลย

ไม่รู้ว่าหานเยว่จะทำหน้าเช่นไร ถ้าหากว่าเขาได้รู้ว่า เหล่าดอกไม้ที่เขาได้นำมาจัดในแจกันให้แก่ฮูหยินของตนนั้น นอกจากนางจะไม่ชื่นชอบในความสวยงามของมันแล้ว นางยังไม่ชอบในกลิ่นที่หอมจนฉุนของมันอีกด้วย

“เพียงแต่ท่านไม่รู้ว่านางชื่นชอบสิ่งใด ไม่รู้ว่านางชอบทานอาหารแบบไหนหรือชอบอ่านตำราประเภทใดใช่หรือไม่ ท่านแม่ทัพ ท่านไม่รู้อะไรที่เกี่ยวข้องกับตัวนางเลยแม้แต่อย่างเดียว เช่นนั้นแล้ว ความรักของท่าน คือความรักในรูปแบบไหนกัน” คำถามที่เปรียบดั่งมีดอีกหนึ่งเล่ม บัดนี้ได้ปักลงที่กลางใจของหานเยว่อีกครั้งแล้ว

“อาจเป็นเพราะอาศัยอยู่ที่ชายแดนมาเนิ่นนาน ข้าจึงไม่อาจจดจำในความชื่นชอบเหล่านั้นของนางได้”

“เช่นนั้นแล้ว ข้าขอถามท่านต่ออีกสักเล็กน้อย เมื่อยามที่ท่านกลับมาจากชายแดนแล้ว อาหารที่ท่านชื่นชอบ ตำราที่ท่านชอบอ่าน หรือสิ่งที่ท่านให้ความสนใจ สิ่งเหล่านั้น ฮูหยินของท่านนางรู้หรือไม่” เยว่ซินถามคำถามกลับไป ก่อนที่จะจ้องมองหน้าของอีกฝ่ายเพื่อรอฟังในคำตอบ

เมื่อเยว่ซินกล่าวจบ ความทรงจำของหานเยว่ที่เกี่ยวกับผู้เป็นภรรยาก็พลันปรากฏชัดเจนขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนเป็นการตอกย้ำว่าในอดีตเขานั้นได้ทำผิดพลาดไปมากเพียงใด

นางเตรียมอาหารไว้รอเขาเสมอ ทุกอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะ ล้วนเป็นสิ่งที่เขาชื่นชอบทั้งสิ้น สวนดอกไม้ทั้งหลายที่นางได้ปลูกเอาไว้ภายในจวน ทุกต้นล้วนเป็นต้นที่เขาชื่นชอบ

ยิ่งสวนดอกไม้เล็ก ๆ ที่อยู่ริมหน้าต่างเรือนนอนของเขา ดอกไม้เหล่านั้นที่คอยส่งกลิ่นหอม ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและหลับสบายได้ตลอดทั้งคืน ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา ฮูหยินของเขาล้วนจดจำในสิ่งเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี

“ท่านแม่ทัพ ข้าไม่ได้อยากที่จะซ้ำเติมท่าน เพียงแต่สิ่งที่ข้าจะกล่าวก็คือ แม้ระยะเวลาที่ได้อยู่ร่วมกันนั้นจะสำคัญ หากแต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือความใส่ใจต่างหาก ท่านไม่ใส่ใจนางเมื่อยามที่นางมีชีวิตอยู่ เช่นนั้นแล้วจะเรียกนางให้หวนคืนกลับมาเพื่อสิ่งใดกัน ไม่สู้ปล่อยให้นางจากไปเสีย อย่างน้อย ๆ ก็ให้นางได้ไปเริ่มต้นใหม่ ท่านไม่คิดว่าสิ่งนี้จะดีต่อนางมากกว่าหรือ” เยว่ซินไม่ได้ประชด แต่นางกล่าวชี้แนะอีกฝ่ายด้วยความจริงใจก็เท่านั้น

นางไม่ได้อยากให้เขาต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ต่อจากนี้ด้วยความรู้สึกผิดอีกต่อไปแล้ว คนเราทุกคนล้วนผิดพลาดได้ด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่จะมีสักกี่คนที่จะทำใจยอมรับในความผิดพลาดนั้นและเลือกใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีความสุข

เยว่ซินคิดว่า การที่หานเยว่มัวแต่จมอยู่กับความรู้สึกผิดเช่นนี้ นอกจากจะไม่ทำให้สิ่งใดดีขึ้นมาแล้ว กลับยิ่งจะทำให้ผู้ที่จากไปแล้วมีความเป็นกังวลและทุกข์ใจมากขึ้นเท่านั้น

“ท่านหมอ ท่านหมายถึง นางต้องการที่จะเริ่มต้นใหม่โดยไม่มีข้าเช่นนั้นหรือ” ในที่สุด หานเยว่ก็ได้ถามคำถามที่ตนหวาดกลัวที่สุดออกไปแล้ว

“ในช่วงเวลาที่นางต้องการท่าน ท่านกลับละเลยไม่ใส่ใจต่อการมีอยู่ของนาง แม้ท่านจะคิดได้ในวันนี้ ข้าก็เกรงว่านางคงไม่ปรารถนาที่จะหวนคืนกลับแล้ว” เยว่ซินตอบคำถามนั้นด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง

เมื่อเยว่ซินกล่าวจบ ใบหน้าของหานเยว่ก็มีเพียงความเศร้าเสียใจปรากฏชัดเจนขึ้นมาอีกครั้ง

เขาไม่อาจกล่าวโทษสวรรค์ ไม่อาจกล่าวโทษฟ้าดิน เพราะเขาคือสาเหตุที่ทำให้นางต้องมาเผชิญเคราะห์กรรมเช่นนี้

“ท่านหมอ หากข้าอยากที่จะกล่าวสิ่งใดกับนาง ท่านว่านางจะได้ยินหรือไม่” หานเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและเริ่มมีหยาดน้ำตาไหลออกมา ในขณะที่เยว่ซินที่เห็นเช่นนั้น นางก็ได้แต่ตกตะลึง ด้วยไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าร้องไห้ต่อหน้านางเช่นนี้

นี่นะหรือ บุรุษที่กอบกู้บ้านเมืองจากสงคราม เหตุใดถึงได้มีนิสัยเจ้าน้ำตาเช่นนี้

“นางได้ยินหรือไม่ล้วนไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือท่านได้ปล่อยวางสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ภายในใจต่างหาก” เยว่ซินไม่คิดว่า ชีวิตนี้จะมีวันที่นางต้องมานั่งปลอบบุรุษที่เป็นถึงแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่แห่งแคว้นอย่างท่านแม่ทัพเกาหานเยว่ผู้นี้

“ข้ามีสิ่งที่อยากจะกล่าวกับนางสักเล็กน้อย” หานเยว่เอ่ย พลางจ้องมองเยว่ซินด้วยดวงตาที่เริ่มแดงก่ำ

“เช่นนั้น ข้าไม่รบกวนแล้ว เชิญท่านกล่าวกับนางตามสบายเถิด” เยว่ซินกล่าวจบก็เตรียมที่จะลุกจากไป นางไม่ได้อยากที่จะรับฟังหรือได้ยินสิ่งใดอีกต่อไป รู้มากเท่าใดก็ยิ่งเป็นทุกข์มากเท่านั้น และนางเองก็ไม่อยากที่จะเป็นทุกข์ไปมากกว่านี้แล้ว

“ท่านหมอ ข้าอยากให้ท่านอยู่ที่นี่ด้วย ท่านช่วยอยู่รับฟังเป็นเพื่อนนางได้หรือไม่” หานเยว่กล่าวอ้อนวอน

“เรื่องราวของพวกท่าน ไม่ควรดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเช่นนี้ ข้าออกไปรอด้านนอกดีกว่า” เยว่ซินบ่ายเบี่ยง เพื่อหาหนทางรอดให้แก่ตนเอง นางไม่อยากที่จะอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจเช่นนี้

“ข้าไม่นับว่าท่านคือผู้อื่น ถือว่าข้าขอร้องท่าน ช่วยอยู่ที่ตรงนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้ข้าได้หรือไม่” หานเยว่ยังคงไม่ละความพยายาม

“เอาเถิด ๆ ข้าจะอยู่ที่นี่ เช่นนั้นแล้ว หากท่านจะกล่าวสิ่งใดก็รีบ ๆ กล่าวให้นางฟังเถิด” เยว่ซินยอมแพ้ในที่สุด

เมื่อเห็นว่าเยว่ซินรับปากที่จะอยู่ร่วมรับฟังการสารภาพความผิดบาปและสิ่งที่อยู่ภายในใจของตนเองแล้ว หานเยว่ก็ค่อย ๆจับมือเรียวของฮูหยินตนเองขึ้นมากุมไว้เบา ๆ ก่อนที่เขาจะจุมพิตลงที่ฝ่ามือของนางอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน

“มือของนาง เล็กมากเลยทีเดียว หากแต่ข้าคงไม่มีโอกาสที่จะได้สัมผัสมือคู่นี้ของนางแล้ว” เมื่อหานเยว่กล่าวจบ เยว่ซินก็เอาแต่นิ่งเฉยไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา

เมื่อหานเยว่เห็นอีกฝ่ายนิ่งเงียบไปเช่นนี้ เขาจึงได้เอ่ยถ้อยคำที่เหลืออยู่ภายในใจออกมา

“หนิงเอ๋อ เป็นข้าเองที่กระทำผิดต่อเจ้า ข้าไม่อาจอ้อนวอนขอให้เจ้ายกโทษให้ แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะมีความสุขและยิ้มได้ไม่ว่าอยู่ที่ใด แม้ไม่อาจหวนคืนมาเพื่อพบกันอีกครั้ง แต่ข้าก็อยากที่จะให้เจ้าได้รู้ว่า เจ้าคือสตรีเพียงคนเดียวที่ข้ารักและจะรักตลอดไป’ หานเยว่กล่าวลาผู้เป็นฮูหยินของตนด้วยจิตใจที่ปวดร้าวเกินทน

เมื่อสิ้นสุดถ้อยคำลาแล้ว หานเยว่จึงได้หันไปมองเยว่ซิน ที่ตอนนี้กำลังเบือนหน้าหนีและมีน้ำตารินไหลอยู่บนใบหน้าไม่ไกล

“ท่านหมอ นับจากนี้ข้าคงต้องรบกวนท่านแล้ว แม้จะปวดร้าวเพียงใด แต่หากนี่คือความต้องการของนาง ข้าก็ยินดีที่จะปล่อยให้นางได้จากไป จากไปเพื่อเริ่มต้นใหม่อย่างมีความสุข” ในที่สุดแล้ว หานเยว่ก็ไม่คิดที่จะเหนี่ยวรั้งฮูหยินของตนไว้อีกต่อไป

“ท่านหมอ ท่านว่านางจะมีความสุขหรือไม่ นางจะยกโทษให้ข้าได้หรือไม่” หานเยว่เอ่ยถามเยว่ซิน ประหนึ่งนางคือฮูหยินของตนเอง แม้จะรู้ดีว่าคำถามนี้มีเพียงแค่หนิงเอ๋อของเขาเท่านั้นที่จะสามารถตอบได้ แต่เขาก็เลือกที่จะถามคำถามนี้กับเยว่ซิน อีกทั้งยังรอฟังคำตอบจากนางอย่างตั้งใจ

“ขออภัย หากแต่ข้าไม่ใช่นาง เช่นนั้นแล้วข้าคงตอบคำถามนี้ของท่านไม่ได้” เยว่ซินกล่าวโดยไม่คิดที่จะเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย

“หากท่านเป็นนางเล่า ข้าหมายถึง หากเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นกับท่าน ถ้าหากว่าท่านก็คือนาง ท่านจะรู้สึกเช่นไร” หานเยว่ยังคงถามต่อ เขาจะถามจนกว่าตนเองจะได้ฟังคำตอบนี้จากปากของนาง

“อืม คงไม่มีสิ่งใดที่ทำให้นางเป็นทุกข์มากกว่าการได้อยู่เคียงข้างท่านอีกต่อไปแล้ว” เยว่ซินกล่าวตอบ ก่อนที่นางจะยื่นมือไปดับเตากำยานที่วางอยู่ในห้อง

เตากำยาน นับได้ว่าเป็นสิ่งที่ยื้อลมหายใจของร่างนี้ให้ฝืนทนอยู่มาได้นานจวนจบวันนี้ เมื่อใดกลิ่นหอมจากกำยานนี้หมดลง เมื่อนั้นเศษวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ภายในร่างนี้ก็จะหวนคืนเพื่อหลอมรวมกับแก่นวิญญาณเดิม

ความรักก็ดี ความเห็นแก่ตัวก็ดี ไม่ว่าใครก็ล้วนมีสิ่งเหล่านี้อยู่ภายในจิตใจด้วยกันทั้งสิ้น เมื่อไม่อาจปล่อยวางเรื่องราวในอดีต ย่อมไม่สามารถที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างมีความสุข

ในที่สุดแล้ว วันนี้หานเยว่ก็มีความกล้ามากเพียงพอที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงต่อจากนี้ได้แล้วเสียที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel