บทที่4 แม่ทัพปีศาจ ヅ
หลี่ซูฮวา หญิงสาวที่ถูกวางยาและสิ้นใจลงไปภายในเกี้ยวเจ้าสาวก่อนที่จะก้าวเข้าสู่พิธีแต่งงานกับแม่ทัพปีศาจจ้าวอวิ๋นซี ภายหลังจากสิ้นใจและดวงจิตท่องไปในโลกที่มืดมิดได้เพียงไม่นาน ร่างของซูฮวาก็ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง หากแต่ดวงวิญญาณของนางที่ฟื้นตื่นขึ้นมาในครั้งนี้ กลับมีความทรงจำของตนเองในอีกชาติภพหนึ่งตามติดมาด้วย ซึ่งก็คือความทรงจำของเพียงฝัน หญิงสาวจากคริสต์ศตวรรษที่ 21นั่นเอง
ชาตินั้นก็ไม่ได้นับว่าตายดีด้วยว่าตกสระน้ำตาย ชาตินี้ยังจะต้องมาแต่งเข้าจวนของแม่ทัพที่แสนจะป่าเถื่อนเช่นนี้ มีหวังชีวิตน้อย ๆ ของนางต่อจากนี้คงไม่แคล้วต้องสิ้นลมหายใจลงไปอีกครั้งในไม่ช้าแล้ว ซูฮวาได้แต่ทอดถอนใจอย่างเหนื่อยล้า
เดิมทีแล้ว ซูฮวาก็ไม่ได้อยากที่จะมีชีวิตที่ยืนยาวสักเท่าไรนัก เพราะความคิดและการเป็นอยู่ของตนนั้นก็ล้วนไม่สู้ดีสักเท่าไร หากแต่พอได้รับความทรงจำของตนเองในอีกภพหนึ่งเพิ่มเติมเข้ามา จึงทำให้ซูฮวารู้สึกว่า การมีชีวิตอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีแต่อย่างใด อีกทั้งนางยังสามารถที่จะมีความสุขไปกับสิ่งรอบตัวต่าง ๆ เหมือนดั่งที่เพียงฝันได้เคยกระทำอีกด้วย
เพียงฝันเด็กสาวที่แสนจะมองโลกในแง่ดี ผู้ที่ชื่นชอบทุกสิ่งอย่างของจีน แท้ที่จริงก็เป็นเพราะในอดีตชาตินั้นเธอเองก็เคยมีชีวิตอยู่ในแผ่นดินใหญ่แห่งนี้มาก่อน ซึ่งก็คือซูฮวาหรือตัวนางในยามนี้นี่เอง
เอาเถิด ในเมื่อเจ้ามีความมุ่งมั่นมากถึงเพียงนั้น ข้าก็จะใช้ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ให้ดี ความสุขใดที่ทั้งเจ้าและข้ายังไม่เคยได้สัมผัส ตัวข้าจะเป็นผู้คว้ามันมาไว้เพื่อครอบครองให้จงได้
ในเมื่อตอนนี้นางยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ซูฮวาก็ตั้งใจแล้วว่า จากนี้จะกระทำตนเป็นคนใหม่ มองสิ่งต่าง ๆ ด้วยมุมมองใหม่ ๆ สิ่งใดปล่อยวางได้ นางก็ล้วนยินดีที่จะพยายามปล่อยวางและไม่ยึดติดกับเรื่องราวเหล่านั้นอีกต่อไปแล้ว
แม้ในใจอยากที่จะปล่อยวางทุกสิ่งอย่างมากเพียงใด แต่ลึก ๆ ภายในใจนั้น ซูฮวาก็รู้ดีว่านางยังไม่อาจปล่อยวางความแค้นที่มีต่อสกุลหลี่ได้เลย
ก่อนหน้านี้นางสู้อดทนและคิดที่จะจากไปอย่างไม่มีสิ่งใดติดค้างในใจต่อกันแล้ว นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะใจร้ายกับนางได้มากถึงเพียงนี้ ในเมื่อตอนนี้ยังไม่อาจปล่อยวางเรื่องราวทั้งหมด เช่นนั้นก็เพียงแค่วางมันลงสักครู่ก็แล้วกัน เพราะสิ่งสำคัญต่อจากนี้ก็คือ การมีชีวิตอยู่รอดให้ได้ภายในจวนของแม่ทัพจ้าวแห่งนี้นั่นเอง
ท่านแม่ทัพโปรดเอ็นดูภรรยาตัวน้อยเช่นข้าจะได้หรือไม่ ซูฮวาเฝ้าภาวนาอ้อนวอนว่าที่สามีในอนาคตอยู่ในใจ
ในเมื่อตัวนางมีความรู้และความทรงจำที่แสนพิเศษเพิ่มขึ้นมาทั้งที ซูฮวาคนนี้ก็อยากที่จะเที่ยวชมบรรยากาศของยุคโบราณนี้ให้สาสมกับความชื่นชอบของเพียงฝันสักหน่อย ส่วนเรื่องแก้แค้นนั้น นางเป็นเพียงผู้หญิงตัวคนเดียวอีกทั้งยังไม่มีอำนาจวาสนาใด แล้วจะมีความสามารถใดไปแก้แค้นอะไรใครเขาได้ ลำพังชีวิตที่มีจะรักษาไว้ได้นานมากน้อยเพียงใดยังไม่อาจหยั่งรู้ได้เลย
ภายหลังจากที่ปลอบประโลมจิตใจตนเองได้เพียงไม่นาน บัดนี้ซูฮวาก็ต้องหันมาสนใจต่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแล้ว นั่นก็คือการที่จะต้องเข้าพิธีแต่งงานนี้ต่อไปนั่นเอง
ทางด้านจ้าวอวิ๋นซีผู้เป็นเจ้าบ่าว ด้วยว่างานแต่งงานในครั้งนี้เป็นสมรสพระราชทานที่มาจากฮ่องเต้ เช่นนั้นแล้ว แม้ตัวเขาจะไม่พอใจในตัวเจ้าสาวพร้อมทั้งสกุลเดิมของนางมากเพียงใด แต่อวิ๋นซีก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงงานแต่งงานในครั้งนี้ไปได้
เช่นนั้นแล้วก็เพียงแค่เข้าพิธีแต่งงานให้จบสิ้นไป หลังจากนี้สักหนึ่งเดือนให้หลังค่อยหาทางหย่า หรือหากนางดึงดันไม่ยอมหย่า ตัวเขาก็แค่ต้องปล่อยข่าวลือว่านางล้มป่วยและจากไปก็สิ้นเรื่อง อวิ๋นซีเฝ้าคิดหาหนทางในการกำจัดผู้เป็นฮูหยินนับตั้งแต่วันแรกที่นางได้ก้าวสองเท้าเข้ามาในจวนเสียแล้ว
ภายหลังจากที่พิธีกราบไหว้ฟ้าดินของบ่าวสาวจบสิ้นลง ซูฮวาก็ได้ถูกส่งตัวมาที่ห้องหอ เพื่อรอเจ้าบ่าวที่จะตามมาในภายหลัง
หากแต่นั่งรอได้ไม่นาน นางก็เริ่มรู้สึกถึงความไม่สบายตัวขึ้นมา อีกทั้งร่างกายก็เริ่มร้อน ๆ หนาว ๆ ด้วยว่าความร้อนรุ่มในร่างกายที่คลายลงในก่อนหน้านี้ บัดนี้ก็ได้เริ่มหวนคืนมาอีกครั้งแล้ว
ซูฮวาเพิ่งจะฟื้นขึ้นมาได้ไม่นาน ตอนนี้กลับต้องมาเจอยาปลุกกำหนัดที่บัดนี้ได้ออกฤทธิ์ขึ้นมาอีกครั้งแล้ว โดยในครั้งแรกที่ยาออกฤทธิ์นั้น ก็คือตอนที่นางได้สิ้นลมหายใจไปนั่นเอง
เมื่อไม่อาจทานทนต่อแรงกระตุ้นของฤทธิ์ยาได้แล้ว ซูฮวาก็ไม่สามารถที่จะประคับประคองสติหรือแยกแยะระหว่างความจริงและความฝันได้อีกต่อไปแล้ว
ซูฮวาที่ไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับร่างกายของตัวเองและยิ่งไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกแปลกใหม่นี้ที่เกิดขึ้นกับร่างกายนี้ได้อย่างไร ด้วยเหตุนี้ นางจึงได้คิดที่จะเดินออกไปจากห้องนี้เพื่อขอความช่วยเหลือจากใครสักคน
ความร้อนนี้ หากไม่ได้รับการระบายออกไปโดยเร็ว ซูฮวาก็คิดว่าร่างนี้คงได้ลุกไหม้เป็นไฟในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน และในขณะที่ซูฮวากำลังรีบรุดลงจากเตียง อวิ๋นซีเจ้าบ่าวป้ายแดงนั้นก็ได้เปิดประตูและเดินเข้ามาพอดี
เมื่อเห็นท่าทีที่ดูผิดปกติของซูฮวาผู้เป็นเจ้าสาวของตน อวิ๋นซีก็ไม่รอช้า รีบเปิดผ้าคลุมหน้าของอีกฝ่ายออกไปในทันทีเพื่อหาสาเหตุของท่าทีที่ดูผิดปกตินี้ โดยทันทีที่ผ้าคลุมหน้านั้นได้ถูกเปิดออก อวิ๋นซีก็ได้เห็นถึงสีหน้าและท่าทางของซูฮวาอย่างเต็มสองตาแล้ว
เพียงเท่านี้ตัวเขาก็พอที่จะเข้าใจอะไรต่อมิอะไรได้โดยไม่ต้องอธิบายสิ่งใดให้มากความอีกต่อไปแล้ว
