บท
ตั้งค่า

7.แลกสมบัติผี

เอาล่ะเธอไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆไม่ได้คิดว่าเจ้าสองตัวนี้จะกลัวพวกภูติผีด้วยทั้งที่เป็นถึงภูติแล้วยังจะกลัวภูติผีอีกถึงแม้จะเป็นภูติคนละแบบก็เถอะแต่ก็เรียกว่าภูติเหมือนกันไมใช่หรือไง

อันนี้ภูติวิญญาณอันหนึ่งภูติร่างเนื้อ

" เธอแค่นี้ก็กลัวแล้วหากต่อไปเจอการต่อสู้ยิ่งกว่านี้ยังไม่ทันสู้ก็คงปล่อยให้ตัวเองถูกฆ่าตายฟรีๆแม้แต่ศัตรูคงไม่มีเลือดออกสักหยด " มองเจ้าสองตัวนี้ที่ตัวสั่นงกกกตัวเข้าหากันจนเป็นก้อนกลมในกล่องทองทำเอาเธอมองค้อนแล้วค้อนอีกมันสองตัวก็ยังไม่รู้ตัวว่าเธอกำลังด่า

" กุ๊กกกๆๆ/จิ๊บบบบบบ " นี้คือผีนะเจ้านาย นี้เขาเรียกรู้เอาตัวรอดเป็นยอดคนต่างหาก เจ้านายตัวน้อยก็เคยสอนไม่ใช่หรือไง ลืมไปแล้วหรือทำไมไม่เข้าใจนี้คือผีนะถึงแม้จะเป็นภูติก็เป็นภูติผีไม่มีเลือดเนื้อให้พวกมันสองตัวตบตีจะสู้ยังไงสู้ไปก็เจ็บตัวเปล่าพวกมันไม่ได้โง่ขนาดนั้นสู้ไปยังไงคนที่เจ็บตัวก็คือพวกมันอีกฝ่ายแค่หายตัวก็เอาชีวิตทั้งสองตัวไปได้แล้ว

" เอ่อ " เรียกได้ว่าเจ้าสองตัวนี้ใช่คำสุภาษิตที่เธอสอนมาเถียงข้างๆคูๆกับเธอได้อย่างสวยงาม ไม่ได้ยอมเจ้าสองตัวนี้ไม่ได้ถ้าครั้งต่อไปเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกตอนเธอไม่อยู่หรือไม่สามารถสู้ได้ใครจะช่วยเธอกันล่ะ ต้องใช้ไม้แข็งซะแล้ว

" รู้ไหมทุกสิ่งอย่างมันโลกนี้ไม่ว่าจะอยู่ภพไหนมีเลือดเนื้อหรือไม่ต่างก็มีจุดอ่อน มีเลือดเนื้อหัวใจก็ต้องกลัวเจ็บหากเมื่อถูกตีมีจิตวิญญาณย่อมกลัวถูกทำลายเมื่ิอถูกจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่า " มองเจ้าสองตัวที่ดูแล้วไม่เข้าใจประโยคที่เธอพูดเลยสักนิดเพราะพวกมันเพียงเงยหน้ามองเธอแวบเดียวก็ขดตัวเข้าหากันแน่นกว่าเดิม

กลัวแบบไหนกันล่ะเนี่ยแบบที่ว่ากลัวแต่ยังอยู่ในกล่องที่กระดูกชิ้นนั้นวางอยู่ข้างๆ นี่กลัวจนลืมไปเลยหรือว่าผีตัวนี้อยู่นี้ ห๊า นี้ใช่คำพูดอย่างผู้เป็นวิญญูชนผุู้มีปัญญาแล้วนะเจ้าสองตัวนี้ทำไมยังไม่เข้าใจกันอีก หรือให้ต้องใช้คำพูดแบบ

" ปราบคนต้องใช้อาวุธตี ปราบผีต้องใช้อาคมสิ ห๊า "

" กุ๊ก/จิ๊บ "

ทันทีที่ได้ยินคำพูดง่ายๆที่ใครฟังแล้วก็เข้าใจได้เจ้าสองตัวก็เบิกตากว้างด้วยความเข้าใจ พูดแบบนี้ตั้งแต่แรกพวกมันสองตัวก็เข้าใจแล้ว ไม่รู้เจ้านายตัวน้อยจะพูดอะไรที่เข้าใจยากๆทำไมยิ่งเป็นประโยคยาวที่ฟังแล้วงงสมองน้อยๆของพวกมันสองตัวกว่าจะประมวลเหตุและผลได้ก็เสียดายเวลาและพื้นที่สมองไปเปล่าๆ

" เอาล่ะพอพวกเธอมีพลังวิญญาณมากพอฉันจะสอนวิชาปราบผีให้ บอกเลยว่าแม้แต่ถูกฝูงผีในสุสานหลอกให้กลัวทั้งฝูงก็จะมีแต่พวกเธอที่ทำให้พวกมันกลัวทั้งฝูง "

" กุ๊กๆ/จิ๊บๆ "ได้ยินแบบนั้นทั้งสองตัวยิ่งฮึกเหิม แบบนี้พวกมันก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกเพราะแม้แต่ผีในอนาคตภายหน้าพวกมันสองตัวก็สามารถตีพวกนั้นไ้ด้ ว่าแล้วก็เหลือบมองกระดูกข้อนิ้วนั้นอย่างรังเกียจพลางใช้ตีนไก่ที่คมกริบเขี่ยออกจากกล่องทองของมัน

แคร็ก

ว่าแต่ทำไมต้องใช้พวกผีในสุสานเป็นตัวเชื่อมประโยคให้กำลังใจพวกมัน คงไม่ใช่ว่าครั้งหน้าต้องไปล่าสมบัติในสุสานผีหรอกนะ

ว่าแล้วก็ต้องมองเจ้านายตัวน้อยที่เฉไฉมองพวกมันอย่างกรุ้มกริ่มรอยยิ้มนี้ทำเอามันหนาวยะเยือก ยิ่งขนพวกมันทั้งสองตัวหลุดร่วงไปกว่าครึ่งแล้วทำให้แยกแยะไม่ออกว่าความหนาวนี้มาจากภายนอกกายหรือในใจสะท้านกับความคิดของเจ้านายตรงหน้าที่เรียกได้ว่าแค่มองตาก็รู้ตับไตยันใส่ติ่ง

" อ้าวก็ถ้าครั้งหน้าพวกเธอเดินผ่านสุสานมีสมบัติวางตรงหน้า จะทำใจเดินห่างไม่จิกสักชิ้นหรือยิ่งพวกสมบัติที่อยู่ในสุสานนะพวกพลังหยินเข้มขันยิ่งกว่าซุปที่แม่เคี่ยวสามวันสามคืน ทั้งหอมทั้งอร่อย ได้กินทีเติมพลังอิ่มไปค่อนเดือนก็ยังย่อยไม่หมด "

ซ่งซิงเหลียนหลอกล่อด้วยผลประโยชน์ที่เจ้าสองตัวนี้ไม่อาจต้านทานได้แม้แต่นิดเดียว ได้ทั้งพลังได้ทั้งสมบัติจะทำใจทิ้งได้ลงหรือ

ไม่มีทางซะหรอกพวกเราทั้งสามที่เติบโตกินอยู่มาด้วยกันนิสัยใจคอเรียกว่าได้ถอดแบบออกมาเหมือนกันกว่าครึ่งยิ่งมีเธอเป็นตัวอย่างให้สองตัวนี้ที่พึงจะสามารถเปิดสติปัญญาได้สมองพวกมันย่อมเชื่อฟังต้นแบบอย่างเธอที่ยอมรับตัวเองอย่างเต็มอกว่าไม่ว่าชาติไหนตัวเองก็ไม่ใช่ผู้มีจิตใจดีบริสุทธิ์เต็มร้อยส่วน

แต่ก็ไม่ได้ไร้เหตุผลชั่วช้าทำร้ายผู้อื่นไม่เลือกหน้า

ถ้าเป็นแบบนั้นต้องถูกกรรมชั่วเล่นงานจนไม่สามารถต่อต้านสวรรค์ขึ้นเป็นเทพได้หรอก คงถูกไม่รอดอัสนีบาตลงทันฑ์ตั้งแต่สายแรก

" กุ๊กๆ " ถ้าแบบนั้นเจ้านายต้องสอนอาคมพวกเราแล้วล่ะ จะให้ทำใจเดินหนีกองสมบัติตรงหน้าหรือ มันไม่ยอมหรอกจิกสักชิ้นสองชิ้นหรือ อาจทำให้รู้สึกดีบ้าง

" จิ๊บๆ " ใช่ต้องสอนให้เร็วที่สุด มันไม่ยอมหรอกแค่สมบัติชิ้นสองชิ้นมันจะเอาทั้งหมดเลยต่างหาก เรื่องอะไรจะปล่อยให้ผู้อื่นชุบมือเปิบ

เอาล่ะเธอเชื่อแล้วว่าหลักสูตรนักขุดทองได้ถูกส่งต่ออย่างสมบูรณ์แล้ว

" ตอนนี้เรามาแลกเปลี่ยนสมบัติกันได้แล้วล่ะ ทุกอย่างต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนบนโลกนี้หากเราเอาของที่ไร้เจ้าของไปก็อาจถูกกรรมเล่นงานได้เพราะอยางนั้นหากจะเอาอะไรก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนไม่ว่าจะมีค่ามากน้อยหรือไม่ " นี้คือการตัดกรรมหรือลดกรรมในแบบเธอที่ตอนนี้เป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีความโลภ

" จิ๊บๆ " แลกสมบัติ

" กุ็กๆ " แลกกับอะไรแลกกับใคร

สายตาของซ่งซิงเหลียนมองกระดูกชิ้นนั้นที่ถูกตีนไก่ของเสี่ยวเฟยเขี่ยทิ้งหล่นลงออกจากกล่องเป็นคำตอบให้ทั้งสองตัวว่าต้องแลกกับใคร

" ก็แลกสมบัติกับผีตนนี้แหละ " ส่วนจะแลกกับอะไรนั้นคิดไม่ออกเลยจริงๆ เพราะไม่เคยแลกเปลี่ยนกับผีเลย ถ้าเป็นโลกก่อนที่จะมาเกิดละก็คงเป็นยาลูกกลอน สมุนไพรล้ำค่า อัญญมณีหายาก อาวุธวิเศษหรือไม่ก็เป็นวิชาอาคมที่ไร้ผู้ต่อกร แต่นั้นเป้นการแลกเปลี่ยนกับผู้ที่มีเลือดเนื้อด้วยกันอีกอย่างไม่ใช่ผีที่มีแค่วิญญาณแบบนี้

สิ่งที่ท่านอาจารย์ที่เคยพูดไว้วิญญาณมีความต้องการหลังความตายแค่ไม่กี่อย่าง บุญกุศล ฮวงซุ้ยไว้ฝังร่าง และการแก้แค้นก่อนตายลง แต่ดูเหมือนตอนนี้เธอไม่สามารถจะให้อีกฝ่ายได้สักอย่าง

" งั้นเอาอย่างนี้ ฉันจะปลดปล่อยเธอออกจากที่นี้แล้วกันเป็นการแลกเปลี่ยนกับสมบัติพวกนี้ที่เธอช่วยอยู่เฝ้ามาหลายปี " เห็นก้อนสีแดงที่ตอนนี้ไอสีดำเริ่มจางนิ่งไปนานทำให้เธอตัดสินใจแล้วว่าเอาแบบนี้ที่เธอทำแล้วล่ะ เมื่อดูแล้วว่าจิตวิญญาณที่กลายเป็นภูติผีตนนี้ไม่ใช่ผีร้ายที่มีความอาฆาตแค้นอะไรกลับกันนี้คือวิญญาณแห่งความยึดติดที่น่าสงสารมากกว่า

กระดูกข้อนิ้วนั้นสั่นสะท้านเล็กน้อยทั้งความกลัวและความโมโหที่ตีกันยุ่ง 

กลัวที่สู้ไปก็ทั้งเจ็บทั้งแพ้ โมโหที่ต้องสูญเสียสมบัติที่เฝ้ามานานหลายร้อยปีกลายเป็นของผู้อื่น

"ได้ ท่านเซียน " แต่ยังไงล่ะแลกกับอิสระที่ถูกจองจำมานานหลายร้อยปีในถ้ำนี้มันก็ต้องเลือกเพื่อตัวเองอยู่แล้ว ทำไมต้องมาเสียเวลาเฝ้าของพวกนี้ที่ไม่รู้ว่าจะมีใครมาเอาไปโดยไม่มีอะไรมาแลกเปลี่ยนกับมันบ้าง

สู้แลกเปลี่ยนกับท่านเซียนน้อยผู้นี้ดีกว่า ดูมีวิชาอาคมแกร่งกล้าน่าเชื่อถือกว่าพวกหนวดขาวที่เอาชีวิตมาทิ้งไว้เมื่อหลายร้อยปีที่แล้วอีก

" ท่านเซียนแค่ปลดปล่อยข้าได้ ท่านเซียนก็เอาสมบัติไปได้ทั้งหมดเลยขอรับ " ล้อข้ากันเล่นหรือถึงปลดปล่อยข้าไม่ได้สมบัติพวกนี้ท่านก็จะต้องเอาไปอยู่ดี สู้ก็ไปก็เจ็บตัว เอาคำพูดรื่นหูเข้าตัวให้ดูน่าสงสารดีกว่าเผื่อท่านเซียนน้อยผู้นี้อาจเมตตาหาหนทางอื่นช่วยเหลือมันหรือแลกเปลี่ยนอย่าอื่นที่ทำให้มันไม่ต้องเจ็บตัวเสียสมบัติไปเปล่าๆ

" ได้เลย " เพียงแค่ยกมือวาดอักขระแสงสีทองก็พุ่งยังทิศทางหนึ่งของฝากถ้ำที่มันรู้ดีถึงทิศทางนั้น

ซี่ๆๆๆๆๆ เปรี๊ยะ

เสียงตาข่ายอาคมที่ถูกเผาไหม้จนหมดเกลี้ยงต่อหน้าทำเอาวิญญาณถึงกับกู่ร้องออกมาในที่สุดช่วงเวลาที่ทรมานมันก็สิ้นสุดลงแล้ว นับจากนี้มันกลายเป็นภูติผีที่สามารถล่องลอยไปมาได้อย่างอิสระไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในที่นี้แล้ว

ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีผู้ที่สามารคถทำลายอาคมนี้ได้แคโบกมือเดียว ตาแก่หนวดขาวหลายคนก็สู้ท่านเซียนน้อยที่ดูแล้วอายุไม่ถึงสิบขวบปีไม่ได้

" ขอบพระคุณท่านเซียนน้อย " ก้อนดวงวิญญาณสีแดงสดใสพุ่งตัวออกจากถ้ำโดยไม่เลี้ยวหลังและลังเลแม้แต่น้อย ด้วยมันฝันถึงอิสระที่รอมานาน จากนี้ไปมันจะไม่กลับมาที่นี้อีก

สมบัติพวกนี้หรือมันไม่สนใจสักนิด

" กุ๊ก/จิ๊บ " แค่นี้หรือ

" แค่นี้ล่ะ " 

ไม่ว่าจะเป็นอะไรแค่มีจิตวิญญาณอยู่ก็เจรจากันได้ให้สมปรารถนา
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel